Core Web Vitals

Core Web Vitals ช่วยเพิ่มอันดับ SEO ได้อย่างไร? ทำไมถึงมีบทบาทในการจัดอันดับเว็บไซต์

Digimusketeers, 5 February 2025

อยากให้เว็บไซต์ติดหน้าแรกบน Google ไม่ใช่แค่การใส่คีย์เวิร์ดอย่างเดียวอีกต่อไป เพราะตอนนี้ Google ให้ความสำคัญกับ Core Web Vitals มากขึ้น ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสำคัญของ UX (User Experience) ถ้าใครกำลังวางแผน สร้างเว็บไซต์ หรืออยากปรับปรุง seo ของตัวเอง บทความนี้มีคำตอบว่าทำไม Core Web Vitals ถึงมีผลต่อการจัดอันดับเว็บไซต์

Core Web Vitals คืออะไร?

Core Web Vitals คือเกณฑ์ที่ Google ใช้เช็กว่าประสบการณ์การใช้งานบนเว็บไซต์ของเราดีแค่ไหน หรือที่เรียกว่า User Experience – UX โดยเน้นให้คนที่เข้าเว็บรู้สึกใช้งานง่ายและประทับใจสุดๆ ซึ่งมีตัวชี้วัดหลัก 3 ข้อที่ Google ใช้ดูเป็นหลัก ได้แก่

Largest Contentful Paint (LCP)  ความเร็วในการดาวน์โหลดเนื้อหา

LCP เป็นตัววัดความเร็วในการแสดงเนื้อหาหลักของเว็บไซต์ เช่น ข้อความสำคัญ ภาพ หรือวิดีโอที่ปรากฏบนหน้าเว็บ โดย Google จะให้คะแนนว่าเว็บไซต์นั้นโหลดเนื้อหาหลักเร็วแค่ไหน

  • เกณฑ์ที่ดี: โหลดเสร็จภายใน 2.5 วินาที
  • ความสำคัญ: เว็บไซต์ที่โหลดช้าจะทำให้ผู้ใช้งานไม่พอใจ และมีโอกาสสูงที่พวกเขาจะออกจากเว็บไซต์ก่อนที่หน้าเว็บจะแสดงผลเสร็จ

Cumulative Layout Shift (CLS)  ความเสถียรของการแสดงผล

CLS วัดความเสถียรของหน้าเว็บขณะโหลด เช่น หากหน้าเว็บขยับไปมาในขณะที่ผู้ใช้พยายามคลิก หรืออ่านข้อมูล นั่นหมายถึงเว็บไซต์ของคุณมีปัญหาด้าน CLS

  • เกณฑ์ที่ดี: ค่า CLS ควรต่ำกว่า 0.1
  • ความสำคัญ: การแสดงผลที่ไม่เสถียรส่งผลให้ผู้ใช้สับสนและอาจปิดหน้าเว็บโดยทันที

First Input Delay (FID)  การตอบสนองของเว็บไซต์

FID เป็นการวัดระยะเวลาที่เว็บไซต์ตอบสนองต่อการกระทำครั้งแรกของผู้ใช้ เช่น การคลิกปุ่ม หรือการกรอกแบบฟอร์ม

  • เกณฑ์ที่ดี: ควรต่ำกว่า 100 มิลลิวินาที
  • ความสำคัญ: หากเว็บไซต์ตอบสนองช้า ผู้ใช้จะรู้สึกหงุดหงิดและอาจเลิกใช้งานเว็บไซต์

Core Web Vitals คืออะไร

ทำไม Core Web Vitals ถึงส่งผลต่ออันดับการค้นหา?

