หากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่ยังเข้าใจว่า Landing Page ก็เหมือนกับหน้าเว็บไซต์ปกติทั่วไปที่แค่สร้างหน้าเว็บขึ้นมาเพื่อใส่ข้อมูลที่ต้องการสื่อสารและจัดรูปแบบให้สวยงามก็เป็นอันเสร็จสิ้นพร้อมใช้งานแล้ว คุณควรอ่านบทความนี้ต่อให้จบ เพราะเราจะพาไปทำความรู้จักกับหน้าแลนดิ้งให้มากกว่าเดิม รวมถึงแนะนำหลักการเบื้องต้นในการปรับแต่งหน้า LP เพื่อให้สามารถสร้าง Conversion ได้เพิ่มขึ้น ซึ่งเรื่องพวกนี้มีความสำคัญมากโดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องการทำการตลาดออนไลน์
Landing Page คืออะไร
Landing Page คือหน้าเว็บที่เชื่อมโยงระหว่างเว็บไซต์ของคุณกับแหล่งข้อมูลออนไลน์ต่าง ๆ อาทิ หน้าผลการค้นหาของ Google โฆษณาออนไลน์ โซเชียลมีเดีย และอีเมลการตลาด คำว่า Landing ในความหมายนี้มีความละม้ายคล้ายกับการลงจอดบนรันเวย์ของเครื่องบิน เพราะเมื่อลูกค้าคลิกลิงก์ที่อยู่บนแหล่งออนไลน์อื่นแล้ว พวกเขาก็จะถูกพามาแลนดิ้งลงที่เว็บไซต์ของคุณ ซึ่งจุดที่ลูกค้ามา Landing เป็นที่แรกในเว็บ ก็คือหน้า Landing Page นั่นเอง
และเมื่อคุณสามารถพาลูกค้าที่มีความสนใจในสินค้าและบริการของคุณมาเข้าเว็บได้แล้ว ทีนี้พวกเขาจะซื้อหรือไม่ซื้อหรือจะเกิด Conversion อย่างที่คุณต้องการได้หรือไม่นั้น การทำหน้า Landing Page ของคุณมีส่วนต่อการตัดสินใจของพวกเขาเอามาก ๆ ดังนั้น เมื่อคุณมีการทำโฆษณาออนไลน์ เอเจนซี่ทุกแห่งจึงมักจะแนะนำให้มีการปรับหน้าเว็บที่จะใช้เป็น LP ของคุณให้สอดรับกับข้อความและคีย์เวิร์ดที่ใช้ในการโปรโมตธุรกิจ หรือบางทีก็อาจแนะนำให้สร้างหน้า LP ขึ้นมาโดยเฉพาะเลยก็ได้ คุณพอจะเห็นภาพแล้วใช่ไหมว่าทำไมหน้า LP นี้ถึงมีความพิเศษมากกว่าหน้าเว็บไซต์ปกติทั่วไป ถ้าเช่นนั้นเรามาดูกันต่อเลยว่าคุณควรจะสร้างหน้า LP อย่างไรให้เกิด Conversion มากที่สุด
#1 สร้าง Landing Page ที่ตอบโจทย์ PPC
การทำโฆษณา PPC (Pay Per Click) ให้ประสบผลสำเร็จอย่างแท้จริงคือลูกค้าต้องมีการจ่ายเงินจริง ๆ ไม่ใช่แค่คลิกเข้ามาดูแล้วก็ไป ซึ่งก็น่าเสียดายมากที่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นอย่างหลังกันมากกว่า ถ้าคุณไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น เวลาที่สร้างหน้า Landing Page ให้ตรวจสอบก่อนว่าหน้า LP ของคุณมีคุณสมบัติเหล่านี้แล้วหรือยัง
· มีเนื้อหาที่สอดคล้องกับโฆษณา
ข้อมูลที่ใส่ใน LP ต้องตรงกับความคาดหวังของลูกค้าที่ได้เห็นโฆษณา เช่น สินค้ามีความเกี่ยวข้องกับแอด มีราคาแจ้งชัดเจน โดยคุณควรใส่หัวข้อไว้ให้เห็นเด่นชัด หรือจะทำเป็นปุ่ม CTA (Call to Action) ก็ได้ และที่สำคัญในหนึ่งหน้า LP ไม่ควรเรียกร้องหลายอย่าง หากคุณต้องการ Conversions หลายแบบให้แยกสร้าง LP ของใครของมัน
· อย่าใส่ลิงก์ออกไปไหนอีก
ไม่ว่าจะลิงก์ไปหน้าโฮม ลิงก์ไปที่โซเชียลมีเดียของคุณ หรือหน้าผลิตภัณฑ์อื่น ถ้ามีลิงก์เหล่านี้ให้ลบทิ้งให้หมด เหลือไว้แต่ CTA อย่างเดียว เพราะคนที่คลิกมาจากโฆษณานั้นรู้สึกอยากจะซื้อจะแย่แล้ว ถ้าคุณยังมัวไปนำเสนออย่างอื่นอีกคือพลาดมาก
#2 สร้าง Landing Page ที่เอื้อต่อการทำ SEO
