ชวนมาทำความรู้จักการตลาดแบบใหม่ที่ทำให้แบรนด์สามารถรู้ลึก รู้จริง รู้ถึง Insight กลุ่มเป้าหมายได้อย่างชัดเจน ด้วยกลยุทธ์การตลาดแบบ Data Driven เป็นรูปแบบการตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเป็นการใช้ข้อมูลที่มีค่ามาพัฒนาการนำเสนอสินค้าและบริการเพื่อเอาชนะใจลูกค้า และเพื่อการค้าที่เหนือกว่าคู่แข่ง จะเป็นอย่างไรและมีอะไรบ้าง มาดูไปพร้อมกันเลย
Data Driven Marketing คืออะไร
Data Driven Marketing เป็นรูปแบบหนึ่งของการตลาด โดยเป็นการตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้า (Customer data) ทั้งในด้านพฤติกรรมการซื้อสินค้าและสถิติ แนวโน้มความสนใจในด้านต่าง ๆ เพื่อนำข้อมูลเหล่านี้่มาพัฒนาแผนกลยุทธ์การตลาดให้สอดคล้องและตอบรับกับความต้องการของผู้บริโภคมากที่สุด
ความสำคัญของกลยุทธ์ Data Driven
กลยุทธ์การขับเคลื่อนด้วยการตลาดข้อมูล Data Driven มีความสำคัญสำหรับธุรกิจหรือองค์กรมาก ๆ ในปัจจุบัน โดยสถิติจาก Marketing Evolution ได้พบว่าปัจจุบันมีองค์กรระดับโลกกว่า 40% ที่นำเอา Data Driven มาใช้ และ มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นต่อไปในอนาคต เพราะการทำการตลาดผ่านข้อมูลที่เก็บและวิเคราะห์มาจากกลุ่มผู้บริโภค ทำให้เรามองเห็นเป้าหมายและทิศทางที่จะพัฒนาหรือดำเนินการต่อได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น รวมทั้งการนำเอา Data Driven มาใช้ในกลยุทธ์การตลาด จะช่วยให้ธุรกิจไม่ต้อง “คาดเดา” หรือ “ประมาณการณ์” โดยสัญชาตญาณ หรือการคาดเดาแนวโน้มจากตัวแปรต่าง ๆ แต่ช่วยให้ธุรกิจสามารถรับรู้ และเข้าใจความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้แบบแน่นอนมากยิ่งขึ้น
ข้อได้เปรียบของการทำ Data Driven Marketing
- สามารถเข้าถึง เข้าใจกลุ่มลูกค้า และถือไพ่เหนือกว่าคู่แข่ง
- ลดต้นทุน
- เพิ่มประสิทธิภาพของกลยุทธ์ทางการตลาด
- เพิ่มผลตอบแทน กระตุ้นยอดขาย
แนวทางในการทำกลยุทธ์การตลาด Data Driven Marketing
สำหรับแบรนด์ที่อยากนำเอากลยุทธ์การตลาดข้อมูลอย่าง Data Driven เข้ามาเป็นกลยุทธ์สำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจและการให้บริการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ก็สามารถนำเอาแนวทางในการทำกลยุทธ์ Data Driven Marketing นี้ ไปปรับใช้ตามความเหมาะสมกันได้เลย
1. กำหนดเป้าหมายของธุรกิจ
ขั้นตอนแรกคือการรู้เป้าหมายของกลยุทธ์ที่เราต้องการจะทำ รวมทั้งกำหนดวัตถุประสงค์การนำข้อมูลเหล่านั้นไปใช้งาน เพื่อที่จะได้รู้ว่าเราต้องการข้อมูลด้านใดบ้าง และจะนำไปใช้งานให้เกิดประสิทธิภาพและตอบโจทย์ความต้องการมากที่สุดได้อย่างไร