Google ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ผู้ใช้มากขึ้นในปัจจุบัน เว็บไซต์ที่ทำคะแนนได้ดีใน Core Web Vitals จะมีโอกาสสูงที่จะถูกจัดอันดับให้อยู่หน้าแรกของผลการค้นหา นอกจากนี้ยังช่วยลดอัตราการเด้งออก Bounce Rate และเพิ่มโอกาสให้ผู้ใช้กลับมาใช้งานซ้ำ

ถ้าคุณมีเว็บไซต์ที่โหลดเร็ว ตอบสนองไว และเสถียร ผู้ใช้งานจะรู้สึกพึงพอใจและมีโอกาสมากขึ้นที่จะอ่านเนื้อหาจนจบ หรือแม้แต่ทำการซื้อสินค้าหรือบริการที่เว็บไซต์นำเสนอได้ง่ายขึ้น

ตัวอย่างผลลัพธ์ของ Core Web Vitals ที่ดี

  1. ลด Bounce Rate: ผู้ใช้งานอยู่ในเว็บไซต์นานขึ้น เพราะหน้าเว็บโหลดเร็วและใช้งานง่าย
  2. เพิ่ม Conversion Rate: ผู้ใช้งานรู้สึกประทับใจ และไว้วางใจเว็บไซต์ ทำให้เกิดการซื้อสินค้าหรือบริการ
  3. สร้างความประทับใจให้ผู้เยี่ยมชม: UX ที่ดีทำให้ผู้ใช้งานอยากกลับมาเยี่ยมชมเว็บไซต์อีก

การปรับปรุง Core Web Vitals จึงไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิค แต่ส่งผลโดยตรงต่อความสำเร็จของเว็บไซต์ในระยะยาว

วิธีเช็ค Core Web Vitals

Core Web Vitals เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพและยกระดับ เว็บไซต์พร้อมทั้งประสบการณ์ผู้ใช้งาน (UX) ให้เหมาะสมสำหรับการจัดอันดับบน Google โดย Google ได้พัฒนาเครื่องมือที่ใช้งานง่ายและแม่นยำเพื่อช่วยตรวจสอบดังนี้

1. Google Search Console

Google Search Console เป็นเครื่องมือที่ให้เราดูภาพรวมของเว็บไซต์ได้ง่ายๆ ในที่เดียว โดยเฉพาะข้อมูลเกี่ยวกับ Core Web Vitals ที่จะช่วยบอกว่าเว็บไซต์ของเรามีจุดไหนต้องแก้ไขหรือพัฒนาเพิ่มเติมบ้าง

  • หน้า เว็บไซต์ ใดทำงานได้ดี และหน้าใดที่ต้องปรับปรุง
  • ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับ LCP, CLS, และ FID
  • รายงานปัญหาแยกตามหน้า เว็บไซต์ และอุปกรณ์ เช่น เดสก์ท็อป หรือมือถือ

ขั้นตอนการใช้งาน

  1. ลงชื่อเข้าใช้ Google Search Console
  2. ไปที่เมนู Core Web Vitals แล้วไปที่หัวข้อ Experience
  3. ดูรายงานภาพรวม และคลิกที่หน้าที่มีปัญหาเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม

จุดเด่น

  • สามารถตรวจสอบปัญหาได้ในระดับสร้างเว็บไซต์ ทั้งหมด
  • รายงานแสดงผลแบบเข้าใจง่าย พร้อมลิงก์ไปยัง Google PageSpeed Insights

2. Google PageSpeed Insights

Google PageSpeed Insights เป็นเครื่องมือที่ออกแบบมาเพื่อวิเคราะห์ประสิทธิภาพของหน้าเว็บไซต์อย่างละเอียด โดยมุ่งเน้นคะแนน Core Web Vitals เช่น LCP, CLS, และ FID พร้อมคำแนะนำเชิงลึกสำหรับการปรับปรุงเว็บไซต์ให้ดียิ่งขึ้น

ขั้นตอนการใช้งาน

  1. ไปที่เว็บไซต์ Google PageSpeed Insights
  2. กรอก URL ของหน้า เว็บไซต์ ที่ต้องการตรวจสอบ
  3. รอการวิเคราะห์ และดูรายงานคะแนนของ LCP, CLS, และ FID

