การยิงโฆษณาบนเฟซบุ๊ก หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า Facebook Ads คือ การทำโฆษณาออนไลน์บน Facebook และเฟซบุ๊กแอด นับว่าเป็นวิธีแรก ๆ ที่ผู้ทำธุรกิจมักจะเลือกใช้บริการเมื่อต้องการประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการของตนเองให้กับลูกค้าทั้งเก่าและใหม่ได้ทราบ แต่สิ่งที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ก็คือในวงการยิงแอดโฆษณานั้น มีคำศัพท์เทคนิคเยอะมาก ๆ ซึ่งนักการตลาดออนไลน์มือใหม่ที่กำลังหัดทำ Facebook Ads อาจจะต้องเรียนรู้ความหมายของศัพท์เฉพาะอย่าง Lead generation, CPC, Audience Network, CBO, Social clicks ฯลฯ ให้เข้าใจเสียก่อนที่จะไปศึกษาวิธีการใช้งานตัวจัดการโฆษณาของ Facebook ต่อไป ดังนั้น ในบทความนี้เราจึงอยากแนะนำให้รู้จักกับคำศัพท์เทคนิคที่จำเป็นต้องรู้ก่อนใช้งานตัวจัดการโฆษณา Facebook หรือ Ads Manager ไปดูกันเลยดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง
#1 Ad Auctions – การประมูลโฆษณา
ในการยิงโฆษณาบนเฟซบุ๊กนั้นโฆษณาที่สร้างขึ้นมาจะยังไม่ไปปรากฏบนหน้าฟีดของผู้ใช้งานเฟซบุ๊กในทันที แต่จะต้องไปผ่านการประมูลแข่งขันกับโฆษณาอื่น ๆ ที่คล้ายกันก่อน โดยระบบของเฟซบุ๊กจะมีการเปรียบเทียบวัดคุณภาพของโฆษณา (Ad quality) ราคาประมูล (Bid) และอัตราการดำเนินงานโดยประมาณ (Estimated action rates) แล้วค่อยเลือกแสดงโฆษณาให้เหมาะสมกับช่วงเวลา เพื่อให้โฆษณามีคุณค่าทั้งกับคนดูและธุรกิจมากที่สุด และกระบวนการนี้เรียกว่าการ “ประมูลโฆษณา”
#2 Ad Set – ชุดโฆษณา
ในชุดโฆษณาสามารถประกอบด้วยโฆษณาหลายชิ้น และในการสร้างโฆษณาในระดับชุดโฆษณา (Ad set) ผู้ลงโฆษณาสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมาย เลือกตำแหน่งการจัดวางโฆษณา กำหนดงบประมาณ และตั้งกำหนดเวลาได้
#3 Ads Manager – ตัวจัดการโฆษณา
เครื่องมือที่ใช้ในการสร้าง จัดการ และเรียกใช้งานโฆษณาบน Facebook รวมถึงใช้จัดการข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงินค่าโฆษณาทั้งหมด นอกจากนี้ตัวจัดการโฆษณายังเป็นเครื่องมือที่ช่วยในการวิเคราะห์และประเมินประสิทธิภาพของโฆษณาและแคมเปญที่ทำด้วย
#4 Audience Network – เครือข่ายที่อยู่นอก Facebook
กลุ่มเครือข่ายที่เป็นพาร์ทเนอร์กับ Facebook ทั้งแอปพลิเคชันมือถือและเว็บไซต์ต่าง ๆ ซึ่งพาร์ทเนอร์เหล่านี้คือปลายทางที่โฆษณาของเฟซบุ๊กถูกส่งขึ้นไปแสดง (นอกเหนือจากบน Facebook และ Instagram) นั่นเอง
รูปภาพ: Facebook Ads ของร้านขายผักออร์แกนิกแห่งหนึ่งที่ไปปรากฏอยู่บน Audience Network
#5 Bid Strategy – กลยุทธ์การประมูล
Bid strategy คือการเลือกวิธีที่ต้องการประมูลราคาตามวัตถุประสงค์ด้านต้นทุน โดยใน Ads Manager จะมีให้เลือกตั้งแต่แบบแสดงต้นทุนต่ำที่สุด (Lowest cost) ซึ่งไม่มีการควบคุม ไปจนถึงการควบคุมต้นทุนแบบต่าง ๆ อย่างเช่น Cost cap, Bid cap และ Target cost
#6 Boosted Post – โพสต์ที่ได้รับการโปรโมท
การโปรโมทโพสต์ไม่ใช่การยิงโฆษณา Facebook Ads แต่เป็นการจ่ายเงินเพื่อทำให้โพสต์บนไทม์ไลน์หรือเพจของธุรกิจไปแสดงบนฟีดของผู้ใช้งานเฟซบุ๊กอื่น ๆ ที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างการรับรู้และมีส่วนร่วมเท่านั้น ในขณะที่โฆษณาจะสามารถกำหนดวัตถุประสงค์ได้หลากหลายกว่า และการโปรโมทโพสต์ไม่ได้ทำใน Ads Manager
#7 CBO – การปรับให้เหมาะสมกับงบประมาณแคมเปญ
Campaign budget optimization (CBO) คือการจัดการงบประมาณแคมเปญโฆษณาแบบอัตโนมัติ โดยระบบจะจัดสรรงบให้กับชุดโฆษณาที่มีอยู่ให้เองตามประสิทธิภาพของโฆษณาแต่ละชุด
#8 CPC – ต้นทุนต่อการคลิกลิงก์
