การหา Keyword Research นั้นถือเป็นกุญแจสำคัญในการทำ SEO ใครที่ทำการตลาดออนไลน์จะรู้ดี ซึ่งในการหา Keyword ที่ดีนั้น นักการตลาดจำเป็นที่จะต้องมีตัวช่วยเป็น Keyword Tools คุณภาพดีและแม่นยำ เพื่อคัดเลือกคีย์เวิร์ดที่เหมาะสมในการเอามาใช้ให้เว็บไซต์หรือบทความติดอันดับต้นในหน้า Search Engine อย่าง Google
ซึ่งสิ่งที่ควรให้ความสำคัญคือการเลือก Keyword Tools เพราะถ้าผู้ช่วยที่คุณเลือกมานั้นมีประสิทธิภาพและมีความแม่นยำมากพอก็จะช่วยผลักดันให้อันดับ SEO ดีขึ้นตามไปด้วยนะ ปัจจุบัน Keyword Tools ก็มีให้เราเลือกกันใช้มากหน้าหลายตาเหลือเกิน และแต่ละตัวก็มีฟังก์ชันการใช้งานที่ต่างกันออกไป แล้วแต่ความเหมาะสมในการเลือกใช้ เราเลยรวมเอา Keyword Tools ที่น่าสนใจและน่าใช้มากที่สุดมาฝากนักการตลาดทุกคน แต่ว่าก่อนที่จะไปดู Keyword Tools ต้องอ่านไฮไลท์สำคัญที่ควรรู้ เพื่อทำความเข้าใจให้ได้ก่อนนะว่า Keyword มีการแบ่งแยกประเภทอย่างไร ต้องเลือกใช้แบบไหน ส่งผลกับ SEO ได้อย่างไรบ้าง ไปดูเลย
ไฮไลท์สำคัญที่ต้องรู้ก่อนใช้ Keyword Tools
Keyword คืออะไร
มันคือคำที่คนใช้ค้นหาในสิ่งที่ตัวเองต้องการคำตอบบน Search Engine ยกตัวอย่างเช่น คุณต้องการหาร้านรองเท้าเกาหลีพรีออเดอร์ ก็จะเข้าไปที่เว็บไซต์ Google แล้วพิมพ์คำว่า ‘ร้านร้านรองเท้าเกาหลีพรีออเดอร์’ ในช่องค้นหานั่นเอง
คำศัพท์ที่ต้องรู้
การวิเคราะห์ว่าจะใช้คำไหนมาเป็น Keyword หลักจะได้ต้องหลายปัจจัยประกอบกัน รวมถึงคำศัพท์เหล่านี้ด้วยที่คุณจะต้องรู้ว่ามันหมายถึงอะไร
– Keyword Search Volume : คีย์เวิร์ดคำนั้นมีปริมาณการค้นหาจำนวนเท่าไหร่ต่อเดือน
– Keyword Search Difficulty : คีย์เวิร์ดคำนั้นมีการแข่งขันที่สูงหรือต่ำแค่ไหนในด้านการทำ SEO
– Keyword Search Term : คีย์เวิร์ดคำนั้นจะมีคนใช้ค้นหาบนหน้า Search Engine หรือไม่
– Paid Difficult : ในฝั่งของการซื้อโฆษณาแบบ PPC คีย์เวิร์ดคำนั้นมีการแข่งไหนสูงหรือต่ำแค่ไหน
– Average CPC : คีย์เวิร์ดคำนั้นมีราคาเฉลี่ยต่อคลิกที่เท่าไหร่
Keyword สำคัญกับ SEO อย่างไร
การใช้ Keyword นั้นสำคัญต่ออันดับ SEO แล้วยังสามารถเป็นตัวกำหนดรายละเอียดหลายส่วนในการทำ SEO อีกด้วยนะ นั่นก็คือ
– กำหนดกลยุทธ์หรือแผนจัดทำ SEO
– เป็นหัวข้อในการจัดทำคอนเทนต์แบบบทความและในส่วนเนื้อหาย่อย
– ปรับแต่ง On-Page
– การวางโครงสร้างต่าง ๆ ในเว็บไซต์
– การเพิ่ม Traffic ให้เว็บไซต์ของคุณ
– ช่วยให้ธุรกิจเติบโตในตลาดออนไลน์
– การทำ Link Building
