TikTok กลายเป็นแพลตฟอร์ม Social Media ยอดนิยมที่เติบโตเร็วที่สุด โดยมีผู้ใช้งานกว่า 1 พันล้านคนทั่วโลก แพลตฟอร์มนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่ม Gen Z และ Millennials ที่ชอบคอนเทนต์วิดีโอสั้น ๆ สนุก ๆ และสร้างสรรค์
ด้วยจำนวนผู้ใช้งานจำนวนมากและพฤติกรรมการเสพสื่อที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภค TikTok Ads จึงกลายเป็นช่องทางที่ได้รับความนิยมมากขึ้นสำหรับแบรนด์ต่าง ๆ ในการโปรโมตผลิตภัณฑ์และบริการ
ในบทความนี้เราจะมาให้ความรู้เกี่ยวกับ TikTok Ads ว่าคืออะไร มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร เพื่อนำมาใช้กับธุรกิจของคุณ โดย TikTok Ads ช่วยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและขายสินค้าเพิ่มขึ้นได้อย่างไร มาดูกัน
TikTok Ads คืออะไร?
TikTok Ads คือ การทำการตลาดด้วยการซื้อโฆษณาบนแพลตฟอร์ม TikTok โดยมีจุดประสงค์เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย Gen Z ซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูงและมีความชื่นชอบในเทคโนโลยีใหม่ๆ TikTok Ads มีเครื่องมือมากมายที่จะช่วยให้แบรนด์หรือธุรกิจของคุณเป็นที่รู้จักและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย Gen Z ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
TikTok Ads น่าสนใจอย่างไร?
1. TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่เข้าถึงผู้คนได้หลากหลาย
จากข้อมูลข้างต้นพบว่า ผู้ใช้ TikTok ส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 16 ถึง 24 ปี (41%) แต่ยังมีผู้ใช้อีกจำนวนมากที่มีอายุตั้งแต่ Millennial, GenX และแม้แต่รุ่น Baby Boomer (59%) ซึ่งหมายความว่าการทำโฆษณาบน TikTok จะช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้หลากหลายมากขึ้น
2. TikTok Ads ช่วยให้ผู้คนมีส่วนร่วมกับแบรนด์ได้ง่าย
ด้วยรูปแบบโฆษณาที่หลากหลาย เช่น Brand Takeover, Top View, In-Feed Ads, Hashtag Challenge, Branded Effect แบรนด์จึงสามารถสร้างสรรค์แคมเปญที่กระตุ้นให้ผู้คนมีส่วนร่วมได้ง่าย เช่น แคมเปญแฮชแท็กชาเลนจ์หรือการใช้เอฟเฟกต์แบรนด์
3. TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่เอื้อต่อการสร้างกระแสไวรัล
ด้วยคุณสมบัติที่หลากหลาย เช่น การถ่ายวิดีโอ ตัดต่อ ใส่เอฟเฟกต์ ฟิลเตอร์ และเสียงเพลงประกอบที่ถูกลิขสิทธิ์ ทำให้ TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่ใครๆ ก็สามารถสร้างสรรค์วิดีโอที่สนุก น่าสนใจ และดูอินเทรนด์ได้ จึงเป็นที่มาของกระแสไวรัลมากมายที่เกิดขึ้นบน TikTok ไม่ว่าจะเป็นแคมเปญแฮชแท็กชาเลนจ์หรือวิดีโอสร้างสรรค์จากผู้ใช้ทั่วไป
4. TikTok เติบโตอย่างรวดเร็ว
ในปี 2023 มีผู้ใช้ TikTok มากกว่า 2 พันล้านคนทั่วโลก เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 40% ซึ่งหมายความว่า TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานจำนวนมาก และมีโอกาสสูงที่เนื้อหาวิดีโอของเราจะถูกมองเห็นโดยผู้คนจำนวนมาก
ประเภทของ TikTok Ads มีอะไรบ้าง?
