เพราะ Digital Marketing คือการทำการตลาดบนโลกออนไลน์ ประเด็นที่เป็นเทรนด์ กระแส มาแรง ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ยังต้องทำให้ตรงใจกับผู้บริโภคที่มีพฤติกรรมปรับเปลี่ยนตลอดอีกด้วย เพื่อให้แบรนด์ของคุณเติบโตและเป็นที่รู้จักให้ได้มากที่สุด ดังนั้นนักการตลาดทั้งหลายจำเป็นต้องหาศึกษาเทรนด์การตลาดใหม่ ๆ อยู่เสมอ และคอยวิเคราะห์ว่าเทรนด์ไหนบ้างที่เหมาะกับธุรกิจของตนเอง ทำแล้วปัง!
เทรนด์การตลาดแบบไหนน่าทำในปี 2022 บ้าง ?
อยากให้แบรนด์เป็นที่รู้จักในวงกว้างก็ต้องรู้จักกระโดดเข้าไปร่วมในกระแสต่าง ๆ บนโลกโซเชียล หาจุดเชื่อมโยงระหว่างแบรนด์และเทรนด์เหล่านี้ ปี 2022 ก็ใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว วันนี้เราเลยขอรวบรวม Digital Marketing เทรนด์การตลาดที่น่าสนใจบนโลกออนไลน์มาฝาก เทรนด์ไหนแบรนด์น่าเอาไปทำตาม ไปดูกันเลย ใครทำธุรกิจไม่ควรพลาดบทความนี้
1. Visual Content [VDO]
ในปี 2020 พบว่า 92% ของนักการตลาดเลือกใช้คอนเทนต์แบบวิดีโอในการตีตลาดต่าง ๆ ซึ่ง 86% ของภาคธุรกิจก็ใช้วิดีโอในการทำ Digital Marketing เช่นกัน ทำให้เห็นว่าคอนเทนต์ประเภทวิดีโอนั้นเหมาะกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคใหม่มากกว่าการสร้างคอนเทนต์ที่ร่ายเนื้อหายาว ๆ เพราะบางคนเวลาที่ต้องเพ่งสายตาอ่านอะไรนานก็มักจะปวดตาทุกครั้ง หรือรู้สึกเบื่อก่อนที่จะอ่านจบด้วยซ้ำไป
และจากการเติบโตที่รวดเร็วของคอนเทนต์วิดีโอบน TikTok และ Reels ทำให้นักการตลาดร้อยละ 93% พูดว่าวิดีโอเป็นส่วนสำคัญในการทำกลยุทธ์ Digital Marketing ซึ่งในจำนวนนี้มี 84% บอกว่าวิดีโอช่วยให้พวกเขาสร้างโอกาสในการขายเพิ่มขึ้น นั่นแปลว่าแบรนด์อาจต้องให้ความสำคัญในการทำคอนเทนต์แนวนี้มากกว่าเดิมในปี 2022
*นอกจากนี้ยังมี ‘คอนเทนต์แบบชั่วคราว’ ก็เป็นเทรนด์ที่แบรนด์ไม่ควรมองข้าม เป็นได้ทั้งคอนเทนต์แบบภาพนิ่งและวิดีโอ โดยมีเวลาจำกัดเพียง 24 ชั่วโมง กำลังเป็นที่นิยมมาก ยกตัวอย่างเช่น Facebook (My Day), Instagram (Stories) และ Snapchat (Snap) คอนเทนต์ประเภทนี้จะเป็นการกระตุ้นสร้างความอยากรู้อยากเห็นให้ผู้บริโภคได้ดีมาก รู้สึกว่าไม่อยากพลาดโอกาสที่จะเปิดดูสิ่งที่แบรนด์ต้องการนำเสนอออกมา เช่น อาจคิดว่ามีโปรโมชันด่วน ประกาศลดราคาในเวลาจำกัด
2. Live Streaming