เช่น อยากมียอดขายเพิ่มมากขึ้น 30% ข้อมูลที่ต้องควรรู้และเก็บมาคือ พฤติกรรมการซื้อสินค้าของลูกค้าเป็นอย่างไร หรือตัวแปรในการตัดสินใจซื้อสินค้ามีอะไรบ้าง โดยทำการสอบถามผ่านแบบสอบถาม หรือวิจัยทางการตลาด เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการนำไปพัฒนาแผนกลยุทธ์การตลาดของเราต่อไป
2. เก็บรวบรวมข้อมูลอย่างเป็นระบบ
การเก็บรวบรวมข้อมูลและจำแนกส่วนประกอบต่าง ๆ ออกอย่างเป็นระบบจะช่วยให้เรานำเอาข้อมูลเหล่านั้นออกมาใช้ได้ง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น แต่การจัดการกับข้อมูลจำนวนมากทำให้เราต้องใช้เครื่องมือเข้ามาช่วยเหลือ โดยแบรนด์สามารถเลือกใช้เครื่องมือในการช่วยจัดเก็บและจำแนกข้อมูลได้ตามความเหมาะสม หรือสามารถใช้โปรแกรมเบื้องต้นอย่าง Microsoft Excel หรือ Google Sheet ที่มีความสามารถในการช่วยจัดและแบ่งข้อมูลได้อย่างง่ายดายและมีประสิทธิภาพ เหมาะกับธุรกิจขนาดไม่ใหญ่มาก หรือผู้ที่เริ่มต้นทำ Data Driven Marketing ไปจนถึงการใช้ CRM หรือ
3. วิจัยตลาด
เป็นการศึกษาหาข้อมูลของลูกค้าในตลาดที่เราจะเอาสินค้าและบริการของตัวเองลงไปเล่นและแข่งขัน เพื่อให้เรามองเห็น Position และกำหนดทิศทางแบรนด์ในตลาดตอนนี้ และสามารถนำเอาไปปรับปรุงแผนการตลาดต่อไปในอนาคตได้
4. วิจัยพฤติกรรมลูกค้า
นอกจากการวิเคราะห์วิจัยตลาดที่เราจะเอาสินค้าและบริการลงไปวางขายหรือแข่งขันแล้ว พฤติกรรมการตัดสินใจของลูกค้า สิ่งเร้า ตัวแปรต่าง ๆ ที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการของผู้บริโภคก็เป็นสิ่งสำคัญที่แบรนด์จะต้องรับรู้ เพื่อเตรียมรับมือและหาแผนการตลาดที่ตอบโจทย์และคุ้มค่ามากที่สุด
5. นำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์
เป็นขั้นตอนสำคัญที่สุดของการทำกลยุทธ์การตลาดแบบ Data Driven Marketing เพราะว่าหลังจากที่เราได้ข้อมูลมาแล้ว ทำการจำแนกแบ่งประเภทต่าง ๆ ของข้อมูลเสร็จสรรพ เราจะต้องนำเอาข้อมูลเหล่านั้นมาทำการวิเคราะห์เพื่อหาคำตอบแบบ Insight ซึ่งจะเป็นข้อสรุปของคำถามต่าง ๆ รวมทั้งเป็นการช่วยเพิ่มความคุ้มค่าในการลงทุนได้ด้วยจากการทำความเข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภค
ตัวอย่างการนำกลยุทธ์ Data Driven Marketing ไปใช้งานจริง
สำหรับการตลาดแบบ Data Driven Marketing เป็นกลยุทธ์ที่เรียกได้ว่ามีประสิทธิภาพ และเป็นสิ่งที่แบรนด์ใหญ่ ๆ ในปัจจุบันได้หยิบเอาไปใช้งานจริงและประสบผลสำเร็จอย่างมากมาย โดยแบรนด์ระดับโลกที่นำเอา Data Driven Marketing ไปใช้งานและตอบโจทย์ทั้งในเรื่องของประสบการณ์การใช้บริการของลูกค้า มียอดขายเพิ่มขึ้น และสร้าง Brand Royalty ได้เป็นอย่างดี มีตัวอย่างดังนี้
