เราเดินทางมาถึงเดือนที่สามของปี 2022 กันแล้ว เทรนด์การตลาดใหม่ ๆ กับอัปเดตกันอยู่ไม่ขาดสาย เราเลยขอเอาความรู้เกี่บงกับเทรนด์การตลาดยุคใหม่มาฝากนักการตลาดกันบ้าง เป็นการแนะนำแนวทาง หรือแนวคิดกลยุทธ์การตลาดหลายแบบที่นักการตลาดไม่ควรทำกันแล้วในปีใหม่นี้ ซึ่งเป็นแนวคิดจากงาน What To Not Do in 2022 ‘สิ่งที่นักการตลาดควรเลิกทำในปี 2022’ จัดโดย MediaDonuts by Entravision ประเทศไทย
เป็นการวิเคราะห์จากข้อมูลที่พวกเขาได้รวบรวมเกี่ยวกับเทรนด์การตลาดต่าง ๆ มาตลอดทั้งปี 2021 เพื่อหาข้อสรุปว่ามีสิ่งไหนที่นักการตลาดยุคใหม่ควรเลิกทำบ้าง เพราะกลยุทธ์เดิม ๆ ที่เคยเวิร์กมันอาจจะไม่ได้ผลดีแล้วก็ได้ ไปดูกันเลย
5 ข้อเทรนด์การตลาดที่นักการตลาดไม่ควรทำ
1. อย่าใช้แคมเปญการตลาดทั่วไปแล้วจบ
ปกติแล้วนักการตลาดคงคิดว่าการสื่อสารออกไปเพื่อจุดประสงค์ที่เป็นแค่เพียงการใช้แคมเปญการตลาดทั่วไปที่อาจเป็นไวรัลครั้งหนึ่งแล้วจบไป สร้างสรรค์ หรือเอาใจกลุ่มเป้าหมายหนัก ๆ อาจจะไม่ถูกใจคนยุคนี้อีกแล้ว แต่ควรสื่อสารออกไปด้วยกลยุทธ์ที่มีจุดประสงค์ในการสร้างความเชื่อและลงมือทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้แบรนด์หายไปจากกระแสที่สร้างไว้
ซึ่ง Purpose-driving marketing นั้นหมายถึงแนวคิดการตลาดที่ขับเคลื่อนแบรนด์ด้วยเจตนารมณ์ ไม่ได้ต้องการแค่เพียงการสร้างยอดขายให้ได้มากที่สุด ในขณะเดียวกันก็มีส่วนร่วมที่ช่วยให้สังคมดีขึ้นไปพร้อมกันด้วย ยกตัวอย่างเช่นการหยิบเอาประเด็นความยั่งยืนของโลก สิทธิเสรีภาพของมนุษย์ ความเท่าเทียมทางเพศ หรือแม้แต่การเมืองมาใช้เป็นคีย์หลักของการสื่อสาร
จากการคาดการณ์ทิศทางความคาดหวังของผู้บริโภคในปี 2022 และปีต่อ ๆ ไป โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม คือ จากการคาดหวังให้แบรนด์ทำมาเป็น จับตาดูและติดตามผลลัพธ์มากขึ้น เนื่องด้วยยุคนี้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสื่อออนไลน์และเลือกเสพสื่อได้มากขึ้น ทำให้พวกเขาคอยจับตาดูแบรนด์ว่าทำได้ตามจุดประสงค์ของการสื่อสารนั้นจริงทั้งต่อหน้าและลับหลังหรือไม่
ดังนั้นนักการตลาดควรเลิกทำการสื่อสารเพื่อจุดประสงค์ให้เป็นแค่เพียงแคมเปญการตลาดทั่วไปได้แล้ว แต่ต้องสื่อออกไปด้วยกลยุทธ์ความเชื่อ และอย่าลืมต้องทำอย่างต่อเนื่อง พร้อมมีการวัดผล
2. อย่าโปรโมตผ่านแค่ Influencer เบอร์ดัง
ในการโปรโมตสินค้าหรือแบรนด์นักการตลาดควรเลิกสนใจแค่ KOL อย่างเดียวได้แล้ว เพราะมันกลายเป็นทรัพยากรใหม่ของแบรนด์ไปแล้ว อย่างไรก็ตามการใช้กลยุทธ์ Influencer Marketing ก็ยังคงสำคัญกับการตลาดออนไลน์ในตอนนี้ การโปรโมตในช่องทางนี้จะยังคงอยู่ต่อไป แต่อาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนในบางเรื่อง ซึ่งจากรายงานของ GWI Connecting the dots ได้ศึกษาทิศทางของผู้บริโภคปี 2022 พบว่าพวกเขาเริ่มมองหา ‘ความไม่สมบูรณ์แบบ’ หรือเทรนด์ ‘A Virtual imperfect life’ คนธรรมดาทั่วไป หรือคอนเทนต์บ้าน ๆ มากขึ้น และการจากการศึกษาของ Microsoft Advertising บอกว่า 59% ของผู้บริโภคมีแนวโน้มจะเชื่อใจแบรนด์ที่ทำให้รู้สึกสะท้อนภาพตัวเองในโฆษณาผ่านการใช้คนเล่าเรื่องที่เป็นตัวแทนของคนปกติทั่วไปมากกว่า
จึงเกิดเทรนด์ ‘Just like me marketing’ ขึ้น เป็นค่านิยมใหม่ที่ผู้บริโภคมองหาคนทั่วไปเป็นตัวแทนที่สะท้อนถึงตังเอง และเกิดเทรนด์การใช้ Customer แทนการใช้ Influencer แบบเดิม ๆ ซึ่งเทรนด์การใช้นี้มีให้เห็นกันบ่อย ๆ บนแพลตฟอร์มดังอย่าง TikTok หรือ Twitter โดยที่แบรนด์สามารถทำงานกับผู้บริโภคที่แสดงความคิดเห็นต่อสินค้าในแง่ดีได้ และยังสามารถขอเอาคอนเทนต์นั้นไปใช้ในการทำโฆษณาต่อได้อย่างถูกต้องอีกด้วย
นักการตลาดทั้งหลายอย่าลืมล่ะ อย่ามุ่งแค่ใช้ KOL อย่างเดียว แต่จงรวมคนทั่วไปที่แบรนด์สามารถทำมาโปรโมตแบรนด์ได้เหมือนกัน Influencer เหล่านี้ไปด้วย
3. อย่าทำแค่คอนเทนต์ภาพนิ่ง
นักการตลาดทั้งหลายอย่ามุ่งทำแต่คอนเทนต์ภาพนิ่งที่เน้นคลิกเพียงอย่างเดียว เพราะตอนนี้คอนเทนต์แนวใหม่ประเภท Shoppable Storytelling ที่ทำเพื่อสร้างยอดขายแบรนด์กำลังมา ในช่วงสถาการณ์โควิดที่ผ่านมา ผู้บริโภคไม่สามารถออกไปช้อปนอกบ้านได้ ทำให้การตื่นตัวและเม็ดเงินที่ต้องทุ่มลงโฆษณาที่เน้นการคลิกเพื่อเข้าไปสั่งซื้อนั้นอยู่ในความสนใจของนักการตลาดมาตลอดในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ลักษณะของคอนเทนต์ที่ผลิตออกมานั้นจึงเป็นแนวภาพนิ่งที่ใส่แค่เพียง Call to Action เรียกคลิก หรือโฆษณาที่กระตุ้นให้เกิดการคลิก
แต่เทรนด์การตลาดปี 2022 ถ้าคุณเป็นนักการตลาดที่ทำแค่คอนเทนต์ภาพนิ่งกระตุ้นคลิกแบบเดิมมันไม่ได้ผลแล้ว เพราะผู้บริโภคมองหาความสร้างสรรค์และการเล่าเรื่องราว หรือคอนเทนต์ประเภทวิดีโอ เห็นได้ง่าย ๆ จาก แพลตฟอร์ม TikTok ที่บูมมากในช่วงโควิด-19 รวมถึง Facebook ก็พูดในงานสัมนา ‘The Power of Video 2021 Thailand’ ว่าคอนเทนต์ประเภทวิดีโอจะกลับมา และแพลตฟอร์ม Twitter คอนเทนต์ประเภทวิดีโอก็กลายเป็นรูปแบบหลักที่จำนวนการรับชมเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 67%
เชื่อมโยงกับข้อมูลใน ‘Top Digital Marketing Trend and Predictions for 2022’ จาก Think with Google บอกว่า Shoppable Content จะเป็นสิ่งที่นักการตลาดพูดถึงกันทั้งในปัจจุบันและอนาคต การขายจะต้องขายแบบเล่าเรื่องราวมากกว่าแค่การกระตุ้นให้คลิก ดังนั้นเลิกทำคอนเทนต์ภาพนิ่งกระตุ้นคลิกได้แล้ว มาหันมาทำคอนเทนต์ที่เล่าเรื่องราวอย่างสร้างสรรค์ให้คนอยากมาคลิกดีกว่า
4. อย่าเก็บ Data แบบไม่วางแผน
นักการตลาดสายออนไลน์จะรู้กันดีอยู่แล้วว่ายุคใหม่ ผู้บริโภคนั้นให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในข้อมูลส่วนตัวในการใช้งานแพลตฟอร์มต่าง ๆ มากขึ้น รวมถึงยังมีกระแส Cookie-less world ให้ได้ภายในปี 2023 ด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ส่งผลกระทบโดยตรงกับนักการตลาดอย่างแน่นอน เพราะในการทำโฆษณานั้นต้องเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวบางส่วนของผู้ใช้งานให้ยิงโฆษณาได้ตรงกลุ่มเป้าหมายและให้ได้ประสิทธิภาพที่แม่นยำมากที่สุด
เพราะเหตุนี้ทำให้หลายแบรนด์เริ่มทุ่มเม็ดเงินในเรื่องของ Tools ในการเก็บ Data เป็นของตัวเองมากขึ้น สร้างเว็บไซต์ของตัวเอง ซึ่งสิ่งที่นักการตลาดต้องระมัดระวังและคิดก่อนจะลงมือเก็บ Data ของผู้ใช้งานก็คือ เรื่องการนำข้อมูล Data มาใช้ประโยชน์ให้คุ้มค่าให้อย่างไรบ้าง และจะนำข้อมูลนั้นไปเชื่อมต่อกับอะไรได้บ้าง
5. อย่าทำงานแบบทีมใครทีมมัน
ปี 2022 และในอนาคตคือยุคแห่งการทำงานร่วมกัน การทำงานแบบมี Partner หรือ Co-Creation เป็นเทรนด์การทำงานแนวใหม่ที่นักการตลาดบางคนอาจเคยเห็นกันในแบรนด์ใหญ่กันมาบ้างแล้ว เพราะเริ่มมีแนวคิดที่ว่าการที่ให้ทุกฝ่ายได้เข้ามามีส่วนร่วมในการทำงานนั้นจะทำให้ชิ้นงานนั้นโดดเด่นและมีประสิทพธิภาพยิ่งขึ้น เพราะต่างฝ่ายต่างก็ได้แลกเปลี่ยนสิ่งที่ตัวเองถนัดและใส่มันเข้ามาใสชิ้นงาน ไม่ได้มีแค่ทีมการตลาด แต่ยังรวมไปถึงการเปิดโอกาสให้เหล่าครีเอเตอร์ หรือลูกค้ามีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น หรือแนะนำกับแบรนด์อีกด้วย
TikTok นั้นเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือทางการตลาดชั้นดีเลยทีดียว หากอยากสร้างการรับรู้ในเวลาอันรวดเร็วเราขอแนะนำให้คุณเข้ามาในแพลตฟอร์มนี้