SEO Trends 2024

SEO Trends สำหรับปี 2024

Digimusketeers, 20 November 2021

บางท่านสงสัยว่าได้ยินเรื่องการทำ SEO มาก็นานหลายปีแล้ว ป่านนี้มันจะหมดสมัย หรือถูกลดความสำคัญลงไปบ้างหรือยังนะ เรื่องนี้ผู้เชี่ยวชาญมีคำตอบที่ค่อนข้างชัดเจนเลยว่าเทรนด์ในการทำ SEO ยังคงมาแรง และยิ่งทวีความสำคัญมากขึ้นตั้งแต่มีโควิด 19 เพราะผู้คนทั่วโลกหันมาซื้อสินค้าออนไลน์กันมากกว่าเดิม

จากสถิติของปี 2020 ที่ผ่านมา มีผู้ใช้บริการค้นหาบนกูเกิลเป็นจำนวนมากกว่า 2.3 ล้านล้านครั้งเลยทีเดียว และตราบใดที่ธุรกิจยังต้องพึ่งพาเครื่องมือค้นหา (โดยเฉพาะ Google) เป็นหลัก และยังต้องอาศัย Conversions จากเว็บไซต์ในการสร้างยอดขาย เจ้าของกิจการก็ยังคงต้องติดตามความเปลี่ยนแปลงของเทรนด์ SEO และต้องมีการปรับแต่งกลยุทธ์ SEO ที่ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเว็บไซต์ให้สอดคล้องกับเทรนด์ SEO Trends อยู่ตลอดเวลา เนื่องจากเทรนด์เหล่านี้มีการเปลี่ยนแปลงไม่หยุดนิ่ง และในช่วงปลายปีแบบนี้เว็บไซต์เกี่ยวกับการตลาดของต่างประเทศหลายแห่งก็เริ่มออกมาวิเคราะห์ถึง SEO Trends สำหรับปี 2024 กันแล้ว โดยเราสามารถสรุปเทรนด์ที่กำลังจะมาในปีหน้าได้ 5 หัวข้อดังนี้

  • Voice Search
  • Mobile Devices
  • Online Videos
  • Google EAT
  • Featured Snippets
  • การใช้ AI ในการสร้างคอนเทนต์
  • User Experience 
  • ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน

SEO Trend #1: Voice Search

การค้นหาด้วยเสียงกระทบกับการใช้คีย์เวิร์ด
เมื่อก่อนเวลาจะค้นหาอะไรที ต้องพิมพ์ออกมาเป็นข้อความเท่านั้น แต่ช่วงหลัง ๆ มานี่ ตั้งแต่มีนวัตกรรมอย่าง Google Assistant, Siri ของ Apple และ Alexa ของ Amazon เกิดขึ้น ผู้คนเริ่มเปลี่ยนมาใช้การค้นหาด้วยเสียงมากขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ส่งผลต่อการทำ SEO อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คิดง่าย ๆ เวลาที่เราพิมพ์ เรามักจะเน้นใช้คำสั้น ๆ หรือพิมพ์เฉพาะคีย์เวิร์ดที่สำคัญ อันไหนย่อได้ก็ย่อด้วยซ้ำ เพราะขี้เกียจเสียเวลาและอาจจะเมื่อยนิ้ว แต่เมื่อสามารถค้นหาด้วยเสียงพูดแทนได้ แนวโน้มของการใช้คำค้นหาก็เปลี่ยนไปทันทีและมีแนวโน้มว่าคีย์เวิร์ดที่ใช้จะยาวขึ้นกว่าเดิม เพราะนอกจากการเปล่งเสียงพูดจะง่ายและใช้เวลาน้อยกว่าการพิมพ์แล้ว ผลลัพธ์ของการค้นหายังจะดีกว่าด้วยเมื่อใช้คำค้นแบบเป็นวลียาว ๆ ที่มีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้น

 

 

ประเด็นน่าคิด
หากมีการเพิ่มคอนเทนต์ในอนาคต เจ้าของเว็บไซต์ควรพิจารณาใช้คำค้นหาที่มีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้น เช่น ใช้คีย์เวิร์ดที่ยาว (Long-tail keywords) และเพิ่มคีย์เวิร์ดเกี่ยวกับตำแหน่ง (Location-based keywords)