- Netflix แบรนด์ Streaming เจ้าใหญ่ของโลก มีการนำเอา Data Driven Marketing เข้ามาใช้งานเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละคน เช่น การแนะนำภาพยนตร์ที่มีแนวโน้มว่าผู้ชมจะให้ความสนใจมากกว่า เป็นต้น
- Spotify เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์ม Music Streaming ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก โดยมีการนำเอา Data Driven Marketing มาเป็นตัวช่วยในการสร้างเพลย์ลิสต์ แนะนำเพลงหรือสิ่งที่น่าสนใจให้เหมาะกับผู้ชมแต่ละคนโดยData Driven หรือข้อมูลเป็นตัวขับเคลื่อนและพัฒนา
- MC Donald’s ร้านอาหารแฟรนไชส์ระดับโลกที่มีการนำเอาข้อมูลด้านที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศและการจราจรในพื้นที่นั้น ๆ มาปรับใช้ให้เหมาะกับกลุ่มลูกค้าของตัวเอง เช่น หากเป็นวันที่มีสภาพอากาศร้อนเมนูแนะนำก็จะเป็นไอศกรีม เป็นต้น
องค์กรที่ใช้ Data Driven Marketing มีโอกาสประสบความสำเร็จสูงกว่าจริงไหม ?
การที่แบรนด์จะประสบความสำเร็จได้นั้น มีหลายปัจจัยและองค์ประกอบที่รวมกัน แต่แน่นอนว่าสำหรับองค์กรที่นำเอา Data Driven Marketing ไปใช้ ก็จะมีโอกาสในการประสบความสำเร็จที่สูงมากกว่าการทำการตลาดแบบไม่ใช้ข้อมูล หรือการตลาดแบบเดาสุ่ม เพราะการที่เรามีข้อมูลอยู่ในมือทำให้เรารับรู้ได้ว่าธุรกิจและสินค้าของเราควรจะมุ่งเน้นไปที่ทิศทางไหน มีข้อมูลเชิงลึกทั้งด้านตลาดและด้านพฤติกรรมการซื้อของลูกค้า ทำให้เราสามารถถอดแผนกกลยุทธ์ที่เฉียบขาดและเหมาะสมกับสินค้า ช่วงเวลา และกลุ่มเป้าหมายของเราได้ผ่านข้อมูลตรงนี้ จึงเป็นเรื่องจริงที่แบรนด์ธุรกิจที่นำเอา Data Driven Marketing มาใช้นั้น มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จสูงกว่าแบรนด์ที่เน้นการคาดเดา ไม่มีแผนที่รัดกุม ไม่รู้จักตลาดและลูกค้าอย่างแน่นอน
สรุปเกี่ยวกับ Data Driven
จะเห็นได้ว่า การทำการตลาดโดยใช้ Data Driven มีข้อดีที่ช่วยให้แบรนด์ไม่ต้องเดาสุ่ม สามารถคาดคะเนได้จากข้อมูลจริงที่มาจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เพื่อให้แบรนด์สามารถพัฒนาสินค้าและบริการออกมาให้ตอบโจทย์กับความต้องการของกลุ่มลูกค้าได้มากที่สุดแถมยังช่วยประหยัดต้นทุนมากกว่า เพราะเราสามารถเจาะลึกและเน้นไปที่ความต้องการด้านใดด้านหนึ่งได้ด้วยพลังของข้อมูล ซึ่งนั่นก็คือพลังของ Data Driven Marketing ที่จะเข้ามาช่วยขับเคลื่อนให้การตลาดของแบรนด์มีคุณภาพและทรงพลังมากขึ้นไปอีกขั้นด้วยนั่นเอง
FAQ เกี่ยวกับกลยุทธ์การตลาด Data Driven Marketing
ข้อมูลที่แบรนด์นำมาใช้ทำ Data Driven Marketing ได้มาจากไหน
แหล่งข้อมูลที่แบรนด์ธุรกิจสามารถเก็บเพื่อนำมาใช้ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่
