กลยุทธ์ data driven

ทำความรู้จักการใช้ Data Driven เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกลยุทธ์การตลาด

Digimusketeers, 19 December 2024

ชวนมาทำความรู้จักการตลาดแบบใหม่ที่ทำให้แบรนด์สามารถรู้ลึก รู้จริง รู้ถึง Insight กลุ่มเป้าหมายได้อย่างชัดเจน ด้วยกลยุทธ์การตลาดแบบ Data Driven เป็นรูปแบบการตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเป็นการใช้ข้อมูลที่มีค่ามาพัฒนาการนำเสนอสินค้าและบริการเพื่อเอาชนะใจลูกค้า และเพื่อการค้าที่เหนือกว่าคู่แข่ง จะเป็นอย่างไรและมีอะไรบ้าง มาดูไปพร้อมกันเลย

Data Driven Marketing คืออะไร 

Data Driven Marketing เป็นรูปแบบหนึ่งของการตลาด โดยเป็นการตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้า (Customer data) ทั้งในด้านพฤติกรรมการซื้อสินค้าและสถิติ แนวโน้มความสนใจในด้านต่าง ๆ เพื่อนำข้อมูลเหล่านี้่มาพัฒนาแผนกลยุทธ์การตลาดให้สอดคล้องและตอบรับกับความต้องการของผู้บริโภคมากที่สุด 

ความสำคัญของกลยุทธ์ Data Driven

กลยุทธ์การขับเคลื่อนด้วยการตลาดข้อมูล Data Driven มีความสำคัญสำหรับธุรกิจหรือองค์กรมาก ๆ ในปัจจุบัน โดยสถิติจาก Marketing Evolution ได้พบว่าปัจจุบันมีองค์กรระดับโลกกว่า 40% ที่นำเอา Data Driven มาใช้ และ มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นต่อไปในอนาคต เพราะการทำการตลาดผ่านข้อมูลที่เก็บและวิเคราะห์มาจากกลุ่มผู้บริโภค ทำให้เรามองเห็นเป้าหมายและทิศทางที่จะพัฒนาหรือดำเนินการต่อได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น รวมทั้งการนำเอา Data Driven มาใช้ในกลยุทธ์การตลาด จะช่วยให้ธุรกิจไม่ต้อง “คาดเดา” หรือ “ประมาณการณ์” โดยสัญชาตญาณ หรือการคาดเดาแนวโน้มจากตัวแปรต่าง ๆ แต่ช่วยให้ธุรกิจสามารถรับรู้ และเข้าใจความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้แบบแน่นอนมากยิ่งขึ้น

ข้อได้เปรียบของการทำ Data Driven Marketing 

  • สามารถเข้าถึง เข้าใจกลุ่มลูกค้า และถือไพ่เหนือกว่าคู่แข่ง
  • ลดต้นทุน
  • เพิ่มประสิทธิภาพของกลยุทธ์ทางการตลาด
  • เพิ่มผลตอบแทน กระตุ้นยอดขาย 

data driven marketing

แนวทางในการทำกลยุทธ์การตลาด Data Driven Marketing

สำหรับแบรนด์ที่อยากนำเอากลยุทธ์การตลาดข้อมูลอย่าง  Data Driven เข้ามาเป็นกลยุทธ์สำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจและการให้บริการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ก็สามารถนำเอาแนวทางในการทำกลยุทธ์ Data Driven Marketing นี้ ไปปรับใช้ตามความเหมาะสมกันได้เลย

1. กำหนดเป้าหมายของธุรกิจ

ขั้นตอนแรกคือการรู้เป้าหมายของกลยุทธ์ที่เราต้องการจะทำ รวมทั้งกำหนดวัตถุประสงค์การนำข้อมูลเหล่านั้นไปใช้งาน เพื่อที่จะได้รู้ว่าเราต้องการข้อมูลด้านใดบ้าง และจะนำไปใช้งานให้เกิดประสิทธิภาพและตอบโจทย์ความต้องการมากที่สุดได้อย่างไร 