SEO Trend #2: Mobile Devices

ผู้คนเข้าถึงอินเทอร์เน็ตด้วยอุปกรณ์เคลื่อนที่กันมากขึ้น
อุปกรณ์เคลื่อนที่ หรืออุปกรณ์พกพากลายเป็นเครื่องมือหลักในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเรื่องนี้มีผู้คาดการณ์เอาไว้ว่าอีกภายในสามปี ตัวเลขผู้ใช้อินเทอร์เน็ตผ่านอุปกรณ์เหล่านี้จะเพิ่มสูงขึ้นจนถึงเกือบ 73% และ Google เองก็เคยเผยให้ทราบว่าความเร็วของการเข้าถึงเว็บไซต์บนอุปกรณ์เคลื่อนที่จะเป็นปัจจัยสำคัญในการจัดอันดับเว็บไซต์ด้วย ไม่แน่ว่าอีกหน่อยนักพัฒนาเว็บอาจจะต้องเริ่มสร้างเว็บไซต์เวอร์ชั่นสำหรับโทรศัพท์มือถือขึ้นมาก่อนแล้วค่อยมาปรับให้เหมาะกับเดสก์ท็อปทีหลังก็ได้

 

 

ประเด็นน่าคิด
เจ้าของเว็บไซต์ควรให้ความสำคัญกับแพลตฟอร์มบนมือถือมากกว่าเดิม เพราะเป็นช่องทางหลักที่ลูกค้าใช้เข้าถึงธุรกิจ โดยอาจจะเพิ่มฟีเจอร์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับแป้นคีย์บอร์ด เช่น การสั่งงานด้วยเสียง และ Virtual Reality

SEO Trend #3: Online Videos

วิดีโอเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพในการทำ SEO
แม่บ้านสมัยนี้ไม่สะสมตำราทำอาหารกันแล้ว อยากรู้สูตรเมนูไหนก็แค่เสิร์ชหาคลิปมาเปิดดู หรือใครจะลงมือทำไปพร้อมกับเจ้าของคลิปเลยก็ยังได้ ก็เพราะดูวิดีโอมันสะดวกแบบนี้ไงล่ะ คนจึงเลิกอ่านข่าวหรือบทความยาว ๆ แล้วหันมารับข้อมูลข่าวสารในรูปแบบวิดีโอออนไลน์แทน แต่รู้ไหมว่านอกจากวิดีโอจะเป็นแหล่งคอนเทนต์ที่ให้ความบันเทิงและดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้ดีแล้ว วิดีโอยังส่งผลดีต่อการทำ SEO ไม่น้อยเลยด้วย

ประเด็นน่าคิด
หากธุรกิจของคุณยังไม่มีเนื้อหาในรูปแบบวิดีโอ ปี 2024 นี้ก็น่าจะลงมือวางแผนอย่างจริงจังได้แล้ว และอย่าลืมปรับแต่งวิดีโอของคุณให้เอื้อต่อ SEO ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการหาคีย์เวิร์ด ตั้งชื่อวิดีโอ เขียนคำอธิบายวิดีโอ ใส่ซับ หรือการใส่แท็กอย่างถูกหลัก

 

 

SEO Trend #4: Google EAT

เนื้อหาที่มีคุณภาพตรงกับหลัก EAT ของ Google มีโอกาสอยู่ในอันดับที่สูงกว่า
Expertise, Authoritativeness และ Trustworthiness หรือ EAT คือการที่ Google มองว่าเว็บไซต์นั้นเป็นผู้มีความเชี่ยวชาญ มีความเป็นตัวจริงในเรื่องนั้น ๆ และมีความน่าเชื่อถือ โดยจะประเมินจากรีวิว การให้คะแนน ชื่อเสียงในการให้บริการลูกค้า และปัจจัยด้านความน่าเชื่อถืออื่น ๆ ซึ่งถ้า Google มองว่าเว็บมีคุณภาพและมีประโยชน์ เว็บนั้นก็จะได้ขึ้นมาปรากฏในอันดับบน ๆ ของหน้าผลลัพธ์การค้นหา และหากธุรกิจต้องการสร้างมาตรฐานด้าน EAT ให้กับเว็บไซต์ก็สามารถทำได้ไม่ยาก โดยต้องเริ่มต้นจากเรื่องพื้นฐานอย่างการวิเคราะห์ทำความเข้าใจกลุ่มลูกค้าเป้าหมายก่อน ว่าลูกค้าคือใคร มีอุปนิสัยอย่างไร ต้องการอะไร จากนั้นจึงค่อยมาศึกษาวางแผนและสร้างเนื้อหาให้ตรงใจลูกค้า

