ยุคเศรษฐกิจแย่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจดูดวงให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง

ใคร ๆ ก็รู้กันดีว่าเศรษฐกิจช่วงนี้ในบ้านเรากำลังอยู่ในช่วงวิกฤต ข่าวออกกันครึกโครมทั้งออนไลน์และออฟไลน์ พอยิ่งเสพข่าวก็ยิ่งจิตตก รีบเดินสายดูดวง ทำบุญกันใหญ่ หวังว่าจะช่วยให้ชีวิตดีขึ้น สังเกตได้ว่าเดี๋ยวนี้ใคร ๆ ก็พึ่งดวงกันมากขึ้น “วันนี้เสื้อสีอะไรมงคลนะ?” “วันนี้ออกจากบ้านต้องก้าวเท้าข้างไหน” “ดวงช่วงนี้เป็นยังไงนะ” หรือ “ช่วงนี้รู้สึกเจอแต่อะไรก็ไม่รู้ แวะดูดวงกับหมอประจำสักหน่อยดีกว่า”

ดูดวงแล้วรู้สึกดี สักการะหรือบูชาอะไรสักอย่างแล้วรู้สึกว่าอุ่นใจขึ้น หรือทำแล้วชีวิตดีขึ้น มีที่ยึดเหนี่ยวทางใจให้สู้ชีวิตต่อไปได้ ไม่ว่าจะเป็นคนแก่ ผู้ใหญ่ หรือในกลุ่มวัยรุ่นต่างก็เดินทางมูเตลูกันทั้งนั้น ทำไมธุรกิจสายดูดวงจึงเติบโตขึ้นมาก โดยเฉพาะในยุคนี้เศรษฐกิจย่ำแย่กันนะ ? ไปดูความหมายและคำตอบพร้อมกันเลย

ความหมายของคำว่าดูดวง ศาสตร์แห่งมูเตลู

ถ้าย้อนไปยุคเก่าก่อนคนมักจะเรียกศาสตร์นี้กันว่าดวงหรือดูดวง แต่ยุคนี้มีคำใหม่ที่มาเรียกแทนว่า มูเตลู คำ ๆ นี้มีที่มาจากภาพยนตร์สยองขวัญจากประเทศอินโดนีเซียที่ชื่อว่า ‘Penangkal limu Teluh มูเตลู ศึกไสยศาสตร์’ แต่มีการตัดคำให้เรียกกันสั้น ๆ ง่าย ๆ ว่า ลิมู เตลู แปลว่า คำสาป คาถา หลังจากนั้นคนไทยก็เรียกกันติดปากมาตลอดว่า มูเตลู 

อินไซต์ของธุรกิจดูดวง

งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยมหิดล (เมื่อหลายปีที่แล้ว) เผยว่า จำนวนประชากรชาวไทยกว่า 60 ล้านคน มีประมาณ 80% หรือ 52 ล้านคนของจำนวนประชากรทั้งหมดนั้นมีความเชื่อและศรัทธาเกี่ยวกับศาสตร์ของการดูดวงหรือมูเตลู ถือเป็นจำนวนที่มากพอที่นักธุรกิจสามารถลงสนามในตลาดนี้ได้และได้ดีด้วย ซึ่งนักการตลาดก็เอาความศรัทธานี้มาใช้เป็นธุรกิจที่ลงลึกไปถึงความต้องการที่แท้จริงของผู้บริโภค 

 – สร้างความมั่นใจ : การใช้ของตามสีมงคล การมีเครื่องรางเสริมดวง การท่องคาถาก่อนออกจากบ้านและอีกมากมาย

 – ความอยากรู้ : การดูดวงอย่าง เนื้อคู่ของตัวเองมีลักษณะเป็นแบบไหน, ในอนาคตจะมีหน้าที่การงานที่ดีหรือไม่ หรือในอนาคตจะได้มีลูก ได้แต่งงานหรือไม่

ธุรกิจดูดวงยังคงอยู่และมักกระแสดีในช่วงเศรษกิจแย่

บางคนอาจคิดว่าศาสตร์เรื่องการ เป็นของคนยุคเก่า ป้า ๆ น้าอาทั้งหลาย หารู้ไม่ว่าเด็กรุ่นใหม่ก็พึ่งศาสตร์ดูดวงเหมือนกัน สังเกตได้ชัด ๆ เลยก็คือการตั้งวอลเปเปอร์มูเตลู ทำไมกันนะศาสตร์แห่งการถึงไม่จางหายไปจากเรา แม้ว่าโลกจะหมุนไปไวแค่ไหนก็ตาม

