ทำคอนเทนต์ให้ปัง สัตว์เลี้ยงช่วยเพิ่ม Engagement ได้จริงหรือ?

Digimusketeers, 26 July 2022

อยากให้คอนเทนต์มี Engagement พุ่ง ลองใช้ภาพสุนัข-แมว หรือสัตว์เลี้ยงตัวโปรดดูไหม?

มีงานวิจัยยืนยันว่าสัตว์เลี้ยงช่วยเพิ่ม Engagement บน Social Media เพิ่มขึ้น 63% ซึ่งสูงกว่าโพสต์ในกลุ่มธุรกิจ และมีหลายการศึกษาพบว่า สัตว์เลี้ยงช่วยคลายความเหงา ปรับอารมณ์ให้ดีขึ้น และช่วยให้คุณอยากเข้าสังคมมากขึ้น จึงไม่แปลกใจที่ผู้คนจะกดไลก์ หรือแชร์โพสต์ที่มีสัตว์เลี้ยง ดังนั้น ลองพิจารณาการใช้ภาพสัตว์เลี้ยงในชิ้นงานสักครั้ง แล้วคุณจะติดใจ

ภาพสัตว์เลี้ยง ช่วยกระตุ้น Engagement ได้อย่างไร?

โดยส่วนใหญ่แล้วภาพสัตว์เลี้ยงบน Social Media มักจะให้ผลลัพธ์ในเชิงบวกมากกว่า ช่วยสร้างความผูกพันระหว่างแบรนด์กับกลุ่มเป้าหมาย และสร้างให้เกิดการมีส่วนร่วมในวงกว้าง

ปัจจุบัน Social Media ถือเป็นเครื่องมือการสื่อสารและทำตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ บางครั้งการที่นำภาพสัตว์เลี้ยงมาใช้นั้นก็ต้องคิดอีกว่า จะตรงกับอัตลักษณ์ของแบรนด์ สินค้า/บริการ หรือวัฒนธรรมองค์กรหรือไม่ แน่นอนว่าในการทำ Content Marketing คุณไม่จำเป็นต้องโพสต์แต่เรื่องสินค้าหรือโปรโมชัน แต่ควรโพสต์เรื่องทั่วไปที่คนอยากเห็นด้วย เพราะผู้คนเดี๋ยวนี้ไม่ใช้โซเชียลเพื่อเสพคอนเทนต์ขายของอย่างเดียว

กฎเกณฑ์ในการใช้ Social Media ถูกเขียนขึ้นใหม่ทุกวันก็จริง แต่กฎสำหรับการโพสต์ภาพสัตว์เลี้ยงยังได้รับความนิยมอยู่เสมอ เหมือนกันการศึกษาของ NewsWhip ที่ได้ทำวิจัยว่าการมีสัตว์เลี้ยงในโฆษณา หรือโพสต์ต่างๆ บน Social Media กระตุ้นให้เกิด Engagement ได้มาก ทั้งมีคอมเมนต์เพิ่มขึ้น 89% และเพิ่มไลก์เฉลี่ย 19%

ตัวอย่างใช้ภาพสัตว์เลี้ยงใน Social Media แล้วได้ Engagement ถล่มทลายจาก US Bank อย่างที่ทราบกันว่าเรื่องการเงิน และการธนาคารไม่ใช่ Topic ที่ทุกคนสนใจ ทางธนาคารจึงใช้ภาพสุนัขในแคมเปญ #DogsofUSBank เพื่อบริจาคเงินให้องค์กรเกี่ยวกับสัตว์ ผลปรากฏว่าหลังจากโพสต์ถูกปล่อยออกไป Engagement Rate เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 63.2% เลยทีเดียว และยังช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้แบรนด์ในทางที่ดีอีกด้วย ทั้งเรื่องความเป็นกันเอง สนุกสนาน เข้าถึงง่าย และเป็นแบรนด์ที่รักสัตว์

นอกจากนี้ บรรดาบริษัทดังอย่าง Mercedes-Benz, Pizza Hut, Skittles, Netflix และ LG ก็ไม่พลาดที่จะนำสัตว์เลี้ยงแสนน่ารักมาใช้เพื่อสร้าง Engagement เช่นกัน โดยคลิปที่มีแมวเพิ่มการมีส่วนร่วมได้มากถึง 32% 

Pizza Hut ประเทศญี่ปุ่นใช้น้องเหมียวโชว์กระบวนการต่างๆ ในร้าน

อย่างไรก็ตาม การใช้ภาพสัตว์เลี้ยงในโฆษณาควรดูบริบทหรือภาพลักษณ์ของแบรนด์ด้วย ว่าสามารถเชื่อมโยงกับอารมณ์และพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายได้มากแค่ไหน

หมา VS แมว

มีงานวิจัยบอกว่า สุนัขช่วยกระตุ้นและโน้มน้าวใจกลุ่มเป้าหมายได้ดีในสินค้า/บริการประเภทการลงทุน และรถยนต์ ในขณะที่แมวจะทำหน้าที่ได้ดีในส่วนของกลุ่มประกันภัย และการศึกษาจาก Budget Direct Pet Insurance ได้วิเคราะห์โพสต์บน Instagram พบว่า แฮชแท็ก #ilovecats ได้รับความนิยมมากกว่า #ilovedogs

นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลว่าโฆษณาที่มีแมวมียอดวิวบน YouTube มากกว่าวิดีโอปกติถึง 27 เท่า ส่วนวิดีโอที่มีสุนัขมียอดวิวสูงกว่าวิดีโอปกติ 5 เท่า ทว่า คลิปที่สุนัขมี Engagement มากกว่าคลิปที่มีแมว

