ยุคการเปลี่ยนผ่านสู่โลกดิจิทัลได้มาถึงแล้ว ด้วยนวัตกรรมนับไม่ถ้วนที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกสบายผู้ใช้ ทำให้องค์กรต่างๆ ต้องปรับตัวและนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาปรับใช้เพื่อสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจ ซึ่งจะส่งผลต่อการสร้างประสบการณ์ให้ลูกค้าอย่างมีนัยสำคัญ นั่นหมายความว่า ธุรกิจหรือแบรนด์ต้องคอยติดตามเทรนด์ Digital Transformation และการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลอยู่ตลอดเวลา
Digital Transformation คือ
Digital Transformation คือ การรวมเทคโนโลยีมาปรับใช้กับทุกส่วนขององค์กร ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่กระบวนการคิด ไปจนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์ให้ลูกค้า เป็นการปรับเปลี่ยนองค์กรอย่างมีกลยุทธ์ เพื่อสร้างการมีส่วนร่วม และเพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขัน
นอกจากนี้ กลยุทธ์ Digital Transformation ยังเน้นการเลือกใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้ลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นช่องทางการตลาด และการโฆษณา ซึ่งครอบคลุมกระบวนการทั้งหมด โดยมีแรงจูงใจคือ การเข้าถึงเป้าหมายในเวลาที่เหมาะสม
ทำไม Digital Transformation ถึงมีความสำคัญ
อันที่จริงหลายองค์กรก็ปรับตัวกันอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว จากรายงานของ Digital Transformation Index 2020 ที่จัดทำโดย Dell Technologies พบว่า 1 ใน 3 ของผู้นำองค์กรกังวลว่าองค์กรของตนเองจะอยู่ไม่รอดในปีต่อๆ ไป ในขณะที่ 60% มองว่าองค์กรจะอยู่รอด แต่อาจมีการลดพนักงาน และใช้เวลาหลายปีกว่าจะกลับมามีกำไรอีกครั้ง
ประโยชน์ของ Digital Transformation
หลักๆ แล้ว Digital Transformation จะช่วยให้องค์กรมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อลูกค้า พนักงาน พาร์ทเนอร์ และผู้ถือหุ้น มาดูกันว่า Digital Transformation ทำอะไรได้บ้าง
- ช่วยผลักดันให้ธุรกิจพัฒนาสินค้า และเปิดตัวสินค้าได้ดีขึ้น
- เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน
- ตอบสนองต่อลูกค้าเร็วขึ้น
- พัฒนางานบริการ และมอบประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้าได้
- สร้างการมีส่วนร่วมได้ดี
ปัจจุบันเทคโนโลยี Digital Transformation มีหลายอย่างให้เลือกใช้ ทั้ง Cloud Technology, Headless tech, Quantum Computing, Machine Learning และ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นต้น
วันนี้เราจะมาแนะนำให้รู้จัก 5 เทรนด์ Digital Transformation ที่จะพลิกโฉมธุรกิจในปี 2022
-
Cloud Technology
องค์กรหลายแห่งมีการนำทรัพยากรด้าน IT มารวมกับธุรกิจอย่างเป็นระบบ (Enterprise Architecture หรือ EA)เพื่อตอบโจทย์ธุรกิจและกลยุทธ์องค์กร แบบ Hybrid Cloud ซึ่งเป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างระบบโครงสร้างพื้นฐานของระบบ Private Cloud และ Public Cloud ซึ่งช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดการ ช่วยให้สามารถทำงานอย่างไร้รอยต่อได้มากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ Cloud Technology ถูกพูดถึงมาหลายปี ในที่สุดหลายบริษัทเริ่มเห็นประโยชน์จากสิ่งนี้ คลาวน์กระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลครั้งใหญ่สำหรับธุรกิจทั่วโลก โดยบริษัทต่างๆ สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ทุกที่ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลก ช่วยให้พนักงานทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยประหยัดเงินและเวลาในการเดินทาง
-
Hybrid Working