กลายเป็นกลยุทธ์การตลาดที่ดึงให้ผู้บริโภคเข้ามามีส่วนร่วมมากที่สุดรูปแบบหนึ่งไปแล้ว จากสถิติพบว่าแพลต์ฟอร์มสตรีมสดอย่าง Twitch มีผู้รับชมเนื้อหาถึง 7 พันล้านชั่วโมงในเดือนพฤศจิกายน 2020 ที่ผ่านมา นี่คือจำนวนตัวเลขของเดือนเดียวเท่านั้น ซึ่งจะเห็นได้ชัดในช่วงโควิด-19 ที่บรรดาศิลปิน ดาราหลายคนต่างก็มาทำช่อง ผลิตคอนเทนต์ของตัวเองกันแล้ว เดาได้เลยว่าในปี 2022 จะเป็นปีที่เหล่าดาราจะออกมาทำคอนเทนต์แบบ Live กันมากขึ้นแน่นอน ดังนั้นแบรนด์ไหนที่ไม่มีการทำคอนเทนต์แบบ Live ถือว่าตามไม่ทันกระแสนะ
3. Virtual Marketing
เป็นการทำ Digital Marketing แบบ VR หรือที่เรียกกันว่า การสร้างภาพเสมือนจริง กลายเป็นเทรนด์การตลาดที่น่าจับตามองสุด ๆ ด้วยผลกระทบจากโควิด-19 ที่ทำให้เราออกไปไหนไม่ได้ Virtual Marketing จึงน่าสนใจขึ้นมาทันที การสร้างภาพจำลองขึ้นมาอาจเป็นวิธีแก้ปัญหาให้แบรนด์ได้ ซึ่งจะเข้ามาเปลี่ยนการรับรู้และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้บริโภคได้อีกทางหนึ่ง โดยแบรนด์อาจจะนำมาใช้ในการจัด Event เป็น Virtual Event ในรูปแบบออนไลน์ที่ทุกคนสามารถเข้ามาร่วมได้อย่างงานคอนเสิร์ต งานดนตรี งานศิลปะ หรืองานประกาศรางวัล แบรนด์สามารถจำลองการแบ่งโซน และปรับแต่งได้ตามความต้องการ ไม่แพ้ของจริง และยังมีลูกเล่นอีกมากมายที่สามารถเพิ่มเข้าไปใน Event เพื่อสร้างความสนุกให้ผู้เข้าร่วมได้อีกด้วย
4. Meme Marketing
มีม Meme เป็นสิ่งที่ถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในวงการ Digital Marketing ทั้งในภาพยนตร์ คลิปวิดีโอ โฆษณา จับมาโยงกับเหตุการณ์ที่แบรนด์ต้องการสื่อออกไปได้ ถ้าทำได้ดีก็อาจจะกลายเป็นกระแสไปเลยอีกด้วย เพราะเป็นการเล่าเรื่องที่ง่าย ใช้แค่ภาพ หรือข้อความก็ทำให้ทุกคนเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว มองปุ๊บ รู้ปั๊บ
แต่ในการใช้ Meme Marketing ก็ยังมีข้อที่แบรนด์ควรจะต้องระวังไว้อยู่เช่นกัน ช่วงปี 2021 หลายคนอาจเริ่มเห็นกระแสตีกลับของผู้บริโภคที่เกี่ยวกับการเล่นคอนเทนต์กระแสของแบรนด์ ยกตัวอย่างเช่น มีมช้างป่าที่บุกพังกำแพงบ้านในชุมชนแห่งหนึ่งของจังหวัดประจวบคิริขันธ์เพื่อหาอาหาร หลังจากเจ้าของบ้านโพสต์ลงโซเชียลมีเดียก็เกิดการแชร์ต่อเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว บรรดาแบรนด์ต่าง ๆ ก็เข้ามาร่วมแจมทันที ทำให้เกิดประเด็น สวัสดิกานของสัตว์ที่ต้องดิ้นรนออกมาหาอาหารในชุมชน อันตรายที่เจ้าของบ้านจะได้รับ รวมถึงเรื่องลิขสิทธิ์ที่แบรนด์นำไปใช้ในเชิงพาณิชย์อีกด้วย
การใช้กลยุทธ์นี้ยังเป็นสิ่งที่ได้ผลดีกับแบรนด์ในเวลาอันรวดเร็ว แต่ก็คาดว่าในปี 2022 แบรนด์ต่าง ๆ จะระมัดระวังในการเล่นคอนเทนต์แนวนี้มากขึ้น ทั้งการเชื่อมโยง ความเหมาะสม และอีกมากมาย
5. สร้างแบรนด์ให้เป็น Personalized
Personalization คือการออกแบบ ผลิตสินค้า หรือบริการที่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคส่วนบุคคล ยกตัวอย่างเช่น เวลาที่เราเข้าไปค้นหาข้ลมูลที่สนใจใน Google หลังจากนั้นจะมีโฆษณามากมายเด้งเข้ามาให้เราเห็นอยู่บ่อย ๆ บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ หรือระบบ Content Sugguestion ของ Netflix ที่มักจะเด้งขึ้นมาหลังจากที่เราดูซีรีส์ หรือภาพยนตร์สักเรื่องจบลงไปแล้ว ซึ่งผลสำรวจในปี 2018 พบว่า 91% ของลูกค้ามีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าจากแบรนด์ที่จดจำ ให้คำแนะนำ หรือข้อเสนอที่พวกเขาต้องการได้มากกว่า
6. Influencer Marketing
การทำ Digital Marketing ด้วยการใช้ Influencer ช่วยเพิ่มยอดขายให้แบรนด์ได้ดีมาก ๆ เรียกว่าเป็นกลยุทธ์ที่เน้นสร้างยอดขายโดยเฉพาะ ตั้งแต่ในช่วงโควิด-19 หลายคนคงได้เห็นการ Live จาก Influencer มากหน้าหลายตา อย่างเช่น พิมรี่พายที่ไลฟ์ขายของแค่ 10 นาที ได้ยอดขายถึง 500 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังรวมไปทำการทำ User-Generated Content หรือ UGC เป็นคอนเทนต์ที่ลูกค้าสร้างขึ้นเองโดยไม่มีการแทรกแซงจากแบรนด์ในรูปแบบต่าง ๆ กรณีนี้รวมถึง ลูกค้าที่มีคนติดตามเยอะจนคล้ายเป็น Influencer ด้วย เช่น การเขียนรีวิวในเพจ การทำคลิปรีวิวสั้น ๆ ลง Story, Reels หรือ TikTok และการสร้างวิดีโอคอนเทนต์ รีวิว แชร์ประสบการณ์ของตัวเองที่มีต่อแบรนด์ เพราะการเพิ่มขึ้นของตลาด Influencer เป็นผลให้ UGC กลายเป็นหนึ่งในรูปแบบการตลาดแบบปากต่อปากที่มีประสิทธิภาพทางหนึ่ง แถมยังเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดีด้วย
นี่เป็นเทรนด์การตลาดที่ผู้ประกอบการควรนำไปใช้กับแบรนด์ของตัวเองในปี 2022 รับรองว่าได้ผลตอบรับที่ดีเกินคาดแน่นอน
และถ้าคุณคือคนหนึ่งที่อยากให้แบรนด์เป็นที่รู้จักด้วยหลากหลายกลยุทธ์ด้านการตลาด ที่ DigiMusketeers เรามีบริการ Content Marketing บริการการตลาดออนไลน์ผ่านการสร้างคอนเทนต์ สร้างการรับรู้ให้กับผู้บริโภคได้อย่างกว้างขวาง ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น เข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ และกระตุ้นให้เกิดยอดขาย สนใจสร้างสรรค์เนื้อหาคอนเทนต์เพื่อโปรโมตแบรนด์ธุรกิจ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญฟรี