ในกลุ่มชาว SEO และนักการตลาดจะรู้ดีว่าการทำเว็บไซต์ SEO ให้มีประสิทธิภาพให้เข้าตา Google และดันขึ้นไปอยู่อันดับต้น ๆ ของการค้นหานั้นยากและมีหลายปัจจัยมาเกี่ยวข้อง ซึ่งดาวเด่นที่เราจะเอามาพูดในบทความนี้ก็คือ Page Speed มันเป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับเว็บไซต์ได้ นั่นก็คือ 9 วิธีการทำให้ Page Speed เว็บไซต์เราโหลดได้ไวขึ้น ส่วนใครที่ยังไม่รู้ว่า คืออะไร Page Speed ไปฟังสาระพร้อมกับเราต่อได้เลย
Page Speed คืออะไร
Page Speed คือความเร็วในการโหลดเข้าหน้าเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นข้อความ รูปภาพ คลิปวิดีโอ หรือแอนิเมชันต่าง ๆ เวลาที่มีคนกดเข้ามายังเว็บไซต์ของคุณ ข้อมูลต่าง ๆ แสดงไวแค่ไหน เคยลองนับบ้างหรือเปล่า ? Page Speed ของเว็บไซต์ ยิ่งโหลดเร็วก็ยิ่งส่งผลดีต่อ User และการทำ SEO นะ ซึี่งปกติแล้วค่าเฉลี่ยที่แนะนำคือไม่ควนเกิน 2.5 วินาที
ปกติแล้วคะแนนในการวัดความเร็วของการโหลดหน้าเว็บไซต์ ( Page Speed ) มีอยู่ 3 ส่วนหลัก ๆ
1. Request :
การใช้งานส่วนต่าง ๆ ในเว็บไซต์ เช่น ข้อความ รูปภาพ คลิปวิดีโอ CSS JavaScript ต่าง ๆ
2. Load Time :
ระยะเวลาในการโหลดเว็บไซต์ทั้งหมดใน 1 เพจ
3. Page Size :
ขนาดไฟล์ทั้งหมดในการโหลดหน้าเว็บไซต์นั้น
Page Speed ยิ่งไวยิ่งดีจริงไหม..ส่งผลกับอะไร ?
ความเร็วในการโหลดข้อมูลหน้าเว็บไซต์ หรือ Page Speed นั้นจะส่งผลกับ 2 ฝั่งหลัก คือ การทำ SEO และฝั่ง User
SEO
ทาง Google จะมีการวิเคราะห์ว่าเว็บไซต์ของคุณมีคุณภาพมากพอหรือไม่ Page Speed ก็เป็นหนึ่งในปัจจัยนั้น การมี Page Speed ที่ดี Google ก็จะดันให้เว็บไซต์อยู่ในอันดับต้น ๆ ของการค้นหา ถ้ายังไม่เข้าใจให้ลองคิดง่าย ๆ ว่าหากคุณเป็นเจ้าของแพลตฟอร์ม Google ก็คงอยากให้ผู้ใช้งานพึงพอใจในการค้นหา ได้เจอคอนเทนต์ เว็บไซต์ที่ดี ดังนั้นหากหน้าเว็บของคุณโหลดข้อมูลได้ไวมาก ทาง Google ก็คงอยากดันให้เว็บไซต์คุณติดในหน้าแรกอยู่แล้ว
User
ในมุมของผู้ใช้งาน ถ้าเป็นคุณจะรู้สึกแบบไหน ? ตอนที่กดเข้าไปเว็บไซต์หนึ่ง แต่มีการโหลดข้อมูลช้ามาก ภาพไม่ขึ้น จะกดออกแล้วไปหาเว็บไซต์อื่นแทนใช่ไหมล่ะ แน่นอนว่าไม่มีใครชอบรอ Page Speed เลยเป็นสิ่งสำคัญที่ส่งผลต่อการใช้งานของ User โดยตรง
ทาง Google จึงมองเรื่อง Page Speed เป็นเรื่องประสบการณ์ในการใช้งานพื้นฐาน ใครที่มีเว็บไซต์ไม่ควมองข้ามเรื่องนี้เป็นอันขาดนะ
อะไรที่ทำให้เว็บไซต์โหลดข้อมูลได้ช้าบ้าง ?
การที่เว็บไซต์นั้นมี Page Speed ที่ช้า นั้นมาจากหลายปัจจัย เราเลยขอเน้นส่วนที่สำคัญและส่งผลจริง ๆ มาบอก
1. รูปภาพหรือวิดีโอมีขนาดใหญ่เกินไป : เช็กดูให้ดีว่าภาพประกอบ หรือคลิปวิดีโอในการทำคอนเทนต์นั้นมีขนาดไฟล์ใหญ่เกินไปหรือไม่ เพราะถ้าใช่มันทำให้ Page Speed โหลดช้านั่นเองจ้า
2. Sever ไม่ดี : หาก Sever นั้นไม่มีประสิทธิภาพจากจำนวนการแชร์เว็บไซต์เยอะเกินไป จนมันทำงานหนักก็ส่งผลให้ Page Speed แย่ได้นะ
3. ใช้ PlugIn เยอะเกิน : ใครใช้ WordPress ในการทำเว็บไซต์ การทำปลั๊กอินนั้นเป็นของคู่กันอยู่แล้ว จุดนี้ก็ต้องดูว่าคุณมีปลั๊กอินที่ใช้เยอะเกินไปหรือไม่ เพราะยิ่งมีเยอะก็ยิ่งทำให้ Page Speed ช้า
4. Script Code : การติดโค้ดต่าง ๆ บนเว็บไซต์ ถ้ามีมากเกินไปก็อาจส่งผลให้ Page Speed ช้าได้ด้วย และยังมีความซับซ้อนมากมาย
Tool ที่ใช้วัด Page Speed เว็บไซต์
‘Google Page Speed Insight’ เป็น Tool ของ Google เองที่ให้เราใช้วัด Page Speed ฟรี ใช้งานง่ายมาก แค่ใส่ URL เว็บไซต์นั้นลงไป แล้วกด Analyze แล้วระบบจะประเมินมาให้ สามารถเลือกดู Page Speed ได้ทั้งแบบโทรศัพท์และ Desktop เลย
9 วิธีปรับ Page Speed เว็บไซต์โหลดได้ไวกว่าเดิม
ใช้ Plugin เท่าทีจำเป็น
Plugin ถือเป็นส่วนประกอบหนึ่งในการทำเว็บไซต์จาก WordPress นะ ทางคนสร้างเว็บไซต์ก็ต้องดูให้ดีว่าตัวไหนเหมาะที่จะเอามาใช้ในเว็บไซต์ของเรา เลือกใช้กี่ตัวถึงจะเหมาะสม ไม่น้อยและไม่เยอะเกินไปจนทำให้ Page Speed โหลดช้า แล้วอาจจะไปตีกันจนทำให้หลังบ้านรวนได้ด้วย
บีบอัดเและย่อไฟล์ทุกอย่าง
รูปที่มีไฟล์ใหญ่ วิดีโอใหญ่ หรือไฟล์ต่าง ๆ มีขนาดใหญ่เกินไปส่งผลต่อ Page Speed แน่นอน วิธีแก้ให้มันโหลดข้อมูลได้ไวขึ้นก็คือให้ย่อขนาดไฟล์ต่าง ๆ ที่อยู่ในเว็บไซต์โดยเฉพาะรูปภาพนี่ตัวดีเลยที่ทำให้เว็บไซต์โหลดช้า แต่ไม่จำเป็นว่าจะต้องไปปรับคุณภาพ (Quality) ของภาพไฟล์เดิมนะ เพราะอาจทำให้ภาพแตก ดูไม่สวยงามเวลาขึ้นเว็บไซต์
เลือกใช้ไฟล์รูปไม่ถูก
‘นอกจากไฟล์รูปภาพที่ใหญ่แล้ว ประเภทไฟล์รูปที่ไม่ถูกต้องก็ส่งผลให้ Page Speed เว็บไซต์โหลดข้อมูลได้ช้าเหมือนกัน โดยประเภทของไฟล์รูปภาพหลัก ๆ ที่ใช้กันจะมีอยู่ 4 แบบที่ใช้งานตามความเหมาะสมต่างกัน ดังนี้
– JPG : เหมาะสำหรับรูปภาพ Artwork ประกอบทั่วไปที่สามารถบีบอัด หรือลดคุณภาพลงได้
– PNG : เหมาะสำหรับ Artwork ที่มี Call To Action (CTA) หรือมีส่วนที่โปร่งแสง เนื่องจากเป็นไฟล์ภาพที่ไม่มีการบีบอัด ต้องเช็กให้ดีถ้าหากเลือกใช้ไฟล์ภาพประเภทนี้ ขนาดของภาพจะใหญ่เกินไปไหม
– SVG : เหมาะสำหรับภาพสินค้า โลโก้ หรือไอคอนต่าง ๆ ที่มีขนาดเล็ก แต่ก็สามารถขยายได้แบบไม่จำกัด
– WEBP : เหมาะสำหรับไฟล์ที่ใช้แทนได้ทั้ง JPGE และ PNG แต่สนับสนุนแค่เฉพาะเว็บบราว์เซอร์เวอร์ชันล่าสุดเท่านั้น ถ้าจะใช้ประเภทนี้ให้เตรียมไฟล์ภาพแบบ JPEG และ PNG เผื่อไว้ด้วย
เลือก Theme ที่เหมาะสม
‘อย่างที่รู้กันว่าใน WordPress มี Theme ให้เลือกใช้กว่า 10,000 แบบ ซึ่งการจะเลือกใช้นั้นก็ต้องวิเคราะห์ดูว่าผู้ใช้งาน รีวิว วันที่อัปเดตและเวอร์ชันที่รองรับเป็นอย่างไรบ้าง เพราะมันส่งผลกับ Page Speed นะ รวมถึงตัว WordPress ก็มีการอัปเดตอยู่ตลอดด้งบ หากเลือกใช้ Theme เวอร์ชันเก่าที่ไม่ได้อัปเดตอาจมีปัญหาที่ต้องแก้ตามมาทีหลัง
ทำความเข้าใจกับ Tag <script>
ใครที่เขียนโค้ดทำเว็บไซต์ ตัว Tag <script> เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลให้ Page Speed เว็บไซต์ช้าหรือเร็วขึ้นได้ จึงต้องทำความเข้าใจและหาตำแหน่งในการใส่ให้ดี หากใส่ในตำแหน่งที่ผิดก็อาจจะมีเคสที่เข้าไปแล้วมีแต่หน้าจอขาว ๆ หรือมีการโหลดข้อมูลที่ช้ากว่าปกติได้
เชื่อมต่อ CDN เข้ากับเว็บไซต์
‘CDN’ คือ ระบบเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ทั่วโลกที่กระจายอยู่ตามที่ต่าง ๆ หากเว็บไซต์เราทำ CDN จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าใช้งานจากที่ไหนของโลกก็โหลด Page Speed ได้ไวเหมือนกัน รวมถึงมีความปลอดภัยของข้อมูลสูงอีกด้วย โดยที่ส่วนใหญ่นิยมใช้กันก็คือ Cloudflare
ทำ Lazy Loading
ถ้าพิจารณาแล้วว่าเนื้อหาในเว็บไซต์ของคุณมีเยอะและยาวมาก แนะนำให้ทำ Lazy Loading เป็นการให้เว็บไซต์โหลดเนื้อหาไปทีส่วน แทนการโหลดเนื้อหาของเว็บไซต์ทีเดียว ช่วยให้เว็บไซต์โหลดเนื้อหาได้ไวขึ้นกว่าการโหลดแบบปกติ เทคนิคนี้ช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของ User ด้วย
ปัจจุบันหารทำ Lazy Loading นั้นมีปลั๊กอินสำหรับ WordPress มากมายให้เลือกใช้ เช่น LazyLoad, BJ Lazy Load หรือ WP Rocket
เลือก Hosting ที่ดี
การเลือก Hosting ที่ดีใครว่าไม่สำคัญ และก่อนจะเลือกใช้ก็ต้องศึกษาให้ดีก่อนด้วยว่าจะใช้เจ้าไหน อาจจะวิเคราะห์จากเว็บไซต์ของเราก่อนจะสร้างจากอะไร แล้วไปดูว่า Hosting เจ้าไหนที่มีบริการหรือสนับสนุนเว็บไซต์ประเภทนี้
Redesign และรื้อระบบหลังบ้าน
สำหรับเว็บไซต์ที่ใช้งานมานาน เป็นเรื่องปกติเลยที่มันจะช้าลง เพราะด้วยระบบหลังบ้านเอย องค์ประกอบต่าง ๆ เอยก็ย่อมเป็นของเก่าที่ขาดการพัฒนา ทางแก้ที่ดีคือการ Redesign พร้อมกับรื้อระบบหลังบ้านสักหน่อย จะช่วยให้ Page Speed เว็บไซต์กลับมาโหลดได้ไวขึ้นเหมือนเดิม แล้วยังถือเป็นการปรับหน้าตาเว็บไซต์ใหม่ให้ทันสมัยขึ้นด้วย
ถ้าคุณอ่านบทความนี้ได้ครบจนจบ เรามั่นใจว่ามันจะทำให้คุณเข้าใจคำว่า Page Speed ในการทำ SEO มากขึ้น พร้อมกับได้เทคนิคดี ๆ ไปปรับให้เว็บไซต์โหลดข้อมูลไวขึ้นแน่นอน
