ณ เวลานี้ใครๆ ต่างก็พูดถึง Metaverse เมื่อบริษัท Social Media ระดับโลกอย่าง Facebook ตั้งเป้าว่าจะดึงดูดให้ผู้คนเข้ามาใช้งานในโลก Metaverse ให้ถึง 1 พันล้านคนภายใน 10 ปี
ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาโลกตื่นเต้นกับการใช้เทคโนโลยี AR และ VR อย่างมาก แม้กระแสจะมาๆ หายๆ เมื่อมี Metaverse เข้ามา บริษัทใหญ่ๆ พร้อมใจให้การตอบรับที่ดี ถือเป็นสัญญาณบวกในโลกอนาคต
Metaverse คืออะไร?
Metaverse เป็นแนวคิดแห่งอนาคตที่ผสมผสานเทคโนโลยีการจำลองโลกเสมือน (Virtual Reality – VR) กับเทคโนโลยีเสมือนผสานโลกแห่งความจริง (Augmented Reality – AR) ที่เชื่อมโยงโลกเสมือนกับโลกแห่งความจริงเข้าด้วยกัน
คนที่ปลุกกระแสคำนี้คือ Mark Zuckerberg ที่ได้ประกาศรีแบรนด์เปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่ จากเดิม Facebook เป็น Meta เพื่อปรับกลยุทธ์สู่การเป็น Metaverse ทั้งนี้ แอปฯ Facebook ยังคงใช้ชื่อเดิม และไม่ใช่แค่มาร์กเท่านั้น บริษัทใหญ่ระดับโลกก็กำลังเดินทางบนถนนสายนี้
ในอนาคตวิถีชีวิตจะเปลี่ยนไป
Facebook เชื่อว่า Metaverse จะเป็นอนาคตของอินเทอร์เน็ต จึงต้องการสร้างโลกอินเทอร์เน็ตที่จับต้องได้ การสื่อสารผ่านหน้าจอไม่เพียงพออีกต่อไป Facebook พยายามลดข้อจำกัดเหล่านี้ ที่ผ่านมาบริษัททุ่มพัฒนาเทคโนโลยีหลายๆ อย่าง เพื่อให้สมจริงยิ่งขึ้น ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อปูทางสู่โลก Metaverse โดยเฉพาะ VR ที่ทำให้เราอยู่ในโลกเสมือนจริง ที่มุ่งพัฒนาทั้ง Hardware และ Software
Facebook เริ่มจากการเข้าซื้อกิจการแว่นตาอัจฉริยะ Ocutus และมีการก่อตั้ง Facebook Reality Labs เพื่อพัฒนาอุปกรณ์ VR และ AR ที่ราคาจับต้องได้ นอกจากนี้ Facebook ยังเข้าซื้อกิจการ CTRL-Labs บริษัทสตาร์ทอัพที่ผลิตสายรัดข้อมือที่ทำให้เราสามารถควบคุมสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ดิจิทัลอื่นๆ ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาการสัมผัสใดๆ
Ray-Ban Stories แว่นที่มีกล้อง ลำโพง ไมค์ และสั่งการด้วยเสียงได้ สามารถใส่ในชีวิตประจำวันได้ มีแนวโน้มว่าในรุ่นต่อๆ ไป Ray-Ban Stories อาจแสดงผล AR บนเลนส์ ซึ่งขณะนี้ Facebook และ CTRL-Labs กำลังพัฒนาเทคโนโลยี AR อยู่เช่นกัน
ส่วนด้านซอฟต์แวร์ ในปี 2019 เฟซบุ๊ก ได้เปิดตัว Facebook Horizon เทคโนโลยีโลกเสมือนที่จะทำให้ชาวโซเชียลสามารถสร้างอวตารขึ้นมาใหม่ในเมืองจำลองบนโลกออนไลน์ และทำกิจกรรมต่างๆ มากมายได้ ไม่ว่าจะดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม หรือพูดคุยสื่อสารกับเพื่อนทั่วโลก และในปีนี้ Facebook ได้ต่อยอดเป็น Horizon Workroom ที่ช่วยให้ผู้ใช้ทำงานบนโลกเสมือนได้
จับมือกันไปได้ไกลกว่า
เกม Epic Games ภาพจาก https://www.washingtonpost.com/
