ในโลกยุคดิจิทัล การอ่านเนื้อหาที่เป็นข้อความล้วน ๆ อาจจะทำให้รู้สึกน่าเบื่อ ไม่ค่อยดึงดูดใจ การเพิ่ม Gimmick สร้างการจดจำอย่าง Visual Content จึงป็นสิ่งที่สำคัญมากในการสื่อสารเพราะมันช่วยให้เราเข้าใจง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่าย วิดีโอ หรือกราฟิก ซึ่งการใช้ Visual Content โดยเฉพาะในการโฆษณาสินค้าหรือบริการ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการขายและสร้างความจำให้กับลูกค้าได้ดีขึ้น แล้ว Visual Content คืออะไร มีรูปแบบอย่างไรบ้าง เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Visual Content กันให้มากขึ้นจากบทความนี้
Visual Content คืออะไร
การใช้ Visual Content ไม่ใช่เพียงแค่จัดองค์ประกอบการใช้รูปภาพที่สวยงาม หรือการออกแบบเพื่อทำให้เนื้อหา บทความบล็อกของคุณดูสวยงามเท่านั้น แต่ Visual Content คือ กระบวนการใช้ภาพถ่าย วิดีโอ ภาพเคลื่อนไหว (GIFs) ฯลฯ สร้างสรรค์ชิ้นงานต่าง ๆ เพื่อเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ ทำให้เกิดการจดจำ และการสั่งซื้อ
Visual Content สำคัญอย่างไร
เพราะการสื่อสารในยุคดิจิทัลการสร้างเนื้อหาให้เป็นที่จดจำผ่านการเล่าเรื่องด้วยภาพในมุมมองที่แตกต่าง จะช่วยสร้างการจดจำแบรนด์ของคุณได้ และนี่คือความสำคัญของ Visual Content
1. Visual Content สร้างความรู้สึกได้ดีกว่าข้อความล้วน
เพราะการใช้ภาพในการสื่อสารสามารถช่วยให้ผู้รับข้อมูลเข้าใจและรับรู้ข้อความของเราได้มากขึ้น
2. Visual Content ช่วยสร้างความชัดเจนโดยไม่ต้องตีความ
ภาพหรือกราฟิก สามารถสื่อความหมายและข้อมูลโดยรวมในรูปแบบที่ง่ายต่อการตีความ โดยไม่ต้องใช้คำพูดหรือข้อความที่ยากเข้าใจ
3. Visual Content สร้างการจดจำได้ดีกว่าข้อความธรรมดา
การนำ Visual Content มาช่วยเพิ่มองค์ประกอบของเนื้อหา ช่วยสร้างความเชื่อมโยงระหว่างผู้สื่อสารและผู้รับข้อมูล ภาพหรือรูปภาพที่น่าสนใจมีโอกาสที่จะถูกจดจำและแชร์ต่อไปมากกว่าข้อความธรรมดา
Visual Content มีอะไรบ้าง?
รูปแบบของ Visual Content คือสื่อที่ใช้ภาพ เสียง และ ภาพเคลื่อนไหว เพื่อสื่อสารข้อความแก่ผู้ชม ซึ่งประกอบด้วยรูปแบบต่างๆ อาทิ
1. รูปภาพ (Image)
ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่าย ภาพวาด หรือภาพกราฟิก ล้วนแล้วแต่เป็นชิ้นงานเพื่อแสดงข้อมูล ความหมาย หรืออารมณ์
2. วิดีโอ (Video)
เป็นการใช้ภาพเคลื่อนไหวและเสียงเพื่อบรรยายเรื่องราว ปัจจุบัน วิดีโอมีหลากหลายรูปแบบ อาทิ Short Video, Long Form Video เป็นหนึ่งในประเภทของ Visual Content ยอดนิยมที่ใช้ในการเล่าเรื่องที่ยาก สรุปให้สั้นและเข้าใจง่ายในเวลาจำกัด
3. อินโฟกราฟิก (Infographic)
เป็นชิ้นงานที่ปัจจุบันได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในเพจเฟซบุ๊กของสำนักข่าว หรือแบรนด์สินค้าต่าง ๆ อินโฟกราฟิก เป็นการใช้ภาพและข้อความเพื่อแสดงข้อมูลที่ซับซ้อนหรือมีปริมาณมากให้เข้าใจได้ง่าย สรุปจบในภาพเดียว
4. กราฟิกเคลื่อนไหว (Animation)
เป็นการใช้ภาพเคลื่อนไหวที่ไม่มีเสียง สร้างขึ้นจากคอมพิวเตอร์หรือการวาดเพื่อสร้างความน่ารัก ขำขัน หรือสร้างความตื่นเต้น
5. E-books
เป็นการใช้ไฟล์ดิจิทัลที่สามารถอ่านได้บนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ หรือแท็บเล็ต เพื่อแสดงข้อมูล ความรู้ หรือเพื่อความบันเทิง
จะเห็นได้ว่าชิ้นงาน Visual Content ถือเป็นหัวใจสำคัญของการสื่อสารในยุคดิจิทัล เพราะมันสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของการสื่อสารได้ในหลายด้าน เช่น เพิ่มการจดจำเนื้อหาให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น ให้ผู้ชมได้ตื่นตาตื่นใจกับกราฟิกประกอบเนื้อหา เป็นต้น
Visual Content มีประโยชน์ต่อการสื่อสารในยุคดิจิทัลอย่างไร
