ถ้าพูดถึงการทำคอนเทนต์ที่ดีจะต้องเล่าเรื่องสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ เนื้อหาต้องมีประโยชน์ รูปภาพต้องสวยจะได้ถูกใจกลุ่มเป้าหมาย หรือผู้บริโภคเมื่อมาเห็น แต่นอกจากนี้แล้วยังต้องนับรวมสไตล์ของการคอนเทนต์ทำด้วยนะ เพราะยิ่งแบรนด์ทำคอนเทนต์ออกมาได้หลากหลายสไตล์ก็มีส่วนช่วยให้คอนเทนต์นั้นดูไม่ซ้ำซากจำเจ หรือดูน่าเบื่อ อีกทั้งการทำคอนเทนต์ที่หลากหลายสไตล์นั้นช่วยให้แบรนด์สามารถนำคอนเทนต์เก่า ๆ ที่เคยทำไปแล้วมารีไรซ์ใหม่ได้แบบไม่ซ้ำเดิมอีกด้วยนะ เพราะสุดท้ายแล้วแบรนด์อาจจะต้องนำคอนเทนต์เก่ามาเล่าใหม่บ้าง เป็นข้อมูลสำหรับลูกค้าหรือคนใหม่ ๆ ที่พึ่งเข้ามาเจอแบรนด์ของเราด้วย
ถ้าหากกลุ่มลูกค้าใหม่ต้องการหาข้อมูลของสินค้าจะได้ไม่ต้องเสียเวลาขุดหาคอนเทนต์เก่า ๆ ที่แบรนด์เคยทำไปตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นทำแบรนด์แรก ๆ เพราะจากประสบการณ์ที่เคยเจอหลายแบรนด์มักจะไม่ทำคอนเทนต์ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับสินค้าซ้ำ ๆ เพราะรู้สึกว่าก็เคยทำไปแล้ว จะทำอีกทำไม ความยากในการศึกษาหาข้อมูลเลยตกไปอยู่ที่ลูกค้าที่สนใจในตัวโปรดักของแบรนด์นั่นเอง ถ้าต้องเสียเวลาหาอยู่นาน บางคนตัดใจไม่ซื้อไปเลยก็มีนะ
คอนเทนต์ 12 สไตล์ที่แบรนด์ต้องมี
บทความ, บล็อก
การเขียนคอนเทนต์สไตล์บทความหรือบล็อกจะช่วยให้แบรนด์สามารถบอกเล่ารายละเอียดในสิ่งที่ต้องการได้เยอะ และลงลึกมากขึ้นกว่าคอนเทนต์ธรรมดา และยังมีประโยชน์หากบทความนั้นเป็นสิ่งที่ผู้คนกำลังให้ความสนใจ หรือมีการค้นหาข้อมูลอยู่ จะช่วยดันให้บทความของแบรนด์ไปติดอันดับหน้าค้นหาของ Google แบบไม่ต้องเสียค่าโฆษณาเลยด้วย นอกจากนี้ยังส่งเสริมความเป็นผู้เชี่ยวชาญให้กับแบรนด์ด้วย ด้วยเนื้อหาที่สามารถเขียนแบบเชิงลึกได้ เขียนได้ยาวและเยอะ แถมยังดูเป็นการให้ความรู้ ไม่ได้ทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่ากำลังอ่านคอนเทนต์เชิงขายเกินไป คอนเทนต์ที่เหมาะกับการเขียนสไตล์นี้จะเป็นพวก Evergreen, Knowledge, Tips, สถิติ หรือวิจัยต่าง ๆ
Trend Content
คอนเทนต์สไตล์คอนเทนต์สไตล์นี้สำคัญมาก ควรทำมากด้วย เพราะจะเป็นการส่องสปอร์ตไลท์ให้แบรนด์ได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ เมื่อแบรนด์กระโดดเข้าไปร่วมแจมสิ่งที่ผู้คนกำลังให้ความสนใจในขณะนั้น แต่ก็อย่าลืมความสร้างสรรค์ในการทำด้วยนะ เพราะถ้าไปซ้ำกับแบรนด์อื่นก็ไม่น่าสนใจแล้วล่ะ เพราะคนเคยเห็นมาแล้วไงล่ะ
Infographic Content
คอนเทนต์สไตล์อินโฟกราฟิกนั้นสามารถนำมาเขียนได้หลายแบบไม่ว่าจะเป็นทริค เช็กลิสต์ เปรียบเทียบ สถิติ หรือข้อมูลเชิงอันดับ ยิ่งถ้ามีการดีไซน์ที่สวยงามเหมาะกับแบรนด์ หรือตรงกับความชอบของกลุ่มเป้าหมายยิ่งได้ยอดแชร์ ยอดไลก์เยอะแน่นอน เพราะคอนเทนต์แบบนี้นั้นเหมาะกับนิสัยของคนยุคใหม่ที่ไม่ชอบอ่านตัวอักษรเยอะ ๆ มองแค่ภาพเป็นหลัก แค่ดูภาพก็เข้าใจเนื้อหาทั้งหมดไม่ต้องไปอ่านแคปชั่นยาว ๆ แถมยังดูสนุกมากขึ้นเมื่อมีการนำเอาอีโมจิ สัญลักษณ์ต่าง ๆ มาอธิบายแทนตัวอักษร
How to, Tips
คอนเทนต์สไตล์นี้จะเป็นการให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า หรือรายละเอียดต่าง ๆ ของแบรนด์ แต่จะเป็นเชิงให้ความรู้มากกว่าการขายตรง ๆ เพื่อเป็นข้อมูลให้กับลูกค้าที่กำลังสนใจ หรือซื้อสินค้าไปแล้วแต่ยังไม่มั่นใจในการใช้งาน ซึ่งแบรนด์สามารถสามารถแทรกลูกเล่นในการดีไซน์ภาพเข้าไปได้ จะใช้เป็นภาพจริง เวกเตอร์ หรือเป็นแบบ GIF มีความเคลื่อนไหวเล็กน้อย นอกจากนี้ยังสามารถเอาคอนเทนต์เดิมที่เคยทำไปแล้วมาดีไซน์ใหม่ก็ได้นะ
Relate Content
ไม่จำเป็นว่าคอนเทนต์ของแบรนด์จะต้องเป็นการให้ความรู้เกี่ยวกับตัวแบรนด์หรือโปรดักไปทุกอันก็ได้ คั่นกลางด้วยที่เกี่ยวข้องแต่เป็นเชิงไลฟ์สไตล์เบา ๆ บ้างก็ดี ไม่จำเป็นจริงมีสาระตลอดเวลา หรือการแชร์คอนเทนต์จากที่อื่นที่มีความเกี่ยวข้องกับแบรนด์บ้างในบางครั้ง และยังสามารถนำคอนเทนต์นั้นมาต่อยอดหรือขยี้ต่ออีกก็ได้นะ
Quotes
คอนเทนต์สไตล์โควทคำพูดนั้นดีตรงที่ใช้เวลาทำไม่นาน ทำแล้วดูมีความรู้ หรือเป็นผู้เชี่ยวชาญ แถมผู้บริโภคยังชอบแชร์คอนเทนต์อะไรแบบนี้ด้วย เพราะทำแล้วรู้สึกว่าตัวเองดูเท่ ดูเก่ง แบรนด์สามารถเอาโควทที่ดูมีความเกี่ยวข้องมาทำได้ จะเอามาคั่นช่วงที่เพจยังไม่มีคอนเทนต์อะไรลงเพื่อทำให้เพจดูมีความเคลื่อนไหวอยู่ด้วยก็ดีนะ
Video Content
ยุคที่คนไม่ชอบอ่านแต่ชอบดูมากกว่า คอนเทนต์สไตล์ถือว่าเหมาะมาก ๆ ยิ่งถ้าเป็นเรื่องที่ต้องอธิบายยาว ๆ หรือเขียนแล้วคนอ่านจะเข้าใจยาก เปลี่ยนมาทำคอนเทนต์สไตล์นี้ได้เลย ถ้าเล่าเรื่องได้สนุกก็ยิ่งดึงให้คนดูนานขึ้น รู้จักแบรนด์มากขึ้น ถ้าดีสุดๆ ก็อาจจะกลายเป็นวิดีโอไวรัลเลยก็ได้
Event, Activity Content
ถ้าแบรนด์อยากสร้างการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมาย ผู้บริโภค เราแนะนำให้ทำคอนเทนต์สไตล์นี้เลย และควรมีทุกเดือนด้วย เรียกยอดเอ็นเกจได้ดีสุด ๆ ไม่ว่าะทำเป็นคอนเทนต์ Webinars, Event บนออนไลน์ หรือคอนเทนต์ Activirty สนุก ๆ ให้พวกเขาให้ร่วมสนุกก็ถือว่าแบรนด์ได้ใกล้ชิดผู้บริโภคมากขึ้น