ประเด็นน่าคิด
การเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเนื้อหาในเว็บไซต์ ยังครอบคลุมเรื่องอื่น ๆ อีกหลายแง่มุม เช่น การสร้างข้อมูลส่วนตัวของนักเขียน การตรวจสอบข้อเท็จจริงของข้อมูล รางวัลและใบรับรองต่าง ๆ ที่ได้รับ ฯลฯ นอกจากนี้ การดำเนินการเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งานเว็บไซต์อย่างการจัดการกับปัญหาอย่างรวดเร็วและมีความเป็นมืออาชีพ ก็มีส่วนเพิ่มคะแนนด้านคุณภาพให้กับเว็บได้ไม่น้อย

SEO Trend #5: Featured Snippets

ควรให้ความสำคัญกับการค้นหาแบบไม่ต้องคลิกด้วย

 

 

กูเกิลเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องมือค้นหาจนเดี๋ยวนี้เราไม่ต้องคลิกเข้าไปที่ผลการค้นหาก็สามารถอ่านคำตอบที่ต้องการได้ สิ่งนี้เรียกว่า Snippets หรือ ตำแหน่ง 0 หรือ Zero Position และกว่าครึ่งหนึ่งของการค้นหาที่เกิดขึ้นบนกูเกิลทั้งหมดเป็นการค้นหาแบบไม่ต้องคลิก (Zero-Click) แล้ว ก็ในเมื่อสามารถรู้คำตอบได้ทันทีแบบนี้ คนเสิร์ชก็ไม่น่าจะอยากคลิกเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ให้เสียเวลา ดังนั้น เมื่อสร้างคอนเทนต์สำหรับเว็บไซต์ ธุรกิจควรต้องคำนึงถึงเรื่องนี้ด้วยเพราะในอนาคต Featured Snippets ยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้อีกมาก

ประเด็นน่าคิด
เนื้อหาที่ขึ้นไปปรากฏในตำแหน่ง Snippets มักจะเป็นการตอบคำถามที่คนอยากรู้แบบสั้น ๆ เช่น xx คืออะไร โดยอาจจะมีความยาวสักสองสามประโยค หรืออาจจะเป็นการให้ข้อมูลในรูปแบบที่แตกต่างไปจากเว็บไซต์ส่วนใหญ่ ###

SEO Trend #6: การใช้ AI ในการสร้างคอนเทนต์

ปัจจุบัน ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้เข้ามามีบทบาทในอุตสาหกรรมต่างๆ มากมาย รวมถึงการตลาดด้วย หนึ่งในเทรนด์การทำ SEO ที่นิยมเพิ่มขึ้นในปัจจุบัน คือ การสร้างคอนเทนต์โดยใช้ AI ช่วยในการเขียนเนื้อหา เพราะเป็นเครื่องมือที่ง่ายและช่วยประหยัดเวลาสำหรับธุรกิจ

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ AI จะมีประสิทธิภาพอย่างเหลือเชื่อในการสร้างสรรค์บทความ แต่ก็ยังไม่สามารถส่งต่อข้อมูลเหล่านี้ลงบนเว็บของเราได้ทันที จำเป็นต้องมีการตรวจสอบ แก้ไข และปรับแต่ง เพื่อให้แน่ใจว่าบทความที่สร้างด้วย AI จะมีคุณภาพที่ดี ตอบโจทย์และมอบคุณค่าแก่ผู้ค้นหา เกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมาย ไม่สร้างความสับสนแก่ผู้อ่าน เข้าใจง่าย มีการแฝงด้วยความรู้และถ่ายทอดจากประสบการณ์ตรงของผู้เขียนในบทความ และใกล้เคียงกับบุคลิกของแบรนด์ โดดเด่น แตกต่างและไม่คัดลอกผู้อื่น

