ข่าวใหญ่แวดวงธุรกิจสตาร์ทอัพในค่ำคืนที่ผ่านมา เห็นจะเป็นข่าวการปิดดีลครั้งใหญ่ระหว่าง Bitkub และ SCB โดยที่ SCB ได้เข้าซื้อหุ้นสามัญในสัดส่วน 51% ด้วยมูลค่า 17,850 ล้านบาท ทำให้ Bitkub ขึ้นแท่นสตาร์ทอัพยูนิคอร์น (Unicorn) ตัวที่ 3 ของไทย
.
DigiMusketeers ชวนผู้อ่านทุกท่านมาทำความรู้จักความหมายของ “ยูนิคอร์น” ว่าทำไมถึงเป็นเป้าหมายสำคัญของเหล่าสตาร์ทอัพทั่วโลก และทำไม Bitkub ถึงกลายเป็นยูนิคอร์นตัวที่ 3 ของประเทศ
.
ยูนิคอร์น (Unicorn) ถูกนำมาใช้เรียกสตาร์ทอัพที่ดำเนินธุรกิจแค่ 3-5 ปี แต่ประสบความสำเร็จอย่างก้าวกระโดด จนมีมูลค่าเกิน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 33,000 ล้านบาท ในต่างประเทศเราได้เห็นสตาร์ทอัพชื่อดังอย่าง Uber, Airbnb, หรือ Snapchat เป็นต้น หากย้อนไปในช่วงแรกๆ ยูนิคอร์น มีการใช้ครั้งแรกในปี 2556 ไอลีน ลี นักลงทุนในสหรัฐอเมริกา ให้ข้อมูลว่า โอกาสที่สตาร์ทอัพจะสร้างมูลค่าได้ถึง 1 พันล้านเหรียญเป็นสิ่งที่ยากมาก ถ้าใครทำได้ก็จะกลายเป็นตำนานเหมือนยูนิคอร์นั่นเอง
.
นอกจากนี้ยังมีคำว่า มายลิตเติ้ลโพนี่ (My Little Pony) หมายถึงธุรกิจมูลค่าบริษัทมากกว่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ “เดเคคอร์น” (Decacorn) มาจากคำว่า (Deca-) ที่แปลว่า 10 หมายถึงธุรกิจสตาร์ทอัพที่มีมูลค่าเกิน 1 หมื่นล้านเหรียญ เช่น Dropbox, SpaceX, Flipkart และ Pinterest
.
แกะรอย “ยูนิคอร์นไทย”
ปัจจุบันในไทยมียูนิคอร์นเพียงไม่กี่รายเท่านั้น โดยรายแรกคือ “แฟลช กรุ๊ป” หรือ “Flash Express” ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ที่เรารู้จักและเคยใช้บริการ Flash Express สามารถระดมทุนได้มากที่สุดในระยะเวลาเพียง 3 ปี ทำให้ธุรกิจมีมูลค่ากว่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 30,000 ล้านบาท ถือเป็นสตาร์ทอัพสัญชาติไทย ที่ก่อตั้งและดำเนินธุรกิจโดยคนไทยรายแรกที่อยู่ในระดับยูนิคอร์น
.
ส่วนยูนิคอร์นตัวที่ 2 เป็นของ “Ascend Money” สตาร์ทอัพฟินเทคของไทยที่อยู่เบื้องหลังบริการอีวอลเล็ตที่หลายคนรู้จักอย่าง TrueMoney ได้ประกาศรับเงินลงทุนในรอบซีรีส์ C เป็นเงินมูลค่า 150 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 5,036 ล้านบาท ส่งผลให้ปัจจุบัน Ascend Money กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่า 1,500 ล้านเหรียญ
.
มาถึงยูนิคอร์นตัวที่ 3 สดๆ ร้อนๆ คือ “Bitkub” ซึ่งในวันก่อนหน้านั้นเหรียญบิทคับราคาพุ่งสูงในช่วงท้ายก่อนปิดตลาดอยู่ที่ 99.99 บาท สร้างความสงสัยให้ผู้คนอย่างมาก และคำตอบก็ได้รับการเฉลยเมื่อ SCB ได้ประกาศทุ่มงบกว่า 17,850 ล้านบาท เข้าเข้าซื้อหุ้นสามัญในสัดส่วน 51% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดในบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด ทำให้ SCBS กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ทันที
.
สำหรับผู้ที่ยังไม่รู้จัก Bitkub เราขออธิบายสั้นๆ ตรงนี้ว่า Bitkub เป็นบริษัทสตาร์ทอัพที่โตเร็วที่สุดบริษัทหนึ่งในประเทศไทยสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วถึง 600% แม้กระทั่งในปี 2020 ที่เศรษฐกิจซบเซาลงจาก COVID-19 ยังสามารถโตได้มากกว่า 1,000% และมีมูลค่าซื้อขายบนกระดานมากกว่า 300 ล้านบาทต่อวัน
.
ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลเติบโตอย่างราดเร็ว และมีโอกาสเติบโตได้ดีในระยะยาว การที่ SCBX เข้ามาลงทุนใน Bitkub จะช่วยให้กลุ่ม SCBX เติบโตได้อย่างเต็มกำลัง สอดคล้องกับยุทธศาสตร์องค์กรที่ต้องการยกระดับการเงินให้ตอบสนอความต้องการใหม่ของผู้บริโภค และสามารถแข่งขันในสนามได้
.
Bitkub ไม่ใช่แค่สตาร์ทอัพ แต่เป็นโครงสร้างพื้นฐานของวงการการเงินไทย
คุณจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา Group CEO ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด กล่าวว่า “Bitkub ได้เดินมาถึงจุดที่เราได้กลายเป็นโครงสร้างสำคัญของเศรษฐกิจในอนาคตของประเทศไทย หรือที่เรียกว่า Digital Economy ต่อจากนี้ Bitkub ไม่ได้เป็นเพียงสตาร์ทอัพอีกต่อไป แต่กำลังจะก้าวมาเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นต่อวงการการเงิน 3.0 ของประเทศไทย ในตอนนี้เราได้พา Bitkub มาถึงจุดเปลี่ยนที่สำคัญมาก และเพื่อที่จะนำ Bitkub ให้ก้าวไปสู่ระดับโลก พวกเราต้องการพาร์ทเนอร์ที่แข็งแกร่งมาเป็นกำลังเสริมให้ไปถึงได้เร็วขึ้นอย่างยั่งยืน นั่นเป็นเหตุผลที่เราจับมือร่วมกับ SCBS”
.
การร่วมมือกันครั้งนี้ทำให้ Bitkub ก้าวสู่การเป็นยูนิคอร์นรายที่ 3 ของไทยทันที อย่างไรก็ตามหากย้อนไปในช่วงเดือนมกราคมจนถึงเดือนกันยายนปีนี้ Bitkub มีมูลค่าการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลรวมประมาณ 1.03 ล้านล้านบาท คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 92% ขณะที่ Bitkub มีรายได้รวม 3,279 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,533 ล้านบาท
.
สำหรับเช้าวันแรกหลังจากดีลหมื่นล้าน ราคาหุ้นของ SCB ดีดตัวขึ้น 3.08% หรือเพิ่มขึ้น 4 บาท อยู่ที่ 134 บาท มีมูลค่าการซื้อขาย 998.09 ล้านบาท เมื่อเวลา 9.57 น. (วันที่ 3 พ.ย. 64) จากราคาเปิด 133.50 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 134 บาท ราคาต่ำสุด 133.50 บาท
.
มาถึงตรงหนี้ อาจมีคำถามตามมาว่า ก่อนหน้านี้ผู้ให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัลมักมาพร้อมแพชชั่นที่ต้องการ Disrupt ธนาคาร แล้วทำไมคราวนี้ถึงควบรวมกันได้ เมื่อพิจารณาข้อดี ทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจมากขึ้น หากเกิดความเสียหายก็มีธนาคารเป็นผู้รับผิดชอบนั่นเอง
.
โดยหลังจากการเข้าถือหุ้นใหญ่ใน Bitkub SCB มีแผนที่จะพัฒนาธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลด้านต่าง ๆ ผ่านโมเดลทางธุรกิจรูปแบบใหม่ร่วมกับ Bitkub ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในระยะยาว และวางรากฐานในการเข้าสู่โลกการเงินแห่งอนาคตต่อไป
.
เราขอแถมอีกเรื่องที่เป็นจุดแข็งของ Bitkub นั่นคือ การเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยคนเก่ง ภายใต้การนำของคุณจิรายุส ที่ตั้งเป้าว่าจะเป็นองค์กรที่นำคนเก่งมาไว้ด้วยกัน เพื่อความรวดเร็วและลดขั้นตอนการทำงานที่ไม่จำเป็นออกไป ด้วยวิธีการ Set Up องค์กรให้มี “The 5 Levels of Leadership” เพื่อดูแลบุคลากรที่มีความเก่งกาจให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นวาทยากรชี้แนะแนวทางการทำงานให้ทุกคนในองค์กรให้มีความสำเร็จสูงขึ้น และสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นประโยชน์ต่อทุกคน
.
ข้อมูลจาก
https://www.set.or.th/set/pdfnews.do?newsId=16358088172711&sequence=0
https://www.infoquest.co.th/2021/141749
https://www.bitkub.com/blog/facts-bitkub-48f9e70e08a5
https://www.krungsri.com/th/plearn-plearn/unicorn-startup