อย่างไรก็ตาม การตื่นตัวของ Facebook เพียงบริษัทเดียวไม่สามารถขับเคลื่อนโลก Metaverse ได้ทั้งหมด การที่จะมีเทคโนโลยีจำนวนมากเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตคนทั่วโลก ต้องเติมเต็มองค์ประกอบหลายๆ อย่าง ซึ่งขณะนี้บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ต่างก็สนใจ Metaverse ทั้ง Microsoft, Nvidia, Epic Games ที่ต่างก็อยู่ระหว่างขั้นตอนการพัฒนาทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ และส่วนใหญ่มองว่า Metaverse จะเป็นนวัตกรรมที่สำคัญของโลก
Metaverse จะอยู่ในชีวิตประจำวันได้อย่างไร
เปรียบเทียบให้เห็นภาพคือ เทคโนโลยี VR มักถูกใช้ในวิดีโอเกมส์ ผู้เล่นจะสามารถมองเห็นโลกเสมือนจริงและสามารถโต้ตอบผ่านอุปกรณ์ เป็นการเข้าใช้งานเป็นครั้งคราว แต่ในโลก Metaverse เทคโนโลยีจะอยู่ในชีวิตประจำวันทุกกิจกรรม
ตอนนี้หลายๆ ประเทศก็ได้เริ่มมุ่งหน้าสู่โลก Metaverse แล้ว โดยจีนเป็นหนึ่งในประเทศน่าจับตามอง หลายบริษัทเทคโนโลยีในจีนได้พัฒนาสิ่งต่างๆ เพื่อรองรับชีวิตดิจิทัล เช่น Alibaba บริษัท E-Commerce รายใหญ่จากจีน ได้ยื่นเอกสารเพื่อขอเครื่องหมายการค้าในนวัตกรรมใหม่ๆ เกี่ยวกับ Metaverse ประกอบไปด้วย Ali Metaverse, Taobao Metaverse เพื่อยกระดับการช้อปปิ้งออนไลน์ มีการคาดการณ์ว่า ในธุรกิจแฟชั่น อาจมีเทคโนโลยีลองเสื้อผ้าเสมือนจริง
ด้าน Tencent ได้มีการยื่นขอเครื่องหมายการค้ากว่า 100 รายการ เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่าน หนึ่งในนั้นประกอบไปด้วย QQ Metaverse แอปฯ แชท, QQ Music Metaverse แอปฯ ฟังเพลง และ Kings Metaverse แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งและเกม
สำหรับประเทศไทย ในช่วงเดือนกันยายน 2564 ที่ผ่านมา เอเยนซี่ SIA Bangkok ก็ได้เปิดตัว ไอ ไอรีน อินฟลูเอนเซอร์สาววัย 21 ปี ซึ่งเป็น Metaverse Human หรือมนุษย์บนโลกเสมือนจริงคนแรกของไทย เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้แก่ผู้บริโภคบนโลกออนไลน์
ธุรกิจจะปรับตัวอย่างไร
นักการตลาดยุคดิจิทัลต้องสร้างประสบการณ์ให้ลูกค้าโดยผสมผสานโลกจริงและโลกเสมือน เพื่อสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้ลูกค้า ดังนั้น แบรนด์จึงต้องพัฒนาแพลตฟอร์มให้เข้าไปอยู่ในโลก Metaverse เช่น ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เปิดให้ลูกค้าเยี่ยมชมบ้านผ่านเทคโนโลยี VR ที่ให้ความรู้สึกเหมือนเข้าไปอยู่จริง หรือการจัดอีเวนท์ที่ทุกคนเข้าร่วมได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม
ภาพจาก http://mediask.co.kr/90001-232
มุ่งสู่ Metaverse โดยไม่ทิ้งออฟไลน์ไว้ข้างหลัง
จากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ จะเห็นว่าบริษัทต่างๆ พร้อมใจกันหันหัวเรือไปสู่โลก Metaverse โดยพยายามเชื่อมต่อโลกจริงกับโลกเสมือนจริงเข้าด้วยกัน แม้แต่ละองค์ประกอบจะยังไม่สำเร็จ 100% เราอาจไม่เห็นภาพความเป็นไปได้ แต่อย่าลืมว่าเทคโนโลยีพัฒนาไปเร็วกว่าที่คิด อีกทั้งยังมีวิถีชีวิตแบบ New Normal เป็นยากระตุ้นชั้นดี ไม่แน่ว่าในอีก 1-2 ปีข้างหน้า เราทุกคนจะอยู่ในโลก Metaverse โดยที่ไม่รู้ตัว
========================================
ข้อมูลจาก
https://techsauce.co/news/alibaba-and-tencent-to-build-metaverse
