เข้าใจ Remarketing ให้ลึกซึ้ง

Digimusketeers, 24 May 2023

แม้คุณจะไม่คุ้นเคยกับ Remarketing แต่เราเชื่อว่าคุณจะคุ้นเคยกับแนวคิดนี้ หากคุณเคยเข้าเว็บไซต์หาที่พักหัวหิน แต่ยังไม่ตัดสินใจจอง และออกจากหน้าเว็บไซต์นั้นๆ เพื่อหาข้อมูลเพิ่มในเว็บไซต์อื่น ผ่านไป 1 วัน คุณก็ยังเห็นโฆษณาที่พักหัวหินตามหลอกหลอนคุณไปทุกเว็บไซต์ที่เข้า 

หรือกดสินค้าใส่ตระกร้าแล้วยังไม่ซื้อ พอเข้า Facebook ก็เจอโฆษณาสินค้านั้น หรือได้รับ Notification แจ้งเตือนว่ามีสินค้ารอจ่ายอยู่ นั่นไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอน แต่คือกลยุทธ์ Remarketing นั่นเอง

Remarketing คือ 

Remarketing เป็นรูปแบบการโฆษณาที่ใช้การติดตามกลุ่มเป้าหมายที่เคยเห็นหรือมีปฎิสัมพันธ์ที่เกี่ยวกับธุรกิจผ่านช่องทางใดช่องทางหนึ่ง โดยใช้เทคนิคเพื่อยิงแอดไปยังกลุ่มเป้าหมายในช่องทางต่างๆ

การทำ Remarketing เป็นการทำโฆษณาด้วยการ Tracking ลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ โดยผู้ทำโฆษณาจะกำหนดว่าต้องการแทรกกิ้งในรูปแบบไหน เช่น คนที่เคยกดโฆษณาชิ้นนี้ คนที่เคยเข้าเว็บไซต์หรืออื่นๆ ขึ้นอยู่กับการทำโฆษณาบนแพลตฟอร์มนั้นๆ และเมื่อโฆษณาออกไปแล้ว จะส่งไปยังกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดไว้ ซึ่งช่วยสร้างการรับรู้ และกระตุ้นยอดขายได้ดี

ทำไม Remarketing จึงสำคัญต่อธุรกิจ

Remarketing เป็นส่วนสำคัญของการทำตลาดออนไลน์ เนื่องจาก Customer Journey ของลูกค้าต้องใช้เวลา ผู้บริโภคส่วนใหญ่ต้องหาข้อมูล เปรียบเทียบราคา อ่านรีวิวก่อนตัดสินใจซื้อ ในระหว่างขั้นตอน แบรนด์ย่อมไม่อยากให้ลูกค้าหันไปซื้อสินค้าจากแบรนด์อื่น และเมื่อคิดจะซื้อ ต้องนึกถึงแบรนด์ของคุณเป็นอันดับแรก

ดังนั้น Remarketing จึงสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะโฆษณาแบบดิสเพลที่มักแสดงผลในเว็บไซต์และแอปฯ ต่าง ที่กลุ่มเป้าหมายของคุณใช้งานอยู่ ซึ่งโฆษณาดังกล่าวจะมาพร้อมข้อดีของสินค้า โปรโมชันพิเศษ หรือโค้ดส่วนลด เพื่อกระตุ้นให้เกิดการซื้อ

นอกจากจะช่วยด้านการขายแล้ว รีมาร์เก็ตติ้งยังช่วยสร้างการรับรู้แบรนด์ได้ด้วย เช่น คุณเป็นแบรนด์ขายสินค้าและอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน ยึงทำบทความเรื่องการแต่งบ้านสไตล์ญี่ปุ่น เมื่อลูกค้าได้อ่านบทความบนเว็บไซต์ แต่ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะซื้อ หากบทความของคุณมีประโยชน์ ให้ข้อมูลครบถ้วน ลูกค้าจะเกิดความประทับต่อแบรนด์ เมื่อพวกเขาเจอโฆษณาของคุณในแพลตฟอร์มอื่นๆ ก็เป็นการย้ำเตือนว่าเมื่อต้องการซื้อของแต่งบ้าน ให้มาที่เว็บไซต์ของคุณ แม้จะยังห่างไกลกับการซื้อ แต่ขั้นตอนนี้ก็มีความสำคัญในแง่ของการขยายฐานลูกค้าใหม่ในอนาคต

Remarketing กับ Retargeting 

การทำ Remarketing จะคล้ายกับ Retargeting แต่ก็มีความแตกต่างกันในบางประการ ซึ่งถ้าหากมองแค่เรื่องของวัตถุประสงค์ที่ต้องการแล้ว  Retargeting และ Remarketing มีจุดประสงค์เดียวกัน นั่นคือ การเสนอขายสินค้า/บริการแบบเฉพาะเจาะจงไปยังกลุ่มลูกค้าที่เคยเห็นแบรนด์ หรือมีความสนใจอยู่บ้าง 

โดย Remarketing เป็นการนำข้อมูลของลูกค้าในด้านต่างๆ มาวิเคราะห์และกลับไปทำโฆษณา เพื่อส่งหากลุ่มเป้าหมายอีกครั้ง แต่สำหรับ Retargeting จะใช้ข้อมูลของ Cookie เก็บข้อมูล ความสนใจ และวิเคราะห์พฤติกรรม จากนั้นจึงทำโฆษณาเพื่อส่งหากลุ่มเป้าหมายนั้นๆ อีกครั้ง 