อีกทางหนึ่งคือถ้าอยากได้ความคิดเห็นจากกลุ่มลูกค้าจริง ๆ ลองทำคอนเทนต์ที่ถามความรู้สึกของพวกเขาดูสิ อาจได้คอมเมนท์ดี ๆ เพื่อมาปรับปรุง พัฒนาต่อยอดแบรนด์ของคุณให้ดีขึ้นไปอีกก็ได้
Festivals Content
คอนเทนต์อีกหนึ่งสไตล์ที่แบรนด์ไม่ควรพลาดเลยก็คือคอนเทนต์เทศกาล วันสำคัญต่าง ๆ ยิ่งถ้าครีเอเตอร์สามารถเอามาปรับใช้ให้เชื่อมโยงกับแบรนด์ตัวเองได้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี สร้างการรับรู้ให้แบรนด์ได้ดีเลยทีเดียว และยังช่วยให้แบรนด์มีส่วนร่วมในงานเฉลิมฉลองต่าง ๆ สร้างภาพลักษณ์มีสีสันและสร้างเอ็นเกจทำให้เพจดูมีความเคลื่อนไหวตลอด เพราะเทศกาลมีทุกเดือนอยู่แล้ว
Case Studies Content
เรื่องจริงในการทำแบรนด์ คือแบรนด์ต้องทำยอดขายเพื่อให้ไปต่อได้ ดังนั้นคอนเทนต์สไตล์ Case Studies หรือรีวิวจากลูกค้าจึงสำคัญ และเป็นสิ่งที่ควรมี ลองหยิบเอา Positive Feedback จากพวกเขาเหล่านั้นมาต่อยอดเป็นคอนเทนต์แบรนด์ก็ถือเป็นการใช้ Social Proof สร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้บริโภคที่กำลังสนใจแบรนด์ได้มากขึ้น กล้าที่จะซื้อสินค้าของแบรนด์มากขึ้น
Storytelling Content
การบอกเบื้องหลังที่มาที่ไปกว่าจะมาเป็นแบรนด์ในวันนี้ผ่านมาอะไรมาบ้างก็เป็นอีกสไตล์คอนเทนต์ที่แบรนด์ควรทำมากที่สุด เพราะสิ่งนี้ทำให้แบรนด์มีโอกาสได้บอกข้อดี ความใส่ใจละเอียดรอบคอบในแต่ละขั้นตอนกว่าจะออกมาเป็นสินค้าที่วางขายทุกวันนี้ได้ เพื่อให้ผู้บริโภครู้สึกได้ว่าแบรนด์สื่อสารไปอย่างจริงใจ โปร่งใสและเปิดเผยทุกอย่าง ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ ซึ่งคอนเทนต์แบบนี้ยังสามารถแบ่งทำเป็นอีพีให้ผู้บริโภคได้รอติดตามต่อไปอีกด้วยนะ
PR Content
คอนเทนต์ประเภท PR ช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้แบรนด์ดูดีขึ้นได้นะ เช่น การไปร่วมคอลแลปกับแบรนด์อื่นที่อาจเป็นแบรนด์ใหญ่ แบรนด์ดัง มีฐานลูกค้าเยอะ หรือการประกาศไปว่าแบรนด์ได้รับรางวัลอะไรมาบ้าง คอนเทนต์นี้ไม่จำเป็นต้องมีทุกเดือนก็ได้ ใช้แค่บางโอกาสเท่านั้นก็พอ เพราะคนที่เข้ามาดูเพจคือคนที่กำลังหาช่องทางการซื้อ หรือกำลังหาข้อมูลสินค้าของแบรนด์อยู่มากกว่าการเห็นข่าวว่าแบรนด์ไปจับมือกับใครบ้าง ผู้บริหารเป็นใคร
อยากทำคอนเทนต์ให้ปัง ทั้งคนอ่านและคนทำไม่รูสึกน่าเบื่อ ซ้ำซากหรือจำเจ ลองเอาทริคเหล่านี้ไปปรับใช้ได้ตามสบายเลยจ้า