ค่าใช้จ่ายต่อคลิกโดยเฉลี่ยที่คำนวณจากจำนวนการใช้จ่ายทั้งหมด หารกับจำนวนคลิกทั้งหมดที่มาจากโฆษณา มีประโยชน์ในการใช้วัดประสิทธิผลและการทำงานของโฆษณา
#9 Impression Vs Reach – จำนวนครั้งในการแสดงผลของโฆษณา Vs จำนวนคนที่มองเห็นโฆษณา
Impression คือ จำนวนครั้งที่โฆษณาปรากฏบนฟีดของผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก การแสดงผลนี้จะนับเป็นจำนวนครั้ง เช่น Impression = 10 แปลว่าโฆษณาแสดงผลไป 10 ครั้ง แต่อาจจะมีคนเห็นเพียง 1-2 คน (เพราะเลื่อนฟีดขึ้นเลื่อนลงไปมา) หรือ 10 คนก็ได้ ส่วน Reach จะนับจากจำนวนคน (บัญชีผู้ใช้ที่ไม่ซ้ำกัน) ที่มาพบเห็นโฆษณา เช่น reach = 10 คือมี 10 บัญชีมาเห็นโฆษณา
10# Lead Generation – โฆษณาแบบต้องการรวบรวมข้อมูลจาก “ลูกค้าเป้าหมาย”
เป็นวัตถุประสงค์อีกอย่างหนึ่งในการสร้าง Ads บน Facebook ที่นิยมใช้เมื่อต้องการให้คนที่เห็นโฆษณาคลิกเข้ามาลงทะเบียนกรอกแบบฟอร์มเพื่อให้ข้อมูลติดต่อ ซึ่งแบบฟอร์มอาจจะอยู่บนเฟซบุ๊กหรือในเว็บไซต์ของธุรกิจก็ได้ โฆษณาประเภทนี้พบได้บ่อยในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และการขายคอร์สเรียน
#11 Page/Post Engagement – การมีส่วนร่วม
การกระทำต่าง ๆ ที่ผู้ใช้งานเฟซบุ๊กเข้ามามีส่วนร่วมบนเพจ หรือโพสต์ หลังจากที่เห็นโฆษณา เช่น เข้ามากดไลก์ กดแชร์ แสดงความคิดเห็น แสดงความรู้สึก หรือแชร์คอนเทนต์
#12 Pixel – พิกเซล
ชุดโค้ดที่ผู้ลงโฆษณาสามารถนำไปติดตั้งในเว็บไซต์ธุรกิจของตน เพื่อให้ระบบของ Facebook คอยติดตามกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับโฆษณาจากบนเว็บไซต์ภายนอก และนำมารายงานสรุปผลเป็นข้อมูลเชิงลึกให้ทราบ
#13 Relevant Score – คะแนนความเกี่ยวข้อง
คะแนนนี้สะท้อนถึงการตอบสนองของกลุ่มเป้าหมายต่อชิ้นโฆษณา โดยจะมีให้เฉพาะโฆษณาที่มี Impression ตั้งแต่ 500 ขึ้นไปเท่านั้น ระดับการให้คะแนนจะมีตั้งแต่ 1-10 ตามประสิทธิภาพของชิ้นโฆษณา รวมถึงผลตอบรับทั้งเชิงบวกและลบด้วย หาก Ad ชิ้นไหนได้คะแนนน้อย ควรรีบปรับปรุงคุณภาพองค์ประกอบต่าง ๆ เพื่อให้โฆษณาบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้
#14 Social Clicks – การคลิกทางสังคม
จำนวนคลิกที่โฆษณาได้รับจากการที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กเห็นเพื่อนมีส่วนร่วมกับโฆษณาชิ้นดังกล่าวแล้วเกิดความสนใจ เช่น เห็นเพื่อน 2 คนถูกใจสิ่งนี้ ก็เลยเข้าไปดูบ้าง
#15 Targeting – การเลือกกลุ่มเป้าหมาย
เมื่อยิง Facebook Ads ผู้ลงโฆษณาสามารถเลือกเจาะจงประเภทของผู้รับโฆษณาได้ โดยกลุ่มคนที่มีแนวโน้มว่าจะสนใจในสินค้าและบริการมีอยู่ 3 รูปแบบด้วยกัน คือ 1) กลุ่มเป้าหมายหลัก (Core Audiences) กำหนดจากอายุ ความสนใจ ภูมิศาสตร์ ฯลฯ 2) กลุ่มเป้าหมายแบบกำหนดเอง (Custom Audiences) เชื่อมกับฐานข้อมูลของลูกค้าเก่าที่มีอยู่ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ และ 3) กลุ่มเป้าหมายที่คล้ายกัน (Lookalike Audiences) เลือกจากกลุ่มคนที่มีความสนใจคล้ายกับกลุ่มลูกค้าเก่า
อ่านครบทั้ง 15 คำแล้ว รู้สึกอย่างไรกันบ้างเอ่ย ยากหรือง่าย? ที่ยกตัวอย่างมานี้อาจจะยังไม่ครอบคลุมถึงคำที่ต้องใช้ในการยิงแอดทั้งหมด แต่ก็น่าจะพอทำให้นึกภาพออกว่าการทำโฆษณาบนเฟซบุ๊กน่าจะมีความซับซ้อนมากกว่าที่คิดเอาไว้เสียแล้วล่ะ ถ้าใครกำลังคิดเช่นนั้น เราขอบอกว่าคุณมาถูกทางแล้ว เรื่องแบบนี้ยกให้ทีมยิงแอดโฆษณาระดับมือโปรของ Digimusketeers ช่วยดูแลให้สบายใจกว่าเยอะเลย ###
==============
ข้อมูลจาก
https://sixads.net/blog/facebook-ad-glossary-for-beginners/
https://www.ninjareports.com/facebook-ads-glossary/