ในเมื่อต้องการ Conversions เยอะ คุณก็ควรนำเทคนิค SEO มาใช้กับหน้า LP ด้วย เพราะยิ่งมีคนเข้ามาเห็นมากขึ้นโอกาสที่จะได้ลูกค้าหรือโอกาสที่พวกเขาจะทำในสิ่งที่คุณต้องการก็จะยิ่งเพิ่มตามไปด้วย สิ่งที่ต้องทำ ได้แก่
- เขียน Headline ของหน้า LP ให้ชัดเจน น่าสนใจ และเกี่ยวข้องกับโฆษณา
- นำคีย์เวิร์ดที่ต้องการทำ SEO ไปใส่ในเนื้อหา และในส่วนของ Meta Data ด้วย เช่น Page Title, Description และ URL
รูปภาพ: การใส่ Meta Description และ Title ใน Source Code และการแสดงผลบนหน้าผลการค้นหา
- ใส่ภาพที่เป็นจุดขายของหน้านั้นและควรใส่ Alt Tag หรือข้อความอธิบายรูปภาพที่ใช้ด้วย เพราะบอตของกูเกิลยังไม่เก่งถึงขนาดที่จะเข้าใจรูปภาพ
รูปภาพ: เปรียบเทียบสิ่งที่ลูกค้ามองเห็นกับสิ่งที่ Google มองเห็น
#3 สร้าง Landing Page ที่สะดวกต่อการซื้อสินค้า
ยิ่งถ้าเว็บไซต์ของคุณเป็นเว็บจำพวก E-Commerce แล้ว สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย
- มีตัวเลือกให้ล็อกอินด้วยบัญชีโซเชียลมีเดีย
เพื่อให้ลูกค้าสามารถล็อกอินเข้าใช้งานได้ในคลิกเดียว ไม่ต้องมานั่งกรอกข้อมูลให้เสียเวลา
Source: 1112.com
- มีข้อมูลที่อำนวยความสะดวกในการซื้อสินค้าให้มากที่สุด
บอกรายละเอียดต่าง ๆ ทั้งสี ขนาด ตัวเลือกในการจัดส่ง ราคาค่าขนส่ง ฯลฯ ลูกค้าที่พร้อมจะซื้อสินค้ามักจะอยากรู้รายละเอียดพวกนี้ด้วย และถ้าหากทำรูปให้สามารถกดซูมเพื่อขยายดูสินค้าชัด ๆ ได้ด้วยก็ยิ่งดี
Source: apple.com
- มีฟีเจอร์สำหรับเก็บรายการสินค้าที่อยากได้ (Wish List)
ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ลูกค้าสามารถเพิ่มสิ่งที่พวกเขาสนใจเก็บเอาไว้ก่อน เพื่อที่เวลากดเข้ามาดูภายหลังจะได้กดซื้อได้ทันทีไม่ต้องเสียเวลาค้นหาอีก
Source: amazon.com
ปัจจุบันนี้ลูกค้าเข้าดูเว็บต่าง ๆ จากบนมือถือมากกว่าบนหน้าจอคอมพิวเตอร์แล้ว ถ้าคุณอยากเพิ่ม Conversion ก็อย่าลืมลองเข้าไปสำรวจบนมือถือด้วยว่าหน้า Landing Page ของคุณมีคุณสมบัติเหล่านี้แล้วหรือยัง
- แสดงผลอย่างเหมาะสมในทุกอุปกรณ์
ผู้ประกอบการจำนวนไม่น้อยมองข้ามเรื่อง Responsive Design หรือการทำเว็บไซต์หรือหน้า LP ของตัวเองให้เป็นมิตรกับการใช้งานบนอุปกรณ์ที่หลากหลาย คุณไม่ควรเป็นหนึ่งในนั้น
- ปุ่ม CTA ที่มองเห็นได้ตลอดระหว่างที่ลูกค้าเลื่อนดูข้อมูล
แทนที่จะแปะปุ่ม Call to Action เอาไว้ที่ด้านบนหรือด้านล่างของหน้า LP อย่างเดียว คุณสามารถช่วยลูกค้าประหยัดเวลาในการเลื่อนขึ้นลงหาปุ่มกดเพื่อดำเนินการได้ ด้วยการออกแบบให้ปุ่ม CTA ลอยค้างไว้ให้เห็นได้ตลอดไม่ว่าจะเลื่อนไปอ่านตรงไหน และควรเลือกทำปุ่มให้มีสีสันโดดเด่น เห็นชัด ไม่กลืนไปกับเนื้อหาและพื้นหลัง
รูปภาพ: ซ้าย ทำปุ่ม CTA ไว้ที่ด้านล่างของหน้า / ขวา มองเห็นปุ่ม CTA ได้ตลอดเวลา
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงข้อมูลพื้นฐานที่ควรรู้เท่านั้น หากคุณต้องการเพิ่มยอดขายให้ปังจนนับเงินไม่ไหว คุณสามารถติดต่อกับทีมผู้เชี่ยวชาญของเราได้เสมอ เพราะเรายังมีคำแนะนำดี ๆ ให้กับคุณอีกมากมาย ###
=========================
ข้อมูลจาก