เทคโนโลยีนั้นมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ การออกแบบเว็บไซต์ ก็เช่นกัน เนื่องจากในยุคดิจิทัลที่เว็บไซต์เปรียบเสมือนหน้าร้านออนไลน์ การออกแบบเว็บไซต์ที่สวยงาม ทันสมัย และใช้งานง่าย จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งทั้งในแง่ของการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้ ดึงดูดลูกค้า ไม่เพียงเท่านี้ การออกแบบเว็บไซต์ยังมีบทบาทสำคัญต่อความสำเร็จของธุรกิจอีกด้วย
5 เทรนด์การออกแบบเว็บไซต์ 2024
ถ้าไม่อยากตกเทรนด์ ต้องอ่าน เพราะว่าในบทความนี้ เราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับ 5 เทรนด์การออกแบบเว็บไซต์ในปี 2024 ที่จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณโดดเด่น ทันสมัย และ สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งาน
1. ปัญญาประดิษฐ์ (AI)
ในยุคที่เราได้ยินคำว่า AI มากขึ้น รวมถึงข้อความที่หลายคนอาจเคยเห็นประมาณว่า เทคโนโลยี AI จะเข้ามาแทนที่ในหลาย ๆ สายอาชีพ จริง ๆ แล้วการเข้ามาของเหล่า AI เปรียบเสมือนตัวช่วย ที่ทำให้เราทำงานได้สะดวก รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ซึ่งการใช้ AI เพื่อการออกแบบเว็บไซต์ จะช่วยปรับแต่งเนื้อหาแบบ Personalized เพื่อเป็นการสร้างประสบการณ์ให้เหมาะกับผู้ใช้แต่ละคน ตัวอย่างการใช้งาน AI เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลผู้ใช้เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพเว็บไซต์ แนะนำสินค้าหรือบริการที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ หรือสร้างแชทบอทเพื่อตอบคำถามผู้ใช้
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ก็มีอีกหนึ่งเครื่องมือออกแบบเว็บไซต์บางส่วนที่ได้รับความนิยมในหมู่นักออกแบบเว็บไซต์ นั่นก็คือ Dall-E สร้างโดย OpenAI สำหรับสร้างภาพดิจิทัลและศิลปะที่สมจริงจากคำอธิบายข้อความ ด้านล่างนี้เป็นภาพที่สร้างโดย Dall-E ซึ่งเป็นภาพที่ทางทีมลองให้ Dall-E สร้างภาพพนักงานออฟฟิศเนื่องใน วันแรงงานแห่งชาติ
แม้การออแบบเว็บไซต์โดยใช้ AI เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับนักออกแบบ เครื่องมือเหล่านี้ช่วยให้นักออกแบบทำงานได้เร็วขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม นักออกแบบควรใช้เครื่องมือเหล่านี้ควบคู่กับทักษะและความคิดสร้างสรรค์ของตนเอง
2. มินิมอล เน้นเรียบง่าย
เทรนด์แบบน้อยแต่มาก เรียบแต่ดูดี ยังคงได้รับความนิยม ซึ่งการออกแบบเว็บไซต์แบบมินิมอล จะมุ่งเน้นไปที่การทำให้เว็บอินเตอร์เฟซง่ายขึ้น ดีไซน์ที่ใช้วิธีการจัดวางไม่ซับซ้อน สีไม่ฉูดฉาด เน้นดูแล้วสบายตา และ ใช้งานได้จริง ซึ่งการออกแบบเว็บไซต์ที่เรียบง่าย ไม่ได้แปลว่าไม่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของผู้ใช้นะ แต่เป็นการช่วยให้ผู้ใช้สามารถโฟกัสที่เนื้อหาสาระสำคัญของเว็บไซต์ได้ดีขึ้น
3. ออกแบบเว็บไซต์แบบ 3 มิติ เสมือนจริง
ต้องบอกว่าการออกแบบเว็บไซต์ ในยุคปัจจุบันมีการนำฟีเจอร์ 3D และ VR (Virtual Reality) ในการออกแบบเว็บไซต์ ลองนึกภาพเว็บไซต์ที่คุณไม่เพียงแค่เห็นภาพแบน ๆ และข้อความ แต่คุณรู้สึกเหมือนกำลังก้าวเข้าไปในสภาพแวดล้อมเสมือนจริง หรือมองทะลุเลนส์ AR/VR ของ Google สิ่งเหล่านี้สามารถทำได้โดยการใส่ภาพ เอฟเฟกต์ และแอนิเมชั่น ซึ่งการสร้างมิติ 3D ช่วยสร้างความรู้สึกของความลึก ทำให้องค์ประกอบต่างๆ บนเว็บไซต์ดูมีปฏิสัมพันธ์และสมจริงมากขึ้น
4. Dark Mode
ปัจจุบันหลาย ๆ เว็บไซต์เริ่มนำฟีเจอร์ Dark Mode เข้ามา เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ใช้งาน ซึ่งจะปรับแต่งให้เข้ากับเลย์เอาท์และดีไซน์ของเว็บไซต์ บางเว็บไซต์ก็ตัดสินใจใช้โหมดมืดเป็นค่าเริ่มต้นเลย เหตุผลหนึ่งที่เริ่มมีการนำรูปแบบ Dark Mode มาใช้นั่นเป็นเพราะ สามารถช่วยลดอาการปวดตาได้และทำให้อ่านข้อความได้นานขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยยืดหยุ่นอายุการใช้งานแบตเตอรี่บนอุปกรณ์ที่ใช้จอแสดงผล OLED และ AMOLED และในส่วนของดีไซน์การใช้ Dark Mode ยังทำให้เว็บไซต์ดูหรูหรา ทันสมัย ดูมีระดับมากขึ้นอีกด้วย แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูว่าการใช้ฟีเจอร์นี้นั้นส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์คุณหรือไม่ด้วยนะ
5. ตัวอักษรหนา (Bold Typography)
ยุคที่เว็บดีไซน์เนอร์ต้องจำกัดตัวเองอยู่กับฟอนต์พื้นฐาน ใช้งานง่าย อ่านง่าย มันเอาท์แล้ว ยุคนี้ นักออกแบบเว็บไซต์ยุคใหม่ ควรก้าวออกจากเซฟโซนในการเลือกใช้ฟอนต์หลายรูปแบบ ตั้งแต่ฟอนต์แบบย้อนยุคไปจนถึงฟอนต์ที่ดูทันสมัย ซึ่งฟอนต์เหล่านั้นต้องเข้ากับโทนและสไตล์โดยรวมของเว็บไซต์ด้วย
ซึ่งเหตุผลหนึ่งที่ใช้ตัวอักษรหนา มาจากความนิยมที่เพิ่มขึ้นของการออกแบบเว็บไซต์แบบมินิมอล ยิ่งหน้าเว็บโล่งน้อยเท่าไหร่ องค์ประกอบแต่ละส่วนก็ยิ่งมีความสำคัญมากขึ้นเท่านั้น นักออกแบบอาจต้องหาวิธีใหม่ ๆ ในการสร้างความโดดเด่น และตัวอักษรเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด อย่างไรก็ตามการใช้ตัวอักษรหนาควรใส่เพื่อเน้นเฉพาะบางส่วน ไม่ควรใส่เยอะเกินไป ยกตัวอย่างเช่นการทำปุ่ม call-to-action ให้โดดเด่น เป็นต้น
UX/UI ที่นักออกแบบไม่ควรใช้
หลังจากที่เราได้พบกับเทรนด์ออกแบบเว็บไซต์ปี 2024 ไปแล้ว ต้องบอกว่า ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ประกอบการในธุรกิจอุตสาหกรรมไหนในยุคนี้ ก็ต้องมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองเพื่อเข้าถึงลูกค้าให้ครอบคลุมและทำให้แบรนด์ดูน่าเชื่อถือ ซึ่งการสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ให้ดูดีในสายตาลูกค้าและการออกแบบเว็บไซต์ก็เป็นส่วนหนึ่งในนั้น ลองมาเช็กกันหน่อย ว่าเว็บไซต์แบรนด์ของคุณมีการออกแบบ UX/UI เหล่านี้อยู่หรือเปล่า ถ้ามีแนะนำให้เปลี่ยนด่วนเลยนะ
1. มี Pop-up เยอะเกินไป
จริง ๆ แล้ว การมี Pop-up บนหน้าเว็บไซต์ไม่ผิด ช่วยเป็นสีสัน และ กระตุ้นให้คนสนใจ ซึ่งจะเห็นได้จากเว็บไซต์ E-Commerce ที่มีการ Pop-up คูปอง หรือ โปรโมชั่นต่าง ๆ แต่ถ้ามีเยอะเกินไปจะทำให้ผู้ใช้รู้สึกรำคาญ และพยายามมองหาปุ่มกดปิดในทันที แถมยังส่งผลต่อการจับอันดับใน Google ด้วย
2. ฟีเจอร์แน่นไม่ไหว
การมีฟีเจอร์มากมายมันดีก็จริง หากลูกค้าใช้งานผ่านคอมพิวเตอร์ แต่หากนักออกแบบใส่ฟีเจอร์แน่นเกินไปมันอาจจะไปสร้างปัญหาให้กับผู้ใช้งานบนสมาร์ทโฟน เพราะประสิทธิภาพการทำงานลดลง
3. เน้นสวยไม่เน้นใช้งาน
การออกแบบเว็บไซต์ ไม่ใช่แค่ทำให้สวยอย่างเดียว แต่ต้องใช้งานได้ และเป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน (User Friendly) ด้วยนะ
4. สี Contrast สุดแย่
การใช้สีสำหรับออกแบบเว็บไซต์ ควรเป็นสีที่ใช้แล้วไม่กลืนกัน ใช้แล้วกระตุ้นให้คนอยากอ่านหรือแยกความต่างออกจากเลย์เอาท์อื่นได้
5. วิดีโออัตโนมัติ
ข้อนี้คล้าย ๆ กับข้อแรกเลย และถือเป็นข้อผิดพลาดสำหรับนักออกแบบมาก ๆ เพราะการที่เราแปะ วิดีโออัตโนมัติ นอกจากจะทำให้เว็บไซต์ทำงานหนักแล้ว ยังสร้างความรำคาญให้ผู้ใช้งานอีกด้วย
6. ไม่เรียงลำดับการอ่าน
ถือเป็นการสร้างความสับสนให้กับผู้ใช้งาน โดยเฉพาะในตอนที่แบรนด์อยากให้ผู้ใช้งาน Take Action กับเว็บไซต์
หวังว่านักออกแบบเว็บไซต์ทั้งหลายจะได้ไอเดียไปปรับใช้ในการปรับปรุงเว็บไซต์ให้ทันสมัยและตามเทรนด์กันมากขึ้นในปี 2024 นะ หากธุรกิจของคุณกำลังมองหาบริษัท ออกแบบเว็บไซต์ เพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก Digimusketeers เรามีบริการ Website Development ออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ สร้างประสบการณ์ที่ดีให้ผู้ใช้ ด้วยการออกแบบ UX/UI ที่มีประสิทธิภาพ เข้าถึงธุรกิจหรือแบรนด์ของคุณผ่าน Search Engine เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์ม Social Media อื่นๆ ได้ สร้างความน่าเชื่อถือให้ธุรกิจและแบรนด์ของคุณ ออกแบบเว็บไซต์ให้โดดเด่นในแบบของคุณ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญฟรี
เรียบเรียงโดย Digimusketeers Team