ว่ากันว่า ร้านอาหารร้านไหนที่ขายเมนูเดียว เมนูนั้นต้องอร่อยสุดๆ เหมือนกับ “โกโก้ร้านไอ้ต้น” ร้านขายโกโก้ที่เป็นกระแสในโลกออนไลน์ ที่ทั้งร้านมีเมนูเดียว นั่นคือ โกโก้ ที่มีให้เลือกความเข้มข้น 4 ระดับ และราคา 45 บาทเท่ากันทุกแก้ว
จุดเริ่มต้นของ “โกโก้ร้านไอ้ต้น” แน่นอนว่าต้องมาจาก คุณต้น เจ้าของแบรนด์ที่ใช้ภาพตัวเองเป็นโลโก้ร้าน เดิมทีคุณต้นเป็นนักดนตรีที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ว่างงานกระทันหัน จึงผันตัวมาขายกาแฟริมทางรถไฟตลาดพลู ร้าน ชาน-ชา-ลา ซึ่งในเวลานั้นโกโก้เป็นเมนูขายดีของร้าน ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ จึงเป็นที่มาของร้านโกโก้ไอ้ต้น
ที่มาของโลโก้ร้าน โกโก้ร้านไอ้ต้น
ทางร้านได้แรงบันดาลใจจากวง ไปส่งกู บขส.ดู๊ ที่ใช้ตัวเองมาสกรีนเสื้อและขาย แล้วก็บังเอิญเจอภาพตัวเองตอนเด็กเมื่อ 15 ปีที่แล้วเลยนำมาใช้เป็นโลโก้ร้าน บวกกับการเลือกใช้สีเหลือง-สีดำ ยิ่งทำให้โลโก้โดดเด่น และจำง่าย นอกจากนี้ การตกแต่งในร้านก็ยังคุมโทนเหลือง-ดำอีกด้วย
ยอดขายต่อวันของทางร้าน
ในช่วง 5-6 เดือนแรกที่เริ่มกิจการ ยอดขายเฉลี่ย 400 แก้วต่อวัน ราคาแก้วละ 25 บาท มีความเข้มข้น 3 ระดับ คือ ละอ่อน, เข้ม, โคตรเข้ม และโคตรหวาน โดยส่วนมากรสชาติโกโก้จะติดขมนิดหน่อย ไม่หวานมาก จึงตอบโจทย์คนดูแลสุขภาพในยุคนี้
กลยุทธ์การตลาดแบบปากต่อปาก
หนึ่งความสำเร็จของร้านคือ การบอกต่อแบบปากต่อปาก (Word of Mouth) ที่มาจากลูกค้าเดิม บอกต่อหรือทำคอนเทนต์แล้วแชร์ลงใน Social Media ทำให้อีกหลายคนตามมากิน โดยที่ทางร้านไม่ได้ยิงแอด หรือจ้างโฆษณาใดๆ
สำหรับธุรกิจอาหาร การจะทำให้ลูกค้าบอกปากต่อปากนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ปัจจัยแรกอยู่ที่ “รสชาติ” ที่ต้องอร่อยจนคนอยากบอกต่อ ส่วนปัจจัยต่อมาคือ “บริการ” ในกรณีของโกโก้ร้านไอ้ต้น หากทำได้ทั้ง 2 ส่วน ลูกค้าจะบอกต่อกับเพื่อนหรือโลกโซเชียล เพื่อการันตีว่าสินค้าดีจริง
ใช้ความสนุกปั้นคอนเทนต์ให้ปัง
แนวทางการทำคอนเทนต์ของเพจโกโก้ร้านไอ้ต้นก็ไม่เหมือนใคร โดยพื้นฐานคนไทยเป็นคนตลก แม้ในสถานการณ์ย่ำแย่ คนไทยก็ยังตลกได้ การที่ร้านโกโก้ไอ้ต้นชูความกวนและความตลก แค่ลูกค้าอ่านเมนูก็ขำได้แล้ว เมื่อเจอลูกค้าอารมณ์ดี ยิ่งถูกใจเข้าไปใหญ่
ซึ่งความตลกที่ว่านี้ เป็นการขับเคลื่อนการตลาดแบบ Word of Mouth ได้ไว เพราะเมื่อไรที่คนตลก สนุกสนาน หรือมีอารมณ์ร่วม ย่อมทำให้เกิดการบอกต่ออย่างง่ายดาย
ขยายสาขาครบทุกจังหวัดภายใน 1 ปี
เมื่อกระแสร้านมาดีขนาดนี้ จึงมีคนติดต่อขอแฟรนไชส์เข้ามาจากทั่วประเทศ โดยแฟรนไชส์โกโก้ไอ้ต้นจะไม่มีการเก็บค่าใช้จ่ายรายเดือน หรือกำไรจากวัตถุดิบต่อเดือน ผู้