- 1st Party เป็นข้อมูลที่แบรนด์เป็นผู้เก็บรวบรวมมาเอง เป็นเจ้าของข้อมูลนั้นจากกลุ่มลูกค้า หรือกลุ่มผู้ที่ให้ความยินยอมในการเก็บข้อมูลกับแบรนด์โดยตรง เช่น แบบสอบถาม แบบสำรวจความคิดเห็น เป็นต้น
- 2st Party เป็นข้อมูลที่ได้มาจากการแลกเปลี่ยน หรือการเป็น Partnership กับแบรนด์ที่เป็นเจ้าของข้อมูล 1st Party เพื่อประโยชน์ในการร่วมธุรกิจ
- 3st Party คือข้อมูลที่ได้มาจากภายนอกจากการซื้อข้อมูลจากผู้รวบรวมข้อมูล เป็นต้น
ข้อมูลที่ใช้ในการทำ Data Driven มีอะไรบ้าง
สำหรับแบรนด์ที่อยากทำ Data Driven ควรจะได้ข้อมูลเบื้องต้นด้านต่าง ๆ ของลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้สามารถวางแผนพัฒนาแผนกลยุทธ์การตลาดในอนาคตได้อย่างเหมาะสม ดังนี้
- ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าเพื่อให้จำแนกกลุ่มของข้อมูลได้
- ข้อมูลพฤติกรรมการซื้อ การตัดสินใจจากตัวแปรต่าง ๆ เช่น โปรโมชัน ความจำเป็นเร่งด่วน ฯลฯ
- ข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์และแอปพลิเคชันของกลุ่มเป้าหมาย
- ข้อมูลอื่น ๆ จากโซเชียลมีเดีย หรือโอกาสการเข้าถึงสินค้าผ่านสื่อโซเชียล
- ข้อมูลจากการสำรวจความคิดเห็น เพื่อนำไปปรับปรุงสินค้าและบริการต่อไป
การตลาดแบบ Data Driven ช่วยเพิ่มภาพลักษณ์ให้แบรนด์อย่างไร
นอกจากกลยุทธ์การตลาดแบบ Data Driven จะช่วยเพิ่มยอดขาย เพิ่มการเข้าถึงและสร้างโอกาสให้กับแบรนด์แล้ว การตลาดแบบ Data Driven Marketing ยังมีส่วนในการช่วยสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่มีความใส่ใจผู้บริโภค เข้าใจลูกค้าอย่างแท้จริง เพราะปัจจุบันนี้ลูกค้ามักมองหาประสบการณ์ที่มีความพิเศษจากแบรนด์มากกว่าแค่การซื้อของทั่ว ๆ ไป หากแบรนด์สามารถรู้ความต้องการและตอบสนองได้ถูกจุด ก็จะทำให้แบรนด์ของเรามีโอกาสที่จะได้รับความนิยม หรือเป็นตัวเลือกที่เหนือกว่าคู่แข่ง ทำให้ลูกค้าเลือกที่จะบอกต่อหรือแนะนำแบรนด์ของเราต่อไป ช่วยสร้าง Brand Royalty ได้ในระยะยาวด้วย
รันธุรกิจของคุณให้เดินหน้าอย่างไร้ขีดจำกัด Digimusketeers เรามีบริการวางแผนกลยุทธ์และสื่อสารการตลาด (Strategic & Media Planning & Brand Communication) วางแผนลำดับขั้นตอนให้คุณเห็นภาพรวมของธุรกิจเพื่อไปถึงเป้าหมาย พร้อมวัดผลได้ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายแบรนด์ที่แท้จริงที่จะกลายเป็นลูกค้า นำไปสู่ยอดขายตามเป้าที่กำหนดไว้ โดยทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์มาช่วยวางกลยุทธ์และสื่อสารแบรนด์ให้มีประสิทธิภาพ เพิ่มยอดขายให้ธุรกิจด้วยกลยุทธ์ออนไลน์ ติดต่อ 02-047-0088 หรือ แอดไลน์เพื่อปรึกษาเราฟรี
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องกับ กลยุทธ์การตลาด