เช่น อยากมียอดขายเพิ่มมากขึ้น 30% ข้อมูลที่ต้องควรรู้และเก็บมาคือ พฤติกรรมการซื้อสินค้าของลูกค้าเป็นอย่างไร หรือตัวแปรในการตัดสินใจซื้อสินค้ามีอะไรบ้าง โดยทำการสอบถามผ่านแบบสอบถาม หรือวิจัยทางการตลาด เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการนำไปพัฒนาแผนกลยุทธ์การตลาดของเราต่อไป

2. เก็บรวบรวมข้อมูลอย่างเป็นระบบ

การเก็บรวบรวมข้อมูลและจำแนกส่วนประกอบต่าง ๆ ออกอย่างเป็นระบบจะช่วยให้เรานำเอาข้อมูลเหล่านั้นออกมาใช้ได้ง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น แต่การจัดการกับข้อมูลจำนวนมากทำให้เราต้องใช้เครื่องมือเข้ามาช่วยเหลือ โดยแบรนด์สามารถเลือกใช้เครื่องมือในการช่วยจัดเก็บและจำแนกข้อมูลได้ตามความเหมาะสม หรือสามารถใช้โปรแกรมเบื้องต้นอย่าง Microsoft Excel หรือ Google Sheet ที่มีความสามารถในการช่วยจัดและแบ่งข้อมูลได้อย่างง่ายดายและมีประสิทธิภาพ เหมาะกับธุรกิจขนาดไม่ใหญ่มาก หรือผู้ที่เริ่มต้นทำ Data Driven Marketing ไปจนถึงการใช้ CRM หรือ 

3. วิจัยตลาด

เป็นการศึกษาหาข้อมูลของลูกค้าในตลาดที่เราจะเอาสินค้าและบริการของตัวเองลงไปเล่นและแข่งขัน เพื่อให้เรามองเห็น Position และกำหนดทิศทางแบรนด์ในตลาดตอนนี้ และสามารถนำเอาไปปรับปรุงแผนการตลาดต่อไปในอนาคตได้  

4. วิจัยพฤติกรรมลูกค้า

นอกจากการวิเคราะห์วิจัยตลาดที่เราจะเอาสินค้าและบริการลงไปวางขายหรือแข่งขันแล้ว พฤติกรรมการตัดสินใจของลูกค้า สิ่งเร้า ตัวแปรต่าง ๆ ที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการของผู้บริโภคก็เป็นสิ่งสำคัญที่แบรนด์จะต้องรับรู้ เพื่อเตรียมรับมือและหาแผนการตลาดที่ตอบโจทย์และคุ้มค่ามากที่สุด

5. นำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์

เป็นขั้นตอนสำคัญที่สุดของการทำกลยุทธ์การตลาดแบบ Data Driven Marketing เพราะว่าหลังจากที่เราได้ข้อมูลมาแล้ว ทำการจำแนกแบ่งประเภทต่าง ๆ ของข้อมูลเสร็จสรรพ เราจะต้องนำเอาข้อมูลเหล่านั้นมาทำการวิเคราะห์เพื่อหาคำตอบแบบ Insight ซึ่งจะเป็นข้อสรุปของคำถามต่าง ๆ รวมทั้งเป็นการช่วยเพิ่มความคุ้มค่าในการลงทุนได้ด้วยจากการทำความเข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภค

 

ตัวอย่างการนำกลยุทธ์ Data Driven Marketing ไปใช้งานจริง

สำหรับการตลาดแบบ Data Driven Marketing เป็นกลยุทธ์ที่เรียกได้ว่ามีประสิทธิภาพ และเป็นสิ่งที่แบรนด์ใหญ่ ๆ ในปัจจุบันได้หยิบเอาไปใช้งานจริงและประสบผลสำเร็จอย่างมากมาย โดยแบรนด์ระดับโลกที่นำเอา Data Driven Marketing ไปใช้งานและตอบโจทย์ทั้งในเรื่องของประสบการณ์การใช้บริการของลูกค้า มียอดขายเพิ่มขึ้น และสร้าง Brand Royalty ได้เป็นอย่างดี มีตัวอย่างดังนี้

