ช่วงนี้หลายธุรกิจสนใจทำโฆษณา Google Ads มากขึ้น เราเชื่อว่าทุกคนคงพอรู้มาบ้างว่าโฆษณา Google Ads มีหลายรูปแบบ โดยที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ Search Ads จริงๆ แล้ว Google Ads ยังมีอีกหลายประเภทเพื่อตอบโจทย์การทำตลาดออนไลน์และ Performance Marketing วันนี้ DigiMusketeers จะพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับโฆษณา Google Ads ให้มากขึ้น
1. Search Ads
Search Ads เป็นโฆษณาที่หลายคนรู้จักดี และได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะคนส่วนใหญ่มักใช้ Google ในการค้นหาข้อมูล วิธีการทำ Search Ads หลักๆ ต้องกำหนดคีย์เวิร์ด เวลามีคนค้นหาคีย์เวิร์ดดังกล่าว Google จะแสดงเว็บไซต์ของคุณเป็นอันดับแรกๆ ซึ่งจะช่วยให้คุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้เร็วขึ้น
การทำ Search Ads จึงเหมาะกับธุรกิจทุกประเภท ปัจจัยสำคัญที่สุดคือ การเลือกใช้คีย์เวิร์ดที่ถูกต้อง เกี่ยวข้องกับธุรกิจ และครอบคลุมการค้นหาของกลุ่มเป้าหมาย
2. Display Ads
Display Ads เปรียบได้กับสื่อโฆษณาออฟไลน์ประเภทโปสเตอร์หรือบิลบอร์ดตามสถานที่ต่างๆ หากเป็นสมัยก่อนคุณต้องออกแบบแบนเนอร์แล้วนำไปฝากกับเว็บไซต์ดังๆ ทว่า ปัจจุบันการทำ Display Ads ไม่ต้องติดต่อเว็บไซต์ด้วยตัวเองแล้ว สามารถทำผ่าน Google Ads ได้เลย เพราะ Google เป็นพาร์ทเนอร์กับเว็บไซต์มากมาย โดย Ads ของคุณต้องสอดคล้องกับเว็บไซต์นั้นๆ
Display Ads เหมาะกับธุรกิจหลากหลายประเภท ปัจจัยสำคัญอยู่ที่การใช้ภาพและข้อความที่ดึงดูดความสนใจ เพื่อดึงดูดให้คนที่เห็นแบนเนอร์เกิดความสนใจอยากคลิกเข้าไปดูรายละเอียด
3. YouTube Ads / Video Ads
YouTube Ads หรือ Video Ads คือโฆษณาแบบวิดีโอที่ถูกอัปโหลดขึ้นใน YouTube เพื่อนำมาใช้ในการทำโฆษณา โดย YouTube Ads แบ่งออกเป็นหลายรูปแบบ อาทิ
Display Ads แบนเนอร์โฆษณาที่ด้านขวามือของหน้าจอ
Overlay Ads จะเป็นแบนเนอร์โฆษณาบนหน้าจอคลิป คนดูสามารถกดปิดได้
Skippable Video Ads เป็นคลิปโฆษณาที่จะเล่นก่อนวิดีโอหลักที่เรากดเข้าไปดู โดยทาง YouTube จะบังคับให้คนดูก่อน 5 วินาทีแรก หลังจากนั้นคนดูก็สามารถเลือกได้ว่าจะดูโฆษณานั้นต่อหรือจะกด Skip Ads
Non-skippable Video Ads หรือโฆษณาแบบข้ามไม่ได้ มีความยาว 15 วินาที การแสดงผลเหมือนกับ Skippable Video Ads ต่างกันที่รูปแบบนี้คนดูจะไม่สามารถกด Skip ได้
Bumper Ads เป็นรูปแบบโฆษณาวิดีโอสั้น ที่มีความยาว 6 วินาที ไม่สามารถ Skip ได้
Sponsor Cards จะปรากฏเป็นแถบที่ด้านขวาของวิดีโอ โดยจะแสดงเป็นสินค้าหรือบริการที่มีความเกี่ยวข้องกับเนื้อหาของคอนเทนต์นั้นๆ
4. Shopping Ads
Shopping Ads คือ โฆษณาที่แสดงรายละเอียดสินค้า ราคา ภาพ และผู้ขาย จะแสดงผลในหน้าค้นหา เพื่อลิงก์ให้ผู้ใช้ซื้อสินค้าได้ทันที โฆษณาประเภทนี้เหมาะสำหรับร้านค้าออนไลน์ทุกประเภท จุดเด่นของ Shopping Ads อยู่ที่ตำแหน่งการแสดงผลที่อยู่ด้านบนสุดก่อนโฆษณาประเภท Search Ads ที่เป็นลิงก์ ทำให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายขึ้น และยังสะดวกสบายสำหรับผู้ใช้อีกด้วย
5. App Install
App Install หรือ App Campaign คือ โฆษณาที่กระตุ้นให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดแอปฯ เพิ่มจำนวนการติดตั้ง และช่วยให้ผู้ใช้พบแอปฯ ใหม่ๆ โดยโฆษณาจะมีรูปแบบเป็นทั้งโฆษณาแบบ Search, Display และ Video แน่นอนว่าโฆษณาประเภทนี้เหมาะกับธุรกิจที่มีแอปฯ เป็นของตัวเอง
จากที่กล่าวมาทั้งหมดก็จะเป็น 5 ประเภทของ Google Ads ที่ DigiMusketeers นำมาฝาก สำหรับมือใหม่หัดยิงแอดปรึกษาการทำโฆษณา Google Ads จากทีมผู้เชี่ยวชาญของ DigiMusketeers ได้ที่ https://digimusketeers.co.th/
ข้อมูลจาก
https://support.google.com/google-ads/answer/2567043?hl=th