หากถามว่าแบบไหนดีกว่ากัน คงต้องย้อนกลับไปที่จุดประสงค์ของแคมเปญนั้นๆ ถ้าอยากได้ Engagement ต้องเลือกแมว หรือถ้าอยากสร้างการรับรู้ โพสต์เด่นสะดุดตา ต้องเลือกสุนัข

Cat Marketing คือ

เมื่อพูดถึงการใช้สัตว์เลี้ยงเป็นสื่อกลางในการทำตลาด “Cat Marketing” ก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่น่าสนใจ เป็นการนำเจ้าเหมียวมาทำตลาดในรูปแบบต่างๆ เช่น Infographic, การสร้างตัวตนให้แมวเป็น Influencer ด้วยการมีบัญชี Instagram หรือการทำสินค้าคอลเลกชันพิเศษที่มีน้องแมวเป็นองค์ประกอบสำคัญ

ภาพจาก https://www.easel.ly/

Children’s cat print messenger bag

ภาพจาก https://www.gucci.com/

ทำไมคนถึงสนใจสัตว์

ในเชิงจิตวิทยาเรื่องอารมณ์ มนุษย์ในฐานะผู้บริโภคที่มักถูกชักนำด้วยอารมณ์ง่ายๆ และเป็นไปได้ว่า 95% ของการตัดสินใจซื้อสินค้ามาจากอารมณ์ล้วนๆ และเป็นการตัดสินใจโดยไม่รู้ ดังนั้น มนุษย์จึงขับเคลื่อนด้วยอารมณ์และความรู้สึกมากกว่าตรรกะด้านเหตุผล

ทฤษฎีวิวัฒนาการของชาร์ลส์ ดาร์วิน ได้อธิบายถึงความเชื่อมโยงระหว่างสัตว์กับมนุษย์ไว้ว่า มนุษย์จะรู้สึกผูกพันกับสัตว์ทุกชนิด ไม่ใช่แค่สัตว์เลี้ยงของตัวเอง และไม่จำกัดอยู่แค่สัตว์เลี้ยงในบ้าน แต่รวมถึงในป่าด้วย

ซึ่งความผูกพันที่ว่านี้จะแสดงออกชัดเจน เพียงแค่คุณเข้า YouTube แล้วเสิร์จหาคลิปสัตว์และนอนดูเพลินๆ เผลอแปปเดียวก็จมอยู่ไม่ต่ำกว่า 1 ชั่วโมง อาทิ คลิปปลาว่ายน้ำ สิงโตล่าเหยื่อ ยีราฟคลอดลูก หรือแพนด้ากลิ้งไปกลิ้งมา คลิปเหล่านี้ดึงดูดความสนใจเราได้ดีทีเดียว และเมื่อสัตว์ปรากฏอยู่ในโลโก้แบรนด์ หรือสินค้าใดก็ตาม ก็เหมือนแปะป้ายเชิญชวนให้ซื้อ กรณีนี้รวมถึงภาพการ์ตูนที่เป็นรูปสัตว์ด้วย

สมองประมวลผลด้วยรูปภาพ

เช่นเดียวกับการถูกชักจูงด้วยอารมณ์ สมองของมนุษย์ยังถูกชักจูงด้วยรูปภาพ และจะตอบสนองได้เป็นอย่างดี เพราะยังไงรูปภาพก็เข้าใจง่ายกว่าข้อความ ด้วยเหตุนี้ สัตว์จึงมีผลในเชิงบวกมากกว่า ทำให้หลายๆ แบรนด์เลือกใช้โลโก้เป็นภาพสัตว์นั่นเอง อาทิ Lacoste ที่ใช้จระเข้, Swarovski มีโลโก้เป็นหงส์ และแบรนด์เครื่องดื่ม Bacardi ใช้ภาพค้างคาว เป็นต้น

ในส่วนของการค้นหา คนไทยก็มักโดนหมาและแมวตกอยู่ตลอดเวลา จากเทรนด์การค้นหาใน Google Trends ทำให้เห็นว่าหมาและแมวยังอยู่ในความสนใจของคนไทยเสมอ ลองสังเกตตัวเองดูว่าเวลาเลื่อนฟีดในหน้า Facebook แล้วเห็นคลิปน้องแมวน่ารักๆ คุณก็มักจะหยุดดู หรือเห็น MEME เจ้าหมาชิบะก็อดอมยิ้มไม่ได้

ภาพจาก https://i.kym-cdn.com/entries/icons/original/000/013/564/doge.jpg

การใช้ภาพสัตว์ในโฆษณาต้องพิจารณาเรื่องไหนบ้าง

แน่นอนว่าการใช้สัตว์ในแคมเปญโฆษณาไม่ใช่กุญแจสู่ความสำเร็จ ดังนั้น ก่อนที่คุณจะใช้สัตว์ในแคมเปญโฆษณา ควรพิจารณาให้ดีเสียก่อน 

  • สัตว์ชนิดใดที่ถ่ายทอดตัวตนของแบรนด์ได้ออกมาดีที่สุด
  • ต้องการให้ลูกค้ารู้สึกอย่างไรเมื่อเห็นสัตว์ในโฆษณา

สำหรับแบรนด์ที่มีไอเดียในการใช้สัตว์เลี้ยงโปรโมทสินค้า อย่ารอช้า ลงมือทำเลย!

 

ข้อมูลจาก

https://nichefire.com/how-can-pets-improve-social-media-engagement/

https://retailwire.com/discussion/are-cats-or-dogs-better-for-advertising/

คุณกำลังต้องการเพิ่มยอดขายออนไลน์ให้ธุรกิจของคุณอยู่หรือไม่

ปรึกษาฟรี!

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้ของเรา

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับ
Manage Consent Preferences บันทึก