Visual Content เป็นหนึ่งในวิธีที่ผู้สื่อสารสามารถใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการสื่อสารได้ โดย Visual Content มีประโยชน์ต่อการสื่อสารในยุคดิจิทัลมากมาย อาทิ
1. ช่วยให้ผู้รับสารเข้าใจข้อความได้ง่ายขึ้น
Visual Content สามารถแสดงข้อมูลได้อย่างกระชับ ชัดเจน ย่อยเรื่องยาก ๆ ให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น ยกตัวอย่างที่เห็นได้อย่างชัดเจน นั่นก็คือ การทำอินโฟกราฟิก ในเรื่องต่าง ๆ ที่ผู้คนให้ความสนใจ หรือเป็นการเล่าเรื่องราวแบรนด์สินค้า
2. ช่วยให้ผู้รับสารจดจำข้อความได้นานขึ้น
เนื่องจากการใช้ Visual Content ช่วยกระตุ้นความจำแบบรูปภาพ (Visual Memory) ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าความจำแบบเขียน (Verbal Memory) เช่น การนำคำคม หรือ Quote ที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจ ผสมกับรูปภาพเพื่อเป็นตัวแทนของคำหรือแนวคิดนั้น ๆ
3. ช่วยส่งต่อความอารมณ์ และ ความรู้สึก
การใช้ Visual Content สามารถส่งสารให้กับผู้รับสารได้รับรู้ถึงอารมณ์ (emotion) ต่าง ๆ อย่างตรงไปตรงมา ยกตัวอย่างเช่น การนำวิดีโอเพื่อบรรยายเรื่องราวหรือประสบการณ์ต่าง ๆ
ซึ่งประโยชน์ของ Visual Content นั้นมีมากมาย และถือเป็นหัวใจสำคัญของการสื่อสารในยุคดิจิทัลที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการสื่อสารได้ในหลายด้าน ดังนั้น ผู้สื่อสารควรศึกษาและประยุกต์ใช้ Visual Content ให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายด้วยนะ
Visual Content ช่วยสร้าง Brand Awareness ได้อย่างไร
ในยุคที่กลยุทธ์การตลาดแบบเดิมที่เคยประสบความสำเร็จ อาจกลายเป็นสิ่งล้าสมัยในตอนนี้ก็เป็นได้ จึงทำให้ธุรกิจขนาดใหญ่หรือขนาดเล็กต้องคิดค้นวิธีการดึงดูดด้วยความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงวิธีต่าง ๆ ที่ช่วยสร้างการจดจำ ดึงดูดความสนใจของลูกค้าของคุณ แน่นอนว่า การใช้ Visual Content เป็นวิธีหนึ่งที่สามารถช่วยให้ผู้ทำการตลาดสร้าง Brand Awareness ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะ Visual Content มีผลต่อการสื่อสารในหลายด้านอาทิ
1. การใช้รูปภาพและโลโก้สื่อความเป็นตัวตน
การใช้รูปภาพและโลโก้ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ช่วยให้คนรู้จักแบรนด์ของคุณและจดจำมันได้ง่ายขึ้น คนจะเริ่มรู้จักและรู้สึกคุ้นเคยกับแบรนด์ของคุณ
2. ใช้ Visual Storytelling
การสร้างเรื่องราวผ่านภาพและวิดีโอช่วยให้คุณสามารถเล่าเรื่องราวของแบรนด์ของคุณและสื่อสารค่านิยมและพันธกิจของคุณให้กับผู้ชมได้อย่างน่าสนใจ
3. การใช้โซเชียลมีเดียในการแชร์ Visual Content
การใช้ Visual Content เพื่อแชร์บทความ ข่าวสาร หรือสื่อต่างๆ บนโซเชียลมีเดียช่วยให้ข้อมูลของคุณถูกแบ่งปันและกระจายไปยังกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น โดยแพลตฟอร์มที่เหมาะแก่การโพสต์ Visual Content เช่น Instagram, Facebook, หรือ Pinterest ช่วยให้คุณสามารถเชื่อมต่อกับชุมชนและกลุ่มเป้าหมายของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ การใช้ภาพและวิดีโอที่น่าสนใจจะช่วยเพิ่มความสนใจและแบรนด์ Awareness ในชุมชนของคุณ
4. ย่อยเรื่องยากให้ง่ายขึ้นด้วย Infographics
Infographics หรือกราฟิกแสดงข้อมูลที่สรุปและตีความข้อมูลให้เข้าใจง่าย ถือเป็นหนึ่งใน Visual Content ที่ช่วยในการสื่อสารข้อมูลสำคัญของแบรนด์ของคุณอย่างมีประสิทธิภาพ
5. การใช้แฮชแท็กและแคปชั่นที่เหมาะสม
การเพิ่มแฮชแท็ก และ แคปชั่นที่เหมาะสมใน Visual Content ช่วยให้ผู้คนสามารถค้นหาและรับรู้เนื้อหาของคุณได้ง่ายขึ้น
การใช้ Visual Content ให้มีคุณค่าและเนื้อหาที่น่าสนใจช่วยให้คุณสร้าง Brand Awareness อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นที่จดจำในใจของผู้บริโภคในยุคดิจิทัลแบบวันนี้ได้ดีขึ้น