การพูดถึงปากต่อปากในทุกยุค

ศาสตร์การดูดวงนั้นมีแต่ตั้งแต่ยุคสมัยเก่า ตั้งแต่รุ่นทวด ปู่ ย่า ตา ยาย มาสู่พ่อแม่ในยุคที่ตั้งแต่โทร 1990 1990 และมาถึงยังรุ่นเรา ๆ ในปัจจุบันนี้ มีการเล่าบอกต่อกันมาเรื่อย ๆ รวมถึงเรื่องลี้ลับอีกมากมายที่คนรุ่นใหม่ไม่ได้ปักใจเชื่อ แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่ายังคงเจอเรื่องแปลก ๆ ที่อธิบายไม่ได้กันอยู่ ทำให้การดูดวง หรือศาสตร์มูเตลูไม่ได้จางหายไป เด็ก ๆ กลุ่มคนรุ่นใหม่ก็ยังได้ยินหรือผ่านตากันมาตลอด

ศาสตร์แห่งการดูดวงปรับเข้ายุคเทคโนโลยี

อีกเหตุผลที่ทำให้ธุรกิจดูดวงยังคงอยู่อีกยุคสมัยและดำเนินต่อไปได้ดีก็เพราะมันมีปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัยใหม่ที่มีเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาด้วย เรียกได้ว่าต่อให้มีเทคโนโลยีใหม่มามากแค่ไหนก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจดูดวงเลยก็ว่าได้ ยกตัวอย่างเช่น ยุคที่การตลาดออนไลน์กำลังบูมตลาดดูดวงก็ยกมาตั้งหน้าร้านในช่องทางออนไลน์ หรือในยุคของสมาร์ทโฟนให้เทรนด์ของการตั้งรูปภาพหน้าจอโทรศัพท์หรือวอลเปเปอร์ที่ช่วยเสริมดวงในเรื่องต่าง ๆ มาด้วย

หาที่พึ่งทางใจเมื่อชีวิตเจอแต่เรื่องแย่ๆ

ตั้งแต่มีภาวะโควิด-19 เข้ามา คนตกงานกันเยอะมาก ทำให้เกิดความเครียดและกดดัน แถมในช่วงนี้เศรษฐกิจประเทศไทยก็อยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สู้ดีนัก เงินเฟ้อ ของทุกอย่างแพง แต่ชีวิตเราก็ยังต้องใช้ต้องจ่าย บางคนไม่พอใช้ หาทางออกไม่เจอ ไม่รู้ชีวิตจะต้องเดินไปทางดีถึงจะเวิร์ก หลายคนเลยหาที่พึ่งพาทางใจอย่างศาสตร์มูเตลูทั้งหลาย เข้าไปสอบถาม ดูดวง ขอคำแนะนำจากหมอดูเจ้าประจำให้ชีวิตได้เจอทางออกที่ดีกับตัวเอง มันเลยทำให้ธุรกิจดูดวงกลับมาคึกคักมากในช่วงที่เศรษฐกิจย่ำแย่แบบนี้นั่นเอง

เปลี่ยนศาสตร์มูเตลูให้เป็นส่วนหนึ่งของแฟชั่น

อย่างที่บอกไปว่าศาสตร์แห่งการดูดวง หรือมูเตลู สามารถปรับเปลี่ยนไปตามกับยุคสมัยได้ ดังนั้นสินค้าเสริมดวงในยุคนี้อาจจะไม่ใช่สร้อยคอ สร้อยแขนที่ดูมีความขลัง ดูน่ากลัว หรือมีขนาดใหญ่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ของเสริมดวงพวกนั้นถูกปรับดีไซน์ให้ดูมีความสวยงามมากขึ้น ขนาดเล็กลง ให้กลมกลืนไปกับแฟชั่นยุคนี้ ทำให้เด็กยุคใหม่กล้าที่จะใส่มากขึ้น เพราะนอกจากจะช่วยเสริมดวงให้ตัวเอง ใส่แล้วก็ยังดูสวยงามตามเทรนด์แฟชั่นอีกด้วย 

ศิลปิน ดาราดังสร้าง Soft Power

ใครที่ติดตามดารางดัง ศิลปินที่ชื่นชอบก็มักจะเห็นรูปในไอจีว่าใส่สร้อย แหวน หรือวอลเปเปอร์มูเต็มไปหมด แม้กระทั่งศิลปินชาวไทยที่ดังระดับโลกอย่างสาวลิซ่า วง BlcakPink ก็ยังมาสายมูเตลูเช่นกัน กลายเป็น Soft Power ที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจดูดวงให้มีกระแสอย่างต่อเนื่อง ยอดขายกระจาย บรรดาแฟนคลับแห่กันซื้อตามเพียบ

สิ่งเหล่านี้เป็นเหตุผลว่าทำไมธุรกิจดูดวงถึงยังอยู่มาจนถึงปัจจุบันได้ และยังคงคึกคักแม้ว่าจะตรงกันข้ามกับการถดถอยของเศรษฐกิจประเทศ