ถึงแม้ว่าในช่วงหลัง พนักงานสามารถเริ่มกลับไปทำงานได้แล้ว แต่หลายๆ บริษัทยังคงมีนโยบาย Work from Home ให้กับพนักงาน ทำให้เกิดการพัฒนาและใช้งานเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการทำงานมากขึ้น เช่น Zoom, Google Meet หรือ Microsoft Teams ซึ่งส่งผลทำให้ยอดขายคอมพิวเตอร์หรือเครื่องมือเชื่อมต่อต่างๆ ที่ต้องใช้ในการทำงานจากบ้านเพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน
การใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ นำมาสู่วิถีการทำงานที่เปลี่ยนไป มีความยืดหยุ่นและคล่องตัวมากขึ้น ทุกองค์กรจึงต้องปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย เนื่องจากผู้คนในเวลานี้สามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ตามความสะดวก จึงเกิดเป็นเทรนด์การอพยพตัวเองจากเมืองหลวงสู่ชนบทที่ค่าครองชีพถูกกว่า และมีเวลาสำหรับตัวเองและครอบครัวเพิ่มขึ้น
-
ลงทุนกับ AI และเครื่องมือต่างๆ
ซอฟต์แวร์การตลาดที่ขับเคลื่อนด้วย AI กลายเป็นกระแสหลักทางการตลาดและการขายนักการตลาดจำนวนมากใช้เทคโนโลยีเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ Digital Transformation เช่น การใช้ AI คัดเลือกคอนเทนต์ที่เหมาะกับผู้บริโภคแต่ละคน ช่วยให้การทำ Personalized Marketing แม่นยำขึ้น และฝั่งคลังสินค้า การใช้ AI จะช่วยมอนิเตอร์สินค้าในคลังได้ดีและเป็นระบบ เป็นต้น
ทั้งนี้ มีสำรวจในปี 2564 พบว่า 76% ขององค์กรให้ความสำคัญกับ AI และ ML มากกว่าโซลูชัน IT อื่นๆ
-
Privacy ความเป็นส่วนตัว
ปัญหาสำคัญอย่างหนึ่งของการใช้ชีวิตในยุคออนไลน์คือ “ความเป็นส่วนตัว หรือ Privacy” การให้ข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งที่อยู่บ้าน อีเมล บัตรเครดิต ไลฟ์สไตล์ และพฤติกรรม ที่ผู้คนส่วนใหญ่มักไม่เต็มใจที่จะให้ข้อมูลนัก ด้วยเหตุผลนี้ พวกเขาจึงปกป้องความเป็นส่วนตัวอย่างถึงที่สุด และเมื่อจำเป็นต้องให้ข้อมูลกับแบรนด์ ก็มักเต็มไปด้วยความกังวลและความระมัดระวัง
ดังนั้น แบรนด์จึงต้องเก็บข้อมูลด้วยความโปร่งใส มีการขอข้อมูลอย่างชัดเจน สำหรับในไทยตอนนี้ที่มีการบังคับใช้ พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (Personal Data Protection Act: PDPA) ที่ทุกองค์กรต้องมีการระบุความยินยอม จัดทำ Privacy Policy แจ้งว่าจะเก็บข้อมูลอะไรบ้าง นำไปใช้อย่างไร และหากเจ้าของข้อมูลไม่ยินยอม หรือต้องการถอนความยินม ต้องมีช่องทางให้ชัดเจน
-
Blockchain และ NFT
ตั้งแต่ต้นปีมานี้ หลายๆ คนคงเคยได้ยิน Blockchain และ NFT หรือ Non-Fungible Token บ่อยจนเริ่มคุ้นเคย ซึ่งเทคโนโลยี Blockchain มีความเกี่ยวข้องกับ Cryptocurrencies หรือสินทรัพย์ดิจิทัลประเภท Token ที่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นสินค้าหรือบริการได้ เช่น การใช้เหรียญดิจิทัลซื้อตั๋วหนัง หรือซื้อรถ Tesla เป็นต้น
ในภาคธุรกิจก็มีสัญญาณการใช้เทคโนโลยีเหล่านี้มากขึ้นเรื่อง สิ่งที่องค์กรต้องให้ความสนใจคงหนีไม่พ้นเรื่องความปลอดภัย การจัดการธุรกรรม และสัญญาต่างๆ
อีกส่วนที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ NFT ที่มีลักษณะเฉพาะตัว มีชิ้นเดียวในโลก และไม่สามารถทดแทนได้ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่สามารถซื้อขายได้ตามปกติ เช่น ภาพศิลปะ ไอเท็มในเกม คลิป ภาพถ่าย MEME เป็นต้น ซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการเพิ่มรายได้
5 เทคโนโลยีที่กล่าวไปนั้น สามารถต่อยอดได้การทำ Digital Transformation ประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก ทั้งนี้ ต้องเริ่มจากการมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน ทุกภาคส่วนในองค์กรต้องมีการเชื่อมต่อกัน ด้วยนวัตกรรมอันทันสมัย เพื่อตอบรับความต้องการของการตลาดที่เปลี่ยนไป
ข้อมูลจาก
https://techsauce.co/tech-and-biz/what-is-nft-understand-in-5-minutes