ในปี 2021 Google SEO ไม่ใช่เรื่องใหม่และแน่นอนว่านักธุรกิจส่วนมากรู้จักและเคยศึกษาเรื่องนี้กันมาบ้างแล้ว แต่วันนี้เราจะพาคุณเจาะลึกลงไปอีกขั้นหนึ่ง โดยเราจะพูดถึงเรื่องของกลยุทธ์ในการทำตลาดบนเสิร์ชเอนจินด้วย Local SEO ซึ่งกำลังฮอตฮิตอยู่ในขณะนี้กันบ้าง ว่าจะแตกต่างไปจากแบบธรรมดาอย่างไร และทำไมจึงมีความสำคัญต่อธุรกิจของคุณไม่น้อยไปกว่าการปรับแต่งเว็บไซต์ด้วยคำค้นหากว้าง ๆ
เปรียบเทียบความเหมือนและความแตกต่าง
· การใช้คำค้นหา (Keywords)
การปรับแต่งเว็บไซต์เพื่อเพิ่มจำนวนคนเข้าเว็บทั้งสองแบบนี้ใช้คีย์เวิร์ดเป็นหลักในการค้นหา ประเมินเนื้อหา และแสดงผลลัพธ์บนหน้า Google SERP เหมือนกัน แต่สำหรับผู้ที่ต้องการทำ Local SEO นั้นต้องคิดให้ไกลไปอีกขั้น เพราะในการปรับแต่งแบบนี้อัลกอลิธึมในการค้นหาของ AI จะโฟกัสไปที่ตำแหน่งที่ตั้งเฉพาะท้องถิ่นเป็นหลัก
รูปภาพ: ตัวอย่างการค้นหาด้วยคีย์เวิร์ดแบบเจาะจงตำแหน่ง
ในตัวอย่างจะเห็นว่าคีย์เวิร์ดที่ใช้มีการจำกัดตำแหน่งที่ตั้ง ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อนเราอาจจะเรียกการใช้คำค้นหาที่เจาะจงพื้นที่แบบนี้ว่าเป็น Long tail keywords ก็ได้ แต่ปัจจุบันมันเป็นมากกว่านั้นแล้ว เพราะอย่างที่บอก Google เองก็ตั้งใจปรับอัลกอริธึมใหม่เพื่ออำนวยความสะดวกในการค้นหาแบบเจาะจง Location โดยเฉพาะด้วย ดังนั้น เจ้าของธุรกิจและผู้ที่กำลังสนใจทำการตลาดออนไลน์จึงควรให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เช่นกัน
· ระยะเวลารอคอยและจำนวนคู่แข่งขัน
การปรับแต่ง SEO ด้วยคำค้นหาแบบกว้างนั้นต้องอาศัยเวลาในการค่อย ๆ ไต่อันดับ กว่าจะได้ไปแสดงผลอันดับต้น ๆ ในคีย์เวิร์ดที่ต้องการอาจกินเวลานานหลายเดือนหรืออาจจะเป็นปีเลยก็ได้ แต่การปรับแต่งแบบ Local นี้เราจะเห็นผลได้ภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น และยังช่วยตัดจำนวนคู่แข่งขันในการชิงอันดับลงไปได้เยอะเลย
· การเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
สมมุติว่าคุณเป็นเจ้าของร้านอาหารอิตาเลียนแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ตที่ต้องการทำ SEO เพื่อให้คนค้นหาร้านอาหารของคุณเจอเมื่อพวกเขาพิมพ์คำว่า “ร้านอาหารอิตาเลียน” ตามหลักการแล้วโอกาสที่จะติดอันดับในหน้าแรก หรือโอกาสที่คนจะได้พบเห็นร้านของคุณด้วยคำค้นหานี้มีน้อยมาก และคุณอาจจะไม่ได้ประโยชน์จากการเสิร์ชเจอเลยด้วยซ้ำไป เนื่องจากคนที่เห็นนั้นอาจจะอยู่จังหวัดอื่นและไม่มีแพลนที่จะเดินทางไปภูเก็ต
แต่ถ้าคุณหันมาทำ SEO แบบเจาะจงและเลือกใช้คีย์เวิร์ดที่แคบกว่าเดิม เช่น “ร้านอาหารอิตาเลียนในเมืองเก่า ภูเก็ต” หรือ “ร้านอาหารอิตาเลียน ดีที่สุด เมืองภูเก็ต” หรือกระทั่งใส่เมนูอาหารในคีย์เวิร์ด เช่น “อิตาเลียนพิซซ่า เมืองเก่า ภูเก็ต” และ “สปาเก็ตตี้โดยเชฟชาวอิตาเลียน ภูเก็ต” แบบนี้โอกาสที่จะคุณจะไปปรากฏในอันดับต้น ๆ ในหน้าผลการค้นหาย่อมมีมากกว่าอย่างแน่นอน แถมยังมีโอกาสได้ลูกค้ามากกว่าด้วย