เพื่อที่จะได้วางแผนการทำ SEO ให้เห็นภาพได้ชัดเจนขึ้น ทั้งการใช้คีย์เวิร์ดหลักเป็นคำไหนที่เหมาะสมกับเว็บไซต์ตัวเอง กลยุทธ์ในการทำ Organic Traffic เป็นอย่างไร บทความในเว็บไซต์มีเนื้อหาด้านไหนให้ตอบโจทย์กับกลุ่มเป้าหมายและอีกมากมาย
Keyword มีกี่แบบ
Keyword ที่ใช้กันนั้นถูกแบ่งแยกประเภทย่อยไปอีก มีทั้งแบบกว้างและแบบเจาะจง ไปความเข้าใจกันดีกว่าว่ามีกี่ประเภท แต่ละประเภทคืออะไร
– Head Terms : เป็นคีย์เวิร์ดที่มีความหมายแบบกว้าง ๆ เพียง 1 คำ ที่มักจะมีปริมาณการค้นหาและมีการแข่งขันที่สูง เป็นคำที่ง่ายและน่าสนใจ แต่เนื่องด้วยความหมายที่กว้างเกินไปจึงอาจไม่ตรงกับความต้องการของผู้ค้นหาจริง ๆ เหมือนเป็นการหว่านหาคำตอบมากกว่า
– Body Keywords : เป็นคีย์เวิร์ดที่มีจำนวนคำไม่เกิน 2-3 คำ ซึ่งจะมีปริมาณการค้นหาที่น้อยลงมาจากแบบแรก แต่ก็เป็นการค้นหาแบบลงลึกขึ้นมาอีกนิดที่อาจจะตรงใจผู้ค้นหากว่า และยังมีการแข่งขันที่น้อยกว่าด้วย
– Long Tail Keywords : เป็นคีย์เวิร์ดเฉพาะเจาะจงที่มีมากกว่า 4 คำขึ้นไป และมีปริมาณการค้นหาที่น้อยที่สุดใน 3 แบบ ด้วยความหมายที่ดูเจาะจงนี้อาจทำให้ได้คำตอบที่ตรงใจกับผู้ค้นหาที่สุดและการแข่งขันต่ำ แต่ทั้งนี้การเลือกใช้คีย์เวิร์ดประเภทนี้ก็ต้องมั่นใจว่ามีคนใช้ค้นหาจริง และเหมาะสมกับเว็บไซต์หรือคอนเทนต์ของคุณด้วยนะ
Keyword Tools ใช้งานง่ายที่สุด เหมาะกับการทำ SEO
Keyword Tools คือ ผู้ช่วยคนสำคัญของเหล่านัก SEO ทั้งหลาย มันคือเครื่องมือค้นหาคีย์เวิร์ดที่คุณจะนำมาใช้นั่นเอง ช่วยให้คุณวิเคราะห์ปริมาณการค้นหา การแข่งขัน คุณภาพของคีย์เวิร์ด หรือต้นทุนค่าเฉลี่ยในการโฆษณาของคีย์เวิร์ดที่จะใช้ เพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจว่าจะใช้คำนั้นดีหรือไม่ในการทำการตลาดบน Search Engine
ซึ่งเจ้าตัว Keyword Tool ก็มีมาให้เลือกใช้มากมาย หนึ่งในนั้นที่คนไทยหลายคนรู้จักแน่ ๆ ก็คือ Google Trend เพราะเป็น Tools ที่เปิดให้ใช้ฟรี แต่ไม่สามารถดูรายละเอียดได้ลึกพอ ความแม่นยำอยู่ในกระดับกลาง เหมาะกับการดูกระแสมากกว่าว่าช่วงนั้นมีเทรนด์ไหนน่าสนใจ เราเลยขอข้าม Tools ตัวนี้ไปนะ เอาล่ะ..ไปดู Keyword Tools ตัวที่เรามัดรวมมาให้ดีกว่า
Google Keyword Planner
Keyword Tool ตัวนี้ค่อนข้างเป็นที่นิยมในแวดวงตลาดออนไลน์มาก ๆ จะอยู่ใน Google Ads หรือ Google Adwords เหมาะกับมือใหม่ที่พึ่งหัดใช้เครื่องมือหาคีย์เวิร์ดทำเว็บ แต่ต้องมีบัญชี Adwords ก่อนถึงจะใช้เครื่องมือนี้ได้ ข้อดีของ Keyword Tool นี้คือใช้ง่ายและจะได้เรียนรู้การใช้เครื่องมือสร้างเว็บไซต์ของ Google ไปในตัวด้วย