  • Netflix แบรนด์ Streaming เจ้าใหญ่ของโลก มีการนำเอา Data Driven Marketing เข้ามาใช้งานเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละคน เช่น การแนะนำภาพยนตร์ที่มีแนวโน้มว่าผู้ชมจะให้ความสนใจมากกว่า เป็นต้น
  • Spotify เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์ม Music Streaming ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก โดยมีการนำเอา Data Driven Marketing มาเป็นตัวช่วยในการสร้างเพลย์ลิสต์ แนะนำเพลงหรือสิ่งที่น่าสนใจให้เหมาะกับผู้ชมแต่ละคนโดยData Driven หรือข้อมูลเป็นตัวขับเคลื่อนและพัฒนา
  •  MC Donald’s ร้านอาหารแฟรนไชส์ระดับโลกที่มีการนำเอาข้อมูลด้านที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศและการจราจรในพื้นที่นั้น ๆ มาปรับใช้ให้เหมาะกับกลุ่มลูกค้าของตัวเอง เช่น หากเป็นวันที่มีสภาพอากาศร้อนเมนูแนะนำก็จะเป็นไอศกรีม เป็นต้น

องค์กรที่ใช้ Data Driven Marketing มีโอกาสประสบความสำเร็จสูงกว่าจริงไหม ?

การที่แบรนด์จะประสบความสำเร็จได้นั้น มีหลายปัจจัยและองค์ประกอบที่รวมกัน แต่แน่นอนว่าสำหรับองค์กรที่นำเอา Data Driven Marketing ไปใช้ ก็จะมีโอกาสในการประสบความสำเร็จที่สูงมากกว่าการทำการตลาดแบบไม่ใช้ข้อมูล หรือการตลาดแบบเดาสุ่ม เพราะการที่เรามีข้อมูลอยู่ในมือทำให้เรารับรู้ได้ว่าธุรกิจและสินค้าของเราควรจะมุ่งเน้นไปที่ทิศทางไหน มีข้อมูลเชิงลึกทั้งด้านตลาดและด้านพฤติกรรมการซื้อของลูกค้า ทำให้เราสามารถถอดแผนกกลยุทธ์ที่เฉียบขาดและเหมาะสมกับสินค้า ช่วงเวลา และกลุ่มเป้าหมายของเราได้ผ่านข้อมูลตรงนี้ จึงเป็นเรื่องจริงที่แบรนด์ธุรกิจที่นำเอา Data Driven Marketing มาใช้นั้น มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จสูงกว่าแบรนด์ที่เน้นการคาดเดา ไม่มีแผนที่รัดกุม ไม่รู้จักตลาดและลูกค้าอย่างแน่นอน

สรุปเกี่ยวกับ Data Driven

จะเห็นได้ว่า การทำการตลาดโดยใช้ Data Driven มีข้อดีที่ช่วยให้แบรนด์ไม่ต้องเดาสุ่ม สามารถคาดคะเนได้จากข้อมูลจริงที่มาจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เพื่อให้แบรนด์สามารถพัฒนาสินค้าและบริการออกมาให้ตอบโจทย์กับความต้องการของกลุ่มลูกค้าได้มากที่สุดแถมยังช่วยประหยัดต้นทุนมากกว่า เพราะเราสามารถเจาะลึกและเน้นไปที่ความต้องการด้านใดด้านหนึ่งได้ด้วยพลังของข้อมูล ซึ่งนั่นก็คือพลังของ Data Driven Marketing ที่จะเข้ามาช่วยขับเคลื่อนให้การตลาดของแบรนด์มีคุณภาพและทรงพลังมากขึ้นไปอีกขั้นด้วยนั่นเอง

กลยุทธ์ data driven

 

FAQ เกี่ยวกับกลยุทธ์การตลาด Data Driven Marketing

 

ข้อมูลที่แบรนด์นำมาใช้ทำ Data Driven Marketing ได้มาจากไหน

แหล่งข้อมูลที่แบรนด์ธุรกิจสามารถเก็บเพื่อนำมาใช้ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่

  • 1st Party เป็นข้อมูลที่แบรนด์เป็นผู้เก็บรวบรวมมาเอง เป็นเจ้าของข้อมูลนั้นจากกลุ่มลูกค้า หรือกลุ่มผู้ที่ให้ความยินยอมในการเก็บข้อมูลกับแบรนด์โดยตรง เช่น แบบสอบถาม แบบสำรวจความคิดเห็น เป็นต้น
  • 2st Party เป็นข้อมูลที่ได้มาจากการแลกเปลี่ยน หรือการเป็น Partnership กับแบรนด์ที่เป็นเจ้าของข้อมูล 1st Party เพื่อประโยชน์ในการร่วมธุรกิจ
  • 3st Party คือข้อมูลที่ได้มาจากภายนอกจากการซื้อข้อมูลจากผู้รวบรวมข้อมูล เป็นต้น

ข้อมูลที่ใช้ในการทำ Data Driven มีอะไรบ้าง

สำหรับแบรนด์ที่อยากทำ Data Driven ควรจะได้ข้อมูลเบื้องต้นด้านต่าง ๆ ของลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้สามารถวางแผนพัฒนาแผนกลยุทธ์การตลาดในอนาคตได้อย่างเหมาะสม ดังนี้

  • ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าเพื่อให้จำแนกกลุ่มของข้อมูลได้
  • ข้อมูลพฤติกรรมการซื้อ การตัดสินใจจากตัวแปรต่าง ๆ เช่น โปรโมชัน ความจำเป็นเร่งด่วน ฯลฯ
  • ข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์และแอปพลิเคชันของกลุ่มเป้าหมาย
  • ข้อมูลอื่น ๆ จากโซเชียลมีเดีย หรือโอกาสการเข้าถึงสินค้าผ่านสื่อโซเชียล
  • ข้อมูลจากการสำรวจความคิดเห็น เพื่อนำไปปรับปรุงสินค้าและบริการต่อไป

การตลาดแบบ Data Driven ช่วยเพิ่มภาพลักษณ์ให้แบรนด์อย่างไร

นอกจากกลยุทธ์การตลาดแบบ Data Driven จะช่วยเพิ่มยอดขาย เพิ่มการเข้าถึงและสร้างโอกาสให้กับแบรนด์แล้ว การตลาดแบบ Data Driven Marketing ยังมีส่วนในการช่วยสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่มีความใส่ใจผู้บริโภค เข้าใจลูกค้าอย่างแท้จริง เพราะปัจจุบันนี้ลูกค้ามักมองหาประสบการณ์ที่มีความพิเศษจากแบรนด์มากกว่าแค่การซื้อของทั่ว ๆ ไป หากแบรนด์สามารถรู้ความต้องการและตอบสนองได้ถูกจุด ก็จะทำให้แบรนด์ของเรามีโอกาสที่จะได้รับความนิยม หรือเป็นตัวเลือกที่เหนือกว่าคู่แข่ง ทำให้ลูกค้าเลือกที่จะบอกต่อหรือแนะนำแบรนด์ของเราต่อไป ช่วยสร้าง Brand Royalty ได้ในระยะยาวด้วย

รันธุรกิจของคุณให้เดินหน้าอย่างไร้ขีดจำกัด Digimusketeers เรามีบริการวางแผนกลยุทธ์และสื่อสารการตลาด (Strategic & Media Planning & Brand Communication) วางแผนลำดับขั้นตอนให้คุณเห็นภาพรวมของธุรกิจเพื่อไปถึงเป้าหมาย พร้อมวัดผลได้ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายแบรนด์ที่แท้จริงที่จะกลายเป็นลูกค้า นำไปสู่ยอดขายตามเป้าที่กำหนดไว้ โดยทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์มาช่วยวางกลยุทธ์และสื่อสารแบรนด์ให้มีประสิทธิภาพ เพิ่มยอดขายให้ธุรกิจด้วยกลยุทธ์ออนไลน์ ติดต่อ 02-047-0088 หรือ แอดไลน์เพื่อปรึกษาเราฟรี

อ่านบทความที่เกี่ยวข้องกับ กลยุทธ์การตลาด 

คุณกำลังต้องการเพิ่มยอดขายออนไลน์ให้ธุรกิจของคุณอยู่หรือไม่

ปรึกษาฟรี!

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้ของเรา

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับ
Manage Consent Preferences บันทึก