SEO Trend #7:  User Experience ประสบการณ์ของผู้ใช้งานคือสิ่งสำคัญ

 

SEO Trend ประสบการณ์ของผู้ใช้งาน

 

ในยุคที่ผู้คนมีตัวเลือกมากมายบนอินเทอร์เน็ต การมอบประสบการณ์การใช้งานที่ยอดเยี่ยมจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จของเว็บไซต์ หากเว็บไซต์มีหน้าเว็บที่โหลดช้า การนำทางและการออกแบบที่สับสน หรือเนื้อหาที่ไม่ตรงตามความต้องการ จะทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกหงุดหงิดและออกจากเว็บไซต์ไปโดยเร็ว

ดังนั้น การออกแบบเว็บไซต์จึงควรคำนึงถึงประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้งานเป็นหลัก โดยพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้

  • ความง่ายในการใช้งาน เว็บไซต์ควรใช้งานได้ง่ายและสะดวก ให้ผู้ใช้งานสามารถหาสิ่งที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย
  • ความเร็วในการโหลด หน้าเว็บควรโหลดได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้ผู้ใช้งานไม่รู้สึกหงุดหงิดรอนาน
  • การนำทางที่ชัดเจน เว็บไซต์ควรมีการนำทางที่ชัดเจน เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาสิ่งที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย
  • เนื้อหาที่ตรงตามความต้องการ เนื้อหาบนเว็บไซต์ควรตรงตามความต้องการของผู้ใช้งาน เพื่อให้ผู้ใช้งานรู้สึกได้รับประโยชน์
  • นอกจากนี้ การออกแบบเว็บไซต์ควรคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างผู้ใช้งานแต่ละกลุ่มด้วย เช่น ภาษา วัฒนธรรม อายุ และความสนใจ เป็นต้น เพื่อให้ผู้ใช้งานรู้สึกได้รับความสะดวกสบายและเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการได้อย่างเหมาะสม

SEO Trend #8: อย่าละเลยความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน

ในยุคที่ผู้คนใช้ชีวิตอยู่บนโลกออนไลน์มากขึ้น ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวจึงกลายเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนให้ความสำคัญ เจ้าของเว็บไซต์จึงไม่ควรละเลยที่จะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เช่นกัน

หากเว็บไซต์ของคุณมีความปลอดภัยไม่เพียงพอ อาจทำให้ข้อมูลสำคัญของผู้ใช้งาน เช่น ประวัติส่วนตัว ข้อมูลทางการเงิน ข้อมูลบัตรเครดิต ฯลฯ ถูกขโมยไป ส่งผลให้ผู้ใช้งานเกิดความไม่ไว้วางใจและอาจตัดสินใจไม่ใช้บริการของคุณอีกต่อไป

นอกจากนี้ ในปัจจุบันผู้ใช้งานมีความรอบคอบมากยิ่งขึ้น หากพวกเขาเห็นว่าข้อความด้านบนของเบราว์เซอร์ที่บ่งบอกว่าเว็บไซต์ของคุณไม่ปลอดภัย พวกเขาจะกดออกและไปที่อื่นอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจทำให้คุณเสียโอกาสทั้งการขายและความน่าเชื่อถือได้

ดังนั้น เจ้าของเว็บไซต์จึงควรลงทุนติดตั้งใบรับรอง SSL (Secure Sockets Layer) เพื่อเข้ารหัสข้อมูลระหว่างเว็บไซต์กับเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้งาน ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้ข้อมูลถูกขโมยไป นอกจากนี้ ควรตรวจสอบและปรับปรุงความปลอดภัยของเว็บไซต์อยู่เสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าเว็บไซต์ของคุณมีความปลอดภัยเพียงพอ

 

===============================================================

 

 

 

ข้อมูลจาก

https://www.cobuildlab.com/blog/SEO-trends-for-2022/

https://www.dashtech.org/10-seo-strategies-you-cant-ignore-this-2022/

https://www.geniemarketings.com/post/10-seo-trends-2023

คุณกำลังต้องการเพิ่มยอดขายออนไลน์ให้ธุรกิจของคุณอยู่หรือไม่

ปรึกษาฟรี!

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้ของเรา

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับ
Manage Consent Preferences บันทึก