ปกติคนที่ใช้ Google AdWords จะเป็นคนที่ซื้อ Ad ใน Google แต่เราก็สามารถเข้าไปใช้ตัว Google Keyword Planner ได้โดยไม่ต้องซื้อ Ad วิธีก็คือเมื่อเปิด AdWords มาหน้าแรกให้เข้าไปที่ ‘Tools & Settings’ แล้วเลือก ‘Keyword Planner’ หลังจากกดเข้าไปจะมีกล่องข้อความให้เลือก 2 แบบ คือ Discover new keywords หาคีย์เวิร์ดใหม่สำหรับคนที่ไม่รู้ว่าจะใช้คำไหน และ Get search volume and forecasts สำหรับคนที่มีคีย์เวิร์ดในใจแล้ว อยากรู้ว่าคำนั้นมีคนค้นหาเยอะแค่ไหน
Keyword Tool.io
เป็น Keyword Tool ที่เหมาะสำหรับการหาคีย์เวิร์ดแบบ Long-Tail Keyword มาก ๆ สามารถใช้งานได้ฟรีแบบไม่ต้องลงทะเบียนใด ๆ ที่จะประมวลผลจากหลายปัจจัย เช่น เทรนด์ช่วงนั้น คู่แข่ง จำนวนคนค้นหา เป็นต้น เครื่องมือนี้จะเหมาะกับคนที่มีคีย์เวิร์ดในใจมาอยู่แล้ว แต่ต้องการหาแบบลงลึกเข้าไปอีกมากกว่า เช่น ต้องการหาหัวข้อในการทำบทความโดยดูจากคีย์เวิร์ดหลักของบทความที่มีคนเข้าดูเยอะในช่วงนั้น แต่ถ้าอยากใช้แบบเวอร์ชันเต็มจะต้องเสียเงินเพื่อเปลี่ยนมาใช้แบบ Keyword Tool Pro
Ubersuggest
อีกหนึ่ง Keyword Tool ยอดนิยมอย่าง Ubersuggest เจ้าเว็บที่เข้าไปจะเห็นสีหลักคือสีส้มสดใส มีข้อดีตรงที่รองรับภาษาไทยจึงใช้งานง่ายและเข้าไปใช้ได้ฟรีด้วย ไม่ต้องลงทะเบียนใด ๆ เช่นกัน มีฟีเจอร์ให้เล่นเยอะ สามารถดูได้หลายอย่าง ทั้งปริมาณการค้นหา คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง หรือดู Traffic ของเว็บเราและเว็บคู่แข่งได้ นอกจากนี้ยังช่วยวิเคราะห์คุณภาพ SEO บนเว็บไซต์ หากเจอปัญหาก็จะบอกวิธีแก้ไขให้เราด้วยนะ ดีมาก ๆ
KWFinder
Keyword Tool ที่ออกแบบโดย Mangools ใช้งานง่ายและมีฟีเจอร์ให้เล่นหลากหลาย และยังช่วยวิเคราะห์ความยากง่ายในการแข่งขันของคีย์เวิร์ดนั้นได้ด้วย หรือจะหาคีย์เวิร์ดตามประเทศนั้น ๆ หากอยากรู้ว่าในโซนนั้นมีคำที่เราอยากใช้มีปริมาณการค้นหาเท่าไหร่ นอกจากนี้ยังหาคีย์เวิร์ดคู่แข่งของเราได้ด้วยนะ
SEMRush
อีกหนึ่ง Keyword Tool ดี ๆ ที่อยากแนะนำ น่าใช้มาก เพราะมันสามารถช่วยคุณหาคีย์เวิร์ดได้แบบละเอียด และยังมีข้อมูลส่วนสำคัญที่จำเป็นสำหรับการทำ SEO บอกด้วย เช่น ปริมาณการค้นหาต่อเดือนของคำนั้นมีเท่าไหร่, คำที่กำลังเป็นเทรนด์ช่วงนั้น, Keyword difficulty หรือการหาคีย์เวิร์ดที่ใกล้เคียง ซึ่งเจ้าเครื่องมือนี้ยังรองรับภาษาไทยได้ดีอีกด้วยนะ ไปลองใช้กันดูได้
ถ้าตั้งใจอ่านบทความนี้จนจบคุณจะสามารถเข้าใจความหมายของคำว่า keyword มากขึ้น รวมถึงการเลือกใช้ Keyword Tools ที่เหมาะสมกับตัวเองอีกด้วย