TikTok Ads สามารถแบ่งออกเป็น 5 ประเภทหลัก โดยแบ่งตามวัตถุประสงค์ของการทำโฆษณาออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ Reach คือการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายให้ได้มากที่สุด และ Engagement คือการกระตุ้นให้ผู้ชมมีส่วนร่วมกับโฆษณา ซึ่งแต่ละประเภทมีข้อมูล ดังนี้
1. Brand Takeover
เป็นรูปแบบโฆษณาที่เน้นการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายให้ได้มากที่สุด โดยโฆษณาจะปรากฏให้เห็นโดยอัตโนมัติบนหน้าจอของผู้ใช้ทันทีที่เปิดแอป TikTok โฆษณาประเภทนี้มีลักษณะเป็นภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวที่มีความยาวตั้งแต่ 3 ถึง 5 วินาที เหมาะสำหรับแบรนด์ที่ต้องการสร้างการรับรู้แบรนด์อย่างรวดเร็วและสร้างภาพลักษณ์ที่โดดเด่น
จุดเด่นของ Brand Takeover อยู่ที่การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากโฆษณาจะปรากฏให้เห็นเป็นอันดับแรกบนหน้าจอของผู้ใช้ ทำให้ผู้ใช้มีโอกาสเห็นโฆษณามากที่สุด อย่างไรก็ตาม Brand Takeover ก็มีราคาค่อนข้างสูง เนื่องจากเป็นพื้นที่โฆษณาที่มีจำกัด
2. Top View
เป็นรูปแบบโฆษณาที่เน้นการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายให้ได้มากที่สุด โดยโฆษณาจะปรากฏให้เห็นเป็นอันดับแรกบนหน้าฟีดข่าวในหมวด “For You” โฆษณาประเภทนี้มีลักษณะเป็นวิดีโอที่มีความยาวสูงสุด 60 วินาที เหมาะสำหรับแบรนด์ที่ต้องการสื่อสารข้อความหรือนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการได้อย่างครบถ้วน
จุดเด่นของ Top View อยู่ที่การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากโฆษณาจะปรากฏให้เห็นเป็นอันดับแรกบนหน้าฟีดข่าวของผู้ใช้ ทำให้ผู้ใช้มีโอกาสเห็นโฆษณามากที่สุด นอกจากนี้ โฆษณา Top View ยังสามารถใส่ภาพ แคปชั่น และเสียงได้อย่างครบถ้วน ทำให้แบรนด์สามารถสื่อสารข้อความหรือนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. In-Feed Ads
เป็นรูปแบบโฆษณาที่เน้นการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมาย โดยโฆษณาจะปรากฏให้เห็นเมื่อผู้ใช้เลื่อนดูฟีดข่าวหรือใช้งานแอป TikTok โฆษณาประเภทนี้มีลักษณะเป็นวิดีโอที่มีความยาวสูงสุด 60 วินาที เหมาะสำหรับแบรนด์ที่ต้องการสร้างการรับรู้แบรนด์และกระตุ้นให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมกับเนื้อหาของแบรนด์
จุดเด่นของ In-Feed Ads อยู่ที่การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากโฆษณาจะปรากฏให้เห็นตามฟีดข่าวของผู้ใช้ ทำให้ผู้ใช้มีโอกาสเห็นโฆษณามากที่สุด นอกจากนี้ โฆษณา In-Feed Ads ยังสามารถใส่ภาพ แคปชั่น และเสียงได้อย่างครบถ้วน ทำให้แบรนด์สามารถสื่อสารข้อความหรือนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังสามารถกระตุ้นให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมกับเนื้อหาของแบรนด์ผ่านปุ่มต่างๆ เช่น ไลก์ คอมเมนต์ แชร์ เป็นต้น
4. Hashtag Challenge
เป็นรูปแบบโฆษณาที่เน้นการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมาย โดยแบรนด์จะสร้างแฮชแท็กเฉพาะสำหรับแคมเปญโฆษณา โดยผู้ใช้สามารถมีส่วนร่วมได้ด้วยการติดแฮชแท็กและสร้างเนื้อหาของตนเอง ตัวอย่างเช่น แคมเปญ #TikTokxNike ที่ผู้ใช้สามารถเต้นตามท่าเต้นของ Nike และติดแฮชแท็กเพื่อลุ้นรับรางวัล
จุดเด่นของ Hashtag Challenge อยู่ที่การมีส่วนร่วมของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากผู้ใช้สามารถมีส่วนร่วมกับแคมเปญได้ด้วยตัวเอง โดยแบรนด์เพียงกำหนดกติกาและรางวัลให้น่าสนใจ ก็สามารถกระตุ้นให้ผู้ใช้สร้างเนื้อหาที่หลากหลายและสร้างสรรค์ ซึ่งสามารถช่วยสร้างการรับรู้แบรนด์และขยายฐานลูกค้าได้
5. Brand AR Content/ Effect
เป็นรูปแบบโฆษณาที่เน้นการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมาย โดยแบรนด์จะสร้างเอฟเฟกต์ AR เฉพาะสำหรับแคมเปญโฆษณา โดยผู้ใช้สามารถมีส่วนร่วมได้ด้วยการใส่เอฟเฟกต์ AR ลงในวิดีโอของตนเอง ตัวอย่างเช่น แคมเปญ #TikTokxMcdonalds ที่ผู้ใช้สามารถใส่หมวก Happy Meal ลงในวิดีโอของตนเอง
จุดเด่นของ Brand AR Content/ Effect อยู่ที่การมีส่วนร่วมของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากผู้ใช้สามารถมีส่วนร่วมกับแคมเปญได้ด้วยตัวเอง โดยแบรนด์เพียงสร้างเอฟเฟกต์ AR ที่สร้างสรรค์และน่าสนใจ ก็สามารถกระตุ้นให้ผู้ใช้สร้างเนื้อหาที่หลากหลายและสร้างสรรค์ ซึ่งสามารถช่วยสร้างการรับรู้แบรนด์และขยายฐานลูกค้าได้
ข้อดี-ข้อเสียของ TikTok Ads
ข้อดี
- เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุด TikTok เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่วัยรุ่นและวัยทำงาน ซึ่งกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้ถือเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง แบรนด์จึงสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้ได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพ
- กระตุ้นการมีส่วนร่วม TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่เน้นการมีส่วนร่วมของผู้ใช้งาน โดยผู้ใช้งานสามารถกดไลก์ คอมเมนต์ แชร์ หรือสร้างวิดีโอของตนเองเพื่อมีส่วนร่วมกับแคมเปญโฆษณาของแบรนด์ได้ ส่งผลให้แบรนด์สามารถกระตุ้นการมีส่วนร่วมของผู้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- วัดผลได้แบบเรียลไทม์ TikTok ช่วยให้แบรนด์สามารถวัดผลประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณาได้แบบเรียลไทม์ โดยสามารถดูข้อมูลต่างๆ เช่น ยอดวิว ยอดไลก์ ยอดคอมเมนต์ ยอดแชร์ และยอดคลิกลิงก์ เพื่อนำไปวิเคราะห์และปรับปรุงแคมเปญโฆษณาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
- ต้นทุนไม่สูง ต้นทุนในการโฆษณาบน TikTok ถือว่าไม่สูงเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่นๆ เนื่องจาก TikTok เน้นความเรียลมากกว่าความหรูหรา ทำให้แบรนด์สามารถสร้างสรรค์โฆษณาที่มีประสิทธิภาพด้วยต้นทุนที่ต่ำลง
ข้อเสีย
- ระยะเวลาในการดึงความสนใจ วิดีโอบน TikTok มีความยาวสูงสุดเพียง 60 วินาที ดังนั้น แบรนด์จึงต้องสร้างสรรค์โฆษณาที่สามารถดึงความสนใจของผู้ใช้งานได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที มิเช่นนั้นผู้ชมอาจกดข้ามไปก่อน
- ไม่เหมาะกับวิดีโอแนวนอน วิดีโอบน TikTok นิยมเป็นวิดีโอแนวตั้ง ดังนั้น แบรนด์จึงควรสร้างสรรค์โฆษณาในรูปแบบแนวตั้ง เพื่อให้เหมาะสมกับพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้
- ต้องอาศัยเวลาและเงินทุน การโฆษณาบน TikTok จำเป็นต้องอาศัยเวลาและเงินทุนในการทดลองและปรับปรุงแคมเปญโฆษณา เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ ดังนั้น แบรนด์จึงควรวางแผนและเตรียมงบประมาณให้เหมาะสม
โดยสรุปแล้ว TikTok Ads ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางการตลาดออนไลน์ที่น่าสนใจสำหรับธุรกิจที่ต้องการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ และกระตุ้นการมีส่วนร่วมของผู้ใช้งาน อย่างไรก็ตาม แบรนด์ควรศึกษาข้อมูลและวางแผนอย่างรอบคอบ เพื่อให้ได้แคมเปญโฆษณาที่มีประสิทธิภาพ
ขอบคุณเนื้อหาจาก:
https://www.coreandpeak.co.th/post/tiktok-ads-สร-างแบรนด-ด-วยการส-อสารเพ-ยงไม-ก-ว-นาท
https://zortout.com/blog/tiktok-marketing