จุดเด่น

  • รายงานแยกคะแนนระหว่าง Mobile และ Desktop
  • ให้คำแนะนำที่สามารถนำไปปรับปรุงได้จริง เช่น การลดขนาดไฟล์ภาพ หรือการลบสคริปต์ที่ไม่จำเป็น
  • ใช้ได้ฟรีและเข้าถึงง่าย

สิ่งที่ต้องทำหลังการตรวจสอบ

เมื่อคุณได้ข้อมูลจากเครื่องมือเหล่านี้แล้ว สิ่งสำคัญคือการนำคำแนะนำไปปรับปรุงสร้างเว็บไซต์ เช่น

  1. ปรับปรุงความเร็วในการโหลดเนื้อหา (LCP) โดยลดขนาดไฟล์ภาพและวิดีโอ
  2. แก้ไขการขยับของหน้าเว็บ (CLS) ด้วยการกำหนดขนาดภาพและโฆษณาให้ชัดเจน
  3. เพิ่มการตอบสนองของเว็บไซต์ (FID) ด้วยการลด JavaScript ที่ไม่จำเป็น

การเช็ค Core Web Vitals เป็นกระบวนการที่ช่วยให้คุณเข้าใจปัญหาและหาทางปรับปรุง เว็บไซต์ ได้อย่างตรงจุด เพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้ผู้ใช้งานและโอกาสในการติดอันดับสูงขึ้นบน Google

Core Web Vitals ดันเว็บไซต์ให้ปัง

เคล็ดลับการปรับปรุง Core Web Vitals ให้ดียิ่งขึ้น

การปรับปรุง Core Web Vitals เป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ สร้างเว็บไซต์ มีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ seo ได้ดียิ่งขึ้น โดยการปรับปรุงเหล่านี้จะช่วยแก้ปัญหาด้าน UX (User Experience) และเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ติดอันดับสูงบน Google

1. ปรับปรุงความเร็วเว็บไซต์

ความเร็วในการโหลดเว็บไซต์ เป็นเรื่องที่โคตรสำคัญสำหรับ Core Web Vitals เลย โดยเฉพาะ Largest Contentful Paint (LCP) ที่เอาไว้เช็กว่าเนื้อหาหลักในหน้าเว็บของเราต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะโหลดเสร็จ

  • ลดขนาดไฟล์รูปภาพและวิดีโอ: ใช้เครื่องมือบีบอัดไฟล์ภาพ เช่น TinyPNG หรือแปลงภาพเป็นนามสกุล .webp ที่มีขนาดเล็กลงแต่ยังคงคุณภาพ
  • ใช้โฮสติ้งคุณภาพสูง: เลือกผู้ให้บริการโฮสติ้งที่มีเซิร์ฟเวอร์เร็วและรองรับการใช้งานเว็บไซต์ที่มีปริมาณผู้เข้าใช้งานสูง
  • ลบปลั๊กอินที่ไม่จำเป็น: สำหรับ สร้างเว็บไซต์ ที่สร้างด้วย CMS อย่าง WordPress การลดจำนวนปลั๊กอินจะช่วยลดการประมวลผลและเพิ่มความเร็วได้อย่างมีนัยสำคัญ

 

2. กำหนดขนาดขององค์ประกอบในการสร้างเว็บไซต์

การกำหนดขนาดของภาพ แบนเนอร์ ให้ชัดเจน จะช่วยลดปัญหาเรื่องหน้าเว็บขยับไปมา หรือที่เรียกว่า Cumulative Layout Shift – CLS ซึ่งเป็นตัววัดความเสถียรของการแสดงผลให้ดีขึ้น

  • หากหน้าเว็บมีภาพขนาดใหญ่ ควรกำหนดความกว้างและความสูงให้ชัดเจนในโค้ด HTML เพื่อป้องกันการขยับของหน้าเว็บขณะโหลด
  • การจัดเรียงองค์ประกอบที่เหมาะสมช่วยเพิ่มประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่น

