Check-List เริ่มต้นธุรกิจยังไงให้ไปรอด

Digimusketeers, 21 September 2022

การเริ่มต้นธุรกิจเป็นหนึ่งในความฝันของใครหลายๆ คน แต่จะเริ่มจากตรงไหน เริ่มอย่างไร และมีแนวทางในการทำธุรกิจยังไงให้ไปรอดจนถึงฝั่งฝัน

ก่อนจะเริ่มธุรกิจอันดับแรกต้อง “ตั้งสติ” ให้ดีก่อน เวลานี้ถ้าไถฟีด Facebook หรือ TikTok คุณอาจเห็นคอนเทนต์ประเภทประสบความสำเร็จชั่วข้ามคืน หรือธุรกิจที่ลงทุนน้อย แต่ให้ผลตอบแทนมหาศาลในระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งในความเป็นจริงมันไม่ง่ายขนาดนั้น เราไม่รู้เลยว่าสิ่งที่เห็นเป็นความจริงหรือไม่ หรือเบื้องหลังความสำเร็จต้องผ่านอุปสรรคอะไรมาบ้าง

วันนี้เรามี Check-List การทำธุรกิจขนาดเล็กแบบง่ายๆ มาบอก

กำหนดแนวคิดธุรกิจ

ว่ากันว่า การนำสิ่งที่รักหรือชอบมาทำเป็นอาชีพ จะทำให้การทำงานมีความสุขยิ่งขึ้น ทว่า ในโลกความเป็นจริง คุณต้องมองอย่างรอบด้าน เพราะเป้าหมายของการทำธุรกิจคือ ผลกำไร เช่น คุณชอบทำสบู่เป็นงานอดิเรก แต่ในละแวกบ้านมีร้านขายสบู่ 3 ร้าน ดังนั้น จึงเป็นเรื่องยากที่คุณจะสู้กับร้านเหล่านี้

หากคุณยังไม่แน่ใจว่าจะทำธุรกิจอะไร ให้ตอบคำถาม 3 ข้อนี้

  • ชอบทำอะไร
  • ไม่ชอบทำอะไร
  • ถ้ามีสิ่งที่ชอบ จะทำสิ่งนั้นได้ทุกวันไหม 

คำถามเหล่านี้จะนำไปสู่แนวคิดการทำธุรกิจได้ ในกรณีที่มีเป้าหมายชัดเจนแล้วว่าอยากทำอะไร การตอบคำถาม 3 ข้อนี้จะช่วยต่อยอดธุรกิจให้ไปได้ไกลขึ้น ซึ่งไอเดียของคุณไม่จำเป็นต้องเป็นมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก หรือสตีฟ จ็อบส์คนต่อไป แต่สามารถพัฒนาสินค้าเดิมที่มีอยู่ในตลาดให้ดีขึ้นได้

รู้จักคู่แข่ง

ดั่งคำกล่าวที่ว่า “รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง” ในการทำธุรกิจก็เช่นกัน คุณจะรู้แค่เรื่องธุรกิจตัวเองไม่ได้ แต่ต้องรู้จักคู่แข่งด้วย มีการทำ Competitors Analysis เพื่อวิเคราะห์แผนธุรกิจ และกลยุทธ์ทางธุรกิจในมิติต่างๆ เช่น กลยุทธ์การตลาด, Position Branding, วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย, ช่องทางการขาย และการสื่อสารการตลาด เป็นต้น

อีกหนึ่งรูปแบบการวิเคราะห์ที่ได้รับความนิยมคือ SWOT หรือการวิเคราะห์ Strengths (จุดแข็ง), Weaknesses (จุดอ่อน), Opportunities (โอกาส) และ Threats (อุปสรรค) เพื่อวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายในและภายนอกองค์กร

ภาพจาก wordstream.com

สร้างแผนธุรกิจ

แผนธุรกิจ หรือ Business Plan คือ เอกสารที่ระบุเป้าหมายทางธุรกิจ และอธิบายว่าจะบรรลุเป้าหมายได้อย่างไร เป็นแผนงานที่ละเอียดและรัดกุม ครอบคลุมในอีก 3-5 ปีข้างหน้า ซึ่งจะเป็นข้อมูลที่สามารถแชร์ให้นักลงทุนหรือพาร์ทเนอร์ที่สำคัญได้

สิ่งที่มีต้องมีใน Business Plan

  • รายชื่อผู้บริหาร และวิสัยทัศน์
  • ข้อมูลบริษัท ชื่อที่จดทะเบียน ที่ตั้งธุรกิจ เครื่องหมายการค้า
  • เป้าหมายธุรกิจ ทั้งระยะสั้น และระยะยาว
  • ข้อมูลสินค้าและบริการ อธิบายว่าสินค้าใช้งานอย่างไร คุณประโยชน์ ความพิเศษของบริการ ช่องทางการจัดจำหน่าย ฯลฯ
  • ข้อมูลจากการวิจัยตลาด เพื่อให้นักลงทุนทราบว่าสินค้าของคุณแตกต่างจากคู่แข่งอย่่างไร และอธิบายว่าคู่แข่งของคุณคือใคร พร้อมจุดแข็ง-จุดอ่อน
  • แผนการตลาด กลยุทธ์ดึงดูดลูกค้า
  • วิเคราะห์สถานะทางการเงิน พร้อมงบการเงิน

ภาพจาก https://www.smartsheet.com/content/simple-business-plan-templates

สร้างทีมและกำหนดไซส์ธุรกิจ

เรื่องคนถือเป็นหัวใจสำคัญที่สุดในการทำธุรกิจเลยก็ว่าได้ ในช่วงเริ่มต้นธุรกิจอาจยังไม่มีรายได้ การมีพนักงานเยอะมากไปอาจทำให้ควบคุมและดูแลได้ยาก มีโอกาสที่จะเกิดปัญหาต่างๆ ตามมา ดังนั้น การกำหนดขนาดองค์กรที่เหมาะสม ค่อยๆ ขยายตัวไปในแบบที่ควรจะเป็น หากมีการวางโครงสร้างและขนาดขององค์กรที่เหมาะสม ช่วยให้การบริหารงานง่ายขึ้น

ทั้งนี้ คุณต้องวางแผนเรื่องบุคลากรให้ดี หรือหาพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจเพื่อแบ่งเบาหน้าที่บางอย่าง เช่น หากทำธุรกิจรับจัดงานแต่ง คุณต้องมีพาร์ทเนอร์ร้านดอกไม้ ช่างภาพ ร้านอาหาร หรือสถานที่ เพื่อให้ธุรกิจครบวงจร และประหยัดค่าใช้จ่ายในการจ้างพนักงานประจำ

วางแผนการตลาดให้ธุรกิจ

แผนการตลาดเป็นขั้นตอนการระบุลักษณ์ของสินค้าและบริการ สรุปผลจากการวิเคราะห์ SWOT และวิเคราะห์คู่แข่ง นอกจากนี้ยังบอกถึงกลยุทธ์ที่จะโปรโมตแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก และสร้างยอดขาย ทั้งนี้ แบรนด์ต้องกำหนดงบการตลาดและเวลาให้ชัดเจน

ดูแลงานเอกสารให้เรียบร้อย

แน่นอนว่าในการทำธุรกิจใช้ใจอย่างเดียวไม่พอ แต่ยังต้องใช้เอกสารอีกเพียบเพื่อให้การจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งการยื่นเอกสารจัดตั้งธุรกิจ การจดสิทธิบัตร การจดทะเบียนบริษัท บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้าน บัญชีธนาคาร รวมถึงการทำประกันภัยธุรกิจ ถือเป็นงานที่วุ่นวายพอสมควร

ปัจจุบันการจดทะเบียนบริษัทสามารถทำได้ 2 รูปแบบ คือ ออนไลน์และออฟไลฟ์ โดยในออฟไลน์ผู้จดต้องดาวน์โหลดเอกสารที่เกี่ยวข้องออกมา และกรอกข้อมูลให้ครบเพื่อส่งให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในส่วนของการจดแบบออนไลน์ จะลดขั้นตอนการดาวน์โหลดเอกสาร แต่ก็ยังต้องกรอกข้อมูลเหมือนเดิม และแนบเอกสารที่ต้องใช้ไปด้วย

อย่างไรก็ตาม การเริ่มต้นธุรกิจเป็นเพียงก้าวแรกเท่านั้น ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ต้องลงมือทำ ทั้งความสม่ำเสมอ คุณภาพของสินค้าและบริการ การบริหารเงิน การบริหารงานอย่างเป็นระบบ เป็นต้น

 

ข้อมูลจาก

forbes.com/advisor/business/how-to-start-a-business/

https://www.nerdwallet.com/article/small-business/business-plan

http://celebrateyourdog.org/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B9%8C%E0%B8%81%E0%B8%A3/

คุณกำลังต้องการเพิ่มยอดขายออนไลน์ให้ธุรกิจของคุณอยู่หรือไม่

ปรึกษาฟรี!

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้ของเรา

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับ
Manage Consent Preferences บันทึก