Metaverse ยุคแห่งโลกเสมือนจริงที่แบรนด์ควรร่วมแจมด้วย

หลังจากมีข่าวของ Metaverse ต่างก็ได้รับความสนใจจากนักการตลาดมากมาย ทั้งแบรนด์เล็กและแบรนด์ใหญ่ ซึ่งผู้ประกอบการบางคนก็ยังไ่ม่กล้าเปิดใจกับ Metaverse มากนัก และยังคิดว่าอาจจะไม่ประสบความสำเร็จและเป็นที่นิยมในอนาคต แต่ความจริงแล้วเราอยากให้มองให้ลึกเข้าไปอีกขั้น เพราะโลกเราตอนนี้มันได้เปลี่ยนไปแล้ว ผู้คนเริ่มให้ความสนใจสิ่งที่แปลกใหม่ ยิ่งบอกว่าเป็นโลกเสมือนจริงก็ยิ่งน่าตื่นเต้น 

คำว่าโลกเสมือนจริงนี้คุณอาจจะเคยเห็นจากในหนังกันมาบ่อยแล้ว เราเชื่อว่าต้องมีหลายคนเคยแอบคิดว่าถ้าได้เข้าไปอยู่ในโลกเสมือนจริงแบบในหนังมันจะต้องน่าสนุกแน่นอน รู้ไหมว่าในอนาคตนั้น Metaverse อาจจะเชื่อมโยงเกี่ยวกับโลกของการเงิน เทคโนโลยี หรือแม้แต่การใช้ชีิวิตอีกด้วย นั่นแปลว่าแบรนด์ หรือนักการตลาดไม่ควรมองข้าม Metaverse เลยล่ะ ไปดูกันว่า Metaverse เกี่ยวข้องกับโลกการเงิน สินทรัยพ์ดิจิทัล หรือการใช้ชีวิตอย่างไร พร้อมกับคำตอบที่ว่าทำไมแบรนด์ถึงควรกระโดดเข้าไปร่วมแจมในโลกของ Metaverse

Metaverse โลกเสมือนจริงแห่งอนาคต

Metaverse คือโลกเสมือนจริงที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเปิดให้ผู้คนได้เข้ามามีปฏิสัมพันธ์และสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกันได้ เช่น การประชุม พบปะพูดคุย ติดต่อ ท่องเที่ยว บันเทิง หรือช้อปปิ้งเสมือนในโลกจริงผ่านตัวตนอวตาร ที่เป็นกราฟิก 3 มิติ ที่เป็นตัวแทนของเราในโลก Metaverse สามารถปรับแต่งตัวละครได้ตามใจชอบในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ใน Metaverse โดยใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์รองรับการเข้าถึงโลก Metaverse 2 ตัวคือ Augmented Reality (AR) และ Virtual Reality (VR)

Metaverse กับโลกของการเงิน สินทรัยพ์ดิจิทัล

 

ในปัจจุบันมีการสร้างแพลตฟอร์มทางการเงินเพื่อรองรับการทำธุรกิจบนโลกเสมือนจริงเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรมของผู้บริโภคที่นิยมใช้บริการรูปแบบ non-face to face ซึ่งในโลกของการเงิน ผู้ให้บริการการเงินต่างประเทศเริ่มปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจ โดยเสริมแนวคิดของการให้บริการทางการเงินบนโลก Metaverse ให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนองค์กร เช่น บริษัท NH Investment & Securuties ในเกาหลีใต้เตรียมเปิดตัว Metaverse Platform โดยมี virtual space เพื่อให้ลูกค้าได้เข้ามาใช้งานทั้งร่วมสัมมนาและเล่นเกมเสมือนโลกจริง

ส่วนสินทรัพย์ดิจิทัลก็เป็นกลไกสำคัญในการทำกิจกรรมทางเศรษฐกิจบนโลก Metaverse ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง พัฒนาที่ดิน ตัวละคร งานศิลปะ หรือไอเทมต่าง ๆ ในเกมที่เป็นรูปแบบ Non-Fungible Token (NFT) ที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนช่วยอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมให้ ทำให้โลก Metaverse มีความโปร่งใสและปลอดภัย นอกจากนี้คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลยังเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการในโลก Metaverse ด้วย

Metaverse กับเทคโนโลยี

อย่างที่เราอธิบายไปข้างต้นว่า Metaverse เป็นโลกเสมือนจริง ดังนั้นการทำกิจกรรมต่าง ๆ จึงต้องมีเทคโนโลยีหลายอย่างเข้ามาเป็นส่วนประกอบเพื่อให้สมจริงและสนุกยิ่งขึ้น ไปดูกันว่ามีอะไรบ้าง

Assisted Reality

เทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้เล่นสามารถดูหน้าจอและโต้ตอบกับหน้าจอโดยไม่ต้องใช้มือ เช่น แว่นตาอัจฉริยะที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายให้ผู้ใช้สื่อสารและสั่งการผ่านเสียง ข้อมูลจะขึ้นตรงแว่นตาทันที

Augmented Reality AR

เทคโนโลยีโลกเสมือนจริงที่สามารถอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง ส่วนใหญ่ธุรกิจประเภทค้าปลีกจะใช้เทคโนโลยีนี้เพื่อให้ลูกค้าสามารถทดสอบนำสินค้าในโลกออนไลน์ไปจำลองในโลกจริง เช่น IKEA แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ระดับโลก

Mulitverse

โลกคู่ขนานที่เราใช้เรียกแพลตฟอร์ม หรือ Community ในโลกดิจิทัลที่ทำงานอิสระจากกันและกัน เช่น Facebook, Minecraft, Instagram, Roblox และอีกมากมาย โดยตามทฤษฎีแล้ว Metaverse สามารถดึง Multiverse เหล่านี้มาทำงานอยู่ในที่เดียวได้

NFT หรือ Non-Fungible Tokens

เป็นเเสมือนครื่องยืนยันว่าคนที่สามารถครอบครอง ซื้อ ขาย หรือสร้างมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ใดก็ตามที่ปรากฏอยู่ในโลกดิจิทัลเท่านั้น โดยมีบล็อกเชนคอยกำกับความเป็นเจ้าของและป้องกันการขโมย เช่น ผลงานศิลปะ บัตรกีฬา ของสะสม โดย NFT สามารถซื้อขายได้โดยสกุลเงินดิจิัทัล

Virtual Reality

ประสบการณ์เสมือนจริง เป็นการใช้อุปกรณ์ หรือเทคโนโลยีเพื่อเชื่อมโยงผู้ใช้งานกับโลกดิจิทัลไว้ด้วยกัน เช่น การใช้ชุดแว่น Virtual Reality เพื่อเดินทางเข้าสู้โลกแห่งเกม

 

ทำไมแบรนด์ถึงไม่ควรมองข้าม Metaverse

เข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภคยุค New Normal

ตั้งแต่เข้ายุค New Normal พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปแบบหน้ามือเป็นหลังมือ ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นผ่านโลกออนไลน์ไปเสียหมด ไม่ว่าจะเรียน ทำงาน หรือซื้อสินค้า แม้ว่าในอนาคตโรคระบาดที่เป็นอยู่ตอนนี้จะหายไป แต่พฤติกรรมของผู้บริโภคก็จะไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิมอย่างแน่นอน ดังนั้นโลกของเราจึงต้องคิดค้นและปรับเปลี่ยนเพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมของผู้คน อย่างอินเทอร์เน็ตแบบ 5G และ 6G รวมถึงเทคโนโลยี AR และโลกเสมือนจริง Metaverse

การทำธุรกิจที่ไร้ข้อกำจัด

ปกติเวลามีการทำธุรกิจ เราต่างก็มีข้อจำกัด ไม่ว่าจะเป็นด้านเวลา สถานที่ พื้นที่ที่จำกัด รวมไปถึงความห่างไกลของคู่ธุรกิจ และแล้ว Metaverse ก็มาทำลายข้อจำกัดเหล่านี้ออกไปอย่างง่ายดาย เราไม่ต้องกังวลเรื่องพวกนี้อีกต่อไป เพราะในโลกเสมือนจริงอย่าง Metaverse นั้นคุณสามารถเจรจาทำธุรกิจได้อย่างใจฝัน หากมีทรัพยากรและความรู้มากพอ พร้อมที่จะเปิดประตูเข้าถึงผู้คนทั่วโลกได้ในพริบตา

แบรนด์ยักษ์ใหญ่เข้าร่วมวงด้วย

ตลอดปี 2021 หลายคนคงจะเห็นข่าวแบรนด์ยักษ์ใหญ่หลายเจ้ารีบเข้ามาร่วมวงกับโลกเสมือนจริง Metaverse กันมากมาย ไม่ว่าจะเป็น

 – Facebook เข้าสู่ Metaverse แบบเต็มตัวไปเลย โดยมีจุดหมายเป็น Metaverse Company โดยทาง Facebook ได้วางกลยุทธ์ที่จะดึงให้ผู้ใช้งานเข้าสู่โลกเสมือนจริงนี้มากขึ้น ผ่านการขาย Hardware ในราคาที่เข้าได้

 – Tencent บริษัทเทคโนโลยีดังจากจีนกำลังมุ่งพัฒนาเทคโนโลยี VR และ AR อย่างเต็มที่ รวมไปถึงการเข้าลงทุนในบริษัท Epic Game เกมโลกเสมือนจริง ซึ่งอาจกลายเป็นเกมที่ต่อยอดเศรษฐกิจในิ Metaverse ได้ในอนาคต

 – Netflix เปิดตัวห้างเสมือนจริงภายใต้ชื่อ Starcourt Mall เป็นห้างที่อยู่ในซีรีส์ดังอย่าง Stranger Things เป็นการร่วมมือระหว่าง Roblox หนึ่งใน Metaverse platform

มิติใหม่ของระบบ Payment

ในยุคนี้การจ่ายเงินผ่านสกุลเงินดิจิทัลเริ่มเข้าถึงได้มากขึ้น จนอาจเป็นส่วนหนึ่งในโลกของธุรกิจในอนาคต ด้วยข้อดีของมันก็คือสามารถทำการซื้อขายกันได้ง่าย ๆ ผ่าน Smart Contract ที่อยู่บนบล็อกเชนที่โปร่งใสและปลอดภัย อีกทั้งยังช่วยปัญหาข้อกำจัดของสกุลเงินที่ต่างกันในการซื้อขาย  

 

อ่านมาถึงตรงนี้คงเข้าใจกันแล้วว่าโลกเสมือนอย่าง Metaverse นั้นน่าจับตามองมากขนาดไหน ถ้าคุณเป็นหนึ่งในนักธุรกิจที่อยากผลักดันแบรนด์ยิ่งขึ้น