ประโยชน์ของ Remarketing

Remarketing เป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญในการโฆษณา มาดูกันว่าประโยชน์ของ Remarketing มีอะไรบ้าง

  • สร้างการรับรู้ไปสู่วงกว้าง
  • เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงสุดๆ เพราะเป็นกลุ่มคนที่มีความสนใจอยู่แล้ว
  • เข้าถึงฐานลูกค้าใหม่ๆ
  • ย้ำเตือนให้ลูกค้าซื้อสินค้าให้เสร็จสิ้น (กรณีที่ลูกค้ากดสินค้าใส่รถเข็นไว้ แต่ยังไม่จ่าย)
  • โฆษณาและข้อความจะช่วยดึงดูดความสนใจของลูกค้า และกระตุ้นให้เกิดการซื้อได้
  • ช่วยให้ลูกค้าเดิมเกิดการจดจำ และเป็นการแสดงการมีส่วนร่วมกับลูกค้าเดิมด้วย
  • กลุ่มเป้าหมายมีแนวโน้มเปลี่ยนใจเมื่อเห็นโฆษณา
  • ประหยัดงบโฆษณา เนื่องจากการทำ Remarketing เป็นโฟกัสแค่กลุ่มเป้าหมายที่สนใจสินค้า/บริการอยู่แล้ว จึงไม่ต้องใช้งบก้อนโตหว่านแหทั้งหมด

ปัจจุบันการตลาดออนไลน์มักมาคู่กับกลยุทธ์ Remarketing ซึ่งเกี่ยวข้องกับความสนใจและพฤติกรรมของลูกค้า ซึ่งนักการตลาดต้องหาข้อมูลว่าลูกค้าของพวกเขามีความชอบ ความสนใจอย่างไร เพื่อที่จะส่งโฆษณาที่ใช่ไปให้ถึงกลุ่มเป้าหมาย ทั้งแพลตฟอร์ม การดีไซน์ Artwork ข้อความ และ Call to Action

การวัดผลความสำเร็จของรีมาร์เก็ตติ้ง

คุณสามารถวัดความสำเร็จได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับเป้าหมายของแคมเปญ ซึ่งเมตริกในการวัดความสำเร็จที่นักการตลาดนิยมใช้มีดังนี้

1. วัดการมีส่วนร่วม

ในกรณีที่แคมเปญไม่ได้เน้นเรื่องการกระตุ้นยอดขาย แต่ต้องการสร้างการมีส่วนร่วม (Awareness) การใช้กลยุทธ์ Remarketing สามารถใช้เกณฑ์การวัดผลเหล่านี้ได้

  • Traffic เข้าสู่เว็บไซต์
  • จำนวนการเปิดอ่านอีเมล 
  • อัตราการคลิด เข้าชมเว็บไซต์

2. วัดยอดขาย (Conversion)

หากคุณใช้กลยุทธ์ Remarketing โดยมีเป้าหมายเพื่อการเพิ่มยอดขาย หรือ Conversion ให้พิจารณาการใช้เมตริกเหล่านี้

  • อัตรา Conversion หรือจำนวนการสั่งซื้อสินค้า
  • การลงทะเบียน โดยลูกค้าต้องลงทะเบียนเพื่อสมัครสมาชิก หรือทดลองใช้สินค้า
  • Cost per equipment (CPA) คือ ต้นทุนในการทำการตลาดเพื่อหาลูกค้า ซึ่งถ้าใช้งบน้อย แต่ได้ลูกค้าเยอะถือว่าคุ้มค่า

เคล็ดลับการทำ Remarketing ให้ประสบความสำเร็จ

ไม่ว่าจะใช้กลยุทธ์การตลาดแบบไหน เคล็ดลับสำคัญคือ การรู้จักกลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างดี รู้ว่ากลุ่มเป้าหมายคือใคร มีความชอบ ความสนใจในเรื่องไหน ใช้อุปกรณ์ใดในการเข้าถึงข้อมูลต่างๆ และตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ เพื่อสร้างแคมเปญรีมาร์เก็ตติ้งให้มีประสิทธิภาพที่สุด

ทั้งนี้ การทำ Remarketing แต่ละครั้งใช่ว่าจะได้ผลดีเสมอไป เพราะถ้าไม่มีกลยุทธ์ที่ดี ผลลัพธ์ก็อาจไม่เป็นไปตามต้องการ และหลายแพลตฟอร์มก็มีฟีเจอร์ให้ใช้งานได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Twitter, LINE หรือแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซต่างๆ 

ในมุมของการทำธุรกิจ Remarketing จะเกี่ยวข้องกับ Data เต็มๆ เนื่องจากธุรกิจต้องใช้ข้อมูลสำหรับวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย รวมถึงการนำมาใช้เพื่อทำโฆษณา จึงไม่ควรพลาดที่จะทำ Remarketing 

หากคุณยังใหม่กับการทำ Remarketing ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์กับทีมดิจิมัสเกตเทียร์ได้ที่ LINE @digimusketeers 

สามารถอ่านบทความเกี่ยวกับ Remarketing เพิ่มเติมได้ที่

https://digimusketeers.co.th/blogs/online-marketing/remarketing-retargeting

คุณกำลังต้องการเพิ่มยอดขายออนไลน์ให้ธุรกิจของคุณอยู่หรือไม่

ปรึกษาฟรี!

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้ของเรา

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับ
Manage Consent Preferences บันทึก