 

3. เลือกใช้ Third-party Scripts อย่างระมัดระวัง

Third-party คือ Live Chat หรือโฆษณา อาจเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้หน้าเว็บโหลดช้าขึ้นและกระทบต่อ First Input Delay (FID) ซึ่งวัดความเร็วในการตอบสนองต่อการกระทำครั้งแรกของผู้ใช้งาน

  • ลบหรือปิดใช้งานสคริปต์ที่ไม่จำเป็น เช่น Facebook Like Box หรือการฝังโฆษณาที่ไม่ได้ใช้งาน
  • ใช้สคริปต์แบบ Asynchronous เพื่อให้โหลดข้อมูลในพื้นหลังโดยไม่กระทบการแสดงผลของหน้าเว็บ

 

สรุป

Core Web Vitals ไม่ใช่แค่ตัวชี้วัด UX แต่เป็นปัจจัยสำคัญในการปรับปรุง seo และการจัดอันดับเว็บไซต์ หากคุณวางแผน สร้างเว็บไซต์ หรือกำลังปรับปรุง seo ควรให้ความสำคัญกับ LCP, CLS, และ FID เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้กับผู้เยี่ยมชม และเพิ่มโอกาสในการติดอันดับหน้าแรกของ Google

FAQ เกี่ยวกับ Core Web Vitals

ถ้าเว็บไซต์ CLS สูงเกินไปควรทำอย่างไร?

  • กำหนดขนาดภาพ วิดีโอ และโฆษณาให้ชัดเจน เพื่อลดการขยับของหน้าเว็บขณะโหลด

วิธีแก้ปัญหา LCP คืออะไร?

  • ลดขนาดไฟล์รูปภาพ ใช้ระบบ CDN และลบสคริปต์ที่ไม่จำเป็นเพื่อให้เนื้อหาหลักโหลดเร็วขึ้น

ทำไม Core Web Vitals ถึงสำคัญกับ SEO?

  • เพราะ Google ใช้ Core Web Vitals เป็นปัจจัยในการจัดอันดับ ช่วยเพิ่มคะแนนและโอกาสในการติดหน้าแรก

ถ้าคุณกำลังมองหาเอเจนซี่ที่รับทำเว็บไซต์ให้น่าเชื่อถือ Digimusketeers เรามีบริการ Website Development ออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ สร้างความน่าเชื่อถือให้ธุรกิจและแบรนด์ของคุณ เราช่วยออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์ธุรกิจ และทำให้ลูกค้าค้นหาเว็บไซต์ของคุณได้ง่ายมากขึ้น โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ที่จะพัฒนาเว็บไซต์อย่างครบวงจรโดยมืออาชีพ ออกแบบ UX/UI ที่มีประสิทธิภาพ สร้างประสบการณ์ที่ดีให้ผู้ใช้ ตอบโจทย์ทุกธุรกิจ รวมถึงพัฒนาเว็บไซต์ ให้รองรับการใช้งานบนทุกอุปกรณ์ (Responsive Design) ตั้งค่า SEO พื้นฐาน เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณอยู่หน้าแรกของการค้นหา และสามารถเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ของคุณติดหน้าแรก Google ผ่านการวิเคราะห์แบบเจาะลึก (SEO Audit) รวมถึงการสร้างสร้างสรรค์คอนเทนต์ให้สอดคล้องกับ Search Engine (SEO Content) ออกแบบเว็บไซต์ให้โดดเด่นในแบบของคุณติดต่อ 02-047-0088 หรือ แอดไลน์เพื่อปรึกษาเราฟรี

คุณกำลังต้องการเพิ่มยอดขายออนไลน์ให้ธุรกิจของคุณอยู่หรือไม่

ปรึกษาฟรี!

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้ของเรา

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับ
Manage Consent Preferences บันทึก