จากสถิติพบว่ามีคนจำนวนถึง 46% ที่ตั้งใจพิมพ์คำค้นหาบน Google โดยใช้คำระบุตำแหน่งที่ตั้ง และคนส่วนใหญ่ (76%) ที่ใช้โทรศัพท์มือถือเสิร์ชหาข้อมูลในลักษณะนี้มักจะไปอุดหนุนใช้บริการจริง ๆ ในวันถัดมาเสียด้วย (Source: backlinko.com/local-seo-guide)
· วิธีการในการปรับแต่ง
ในการค้นหาเฉพาะตำแหน่งนั้น กูเกิลใช้อัลกอริธึมคนละชุดกับแบบเดิม ดังนั้นขั้นตอนในการทำ Local SEO จึงมีความแตกต่างอยู่พอสมควร โดยในเบื้องต้นเราอยากให้ทุกคนทำความคุ้นเคยกับสองสิ่งนี้เสียก่อน
Google Map Pack
Map Pack เป็นคำกว้าง ๆ ที่ใช้เรียกผลลัพธ์ของการค้นหาแบบ Location-based บนหน้า SERP ของ Google ซึ่งกูเกิลจะคัดเอาเฉพาะธุรกิจที่อยู่ในท้องที่นั้นขึ้นมาแสดงประมาณ 3 รายการ พร้อมกับมีไอคอนบอกตำแหน่งที่ตั้งของธุรกิจบนแผนที่ Google Map ให้เห็นชัดเจนเสร็จสรรพในคลิกเดียว
รูปภาพ: Google Map Pack สำหรับผลการค้นหา “ร้านอาหารอิตาเลียน ดีที่สุด เมืองภูเก็ต”
Google My Business
ในการทำ Local SEO นั้นเจ้าของธุรกิจต้องไม่ลืมที่จะเข้าไปปรับแต่ง Google My Business ของตนเองควบคู่ไปกับการปรับแต่งหน้าเว็บด้วยเสมอ เพราะเมื่อธุรกิจของคุณขึ้นไปอยู่ใน Map Pack แล้วระบบจะดึงเอารายละเอียดข้อมูลจากส่วนนี้ขึ้นมาแสดงให้กลุ่มเป้าหมายได้เห็น ยิ่งใส่ข้อมูลได้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีประโยชน์และคุณควรให้ความสำคัญกับการใส่คีย์เวิร์ดในเนื้อหาส่วนนี้ด้วย
ทุกธุรกิจสามารถใช้งาน GMB ได้ฟรี (ดูวิธีสมัครใช้งาน Google My Business ภาษาไทยได้จากวิดีโอ)
สรุปประเด็นน่าคิด
ปัจจัยที่มีผลต่อการจัดอันดับ Local SEO
สำหรับเจ้าของธุรกิจที่ต้องการพาบริษัทห้างร้านของตัวเองขึ้นไปอยู่ในอันดับการค้นหาที่เหนือกว่าคู่แข่ง นาทีนี้นอกจากคุณจะต้องรู้จักกับ GMP และ GMB แล้ว คุณยังต้องพิจารณาถึงปัจจัยต่าง ๆ ต่อไปนี้ด้วย เพราะมีส่วนในการผลักดันให้ธุรกิจติดอันดับในการค้นหาแบบเจาะจงตำแหน่งโดยตรง
รูปภาพ: ดาวที่ได้รับจากการรีวิวมีผลต่ออันดับการทำ Local SEO
- รายละเอียดของธุรกิจ เช่น ชื่อร้าน ที่อยู่ และเบอร์ติดต่อ (NAP citations)
- ตัวตนของธุรกิจบน Google My Business และคีย์เวิร์ดที่ใช้ในโปรไฟล์
- รีวิวที่อยู่บน Google My Business และคีย์เวิร์ดที่อยู่ในเนื้อหาของรีวิว
- จำนวนผู้เช็คอินในตำแหน่งธุรกิจของคุณ
- การแชร์ต่อในโลกออนไลน์
- ดาวที่ธุรกิจได้รับจากการรีวิว (Star rating)
- การปรับแต่งเนื้อหาบนหน้าเว็บไซต์ (On-page SEO)
- ลิงก์ที่เชื่อมโยงมาจากเว็บไซต์ภายนอกที่อยู่ในพื้นที่เดียวกัน (Local backlinks)
- ลิงก์จากสารบัญเว็บไซต์หรือเว็บไดเรกทอรีต่าง ๆ (Directory pages)
*ต้องการมืออาชีพช่วยทำ SEO / Local SEO สามารถสอบถามได้ที่
support@digimusketeers.com
โทร 02 047 0088
==============================
ข้อมูลจาก
https://www.digitalauthority.me/resources/seo-vs-local-seo/
https://backlinko.com/local-seo-guide
https://www.designzillas.com/blog/google-map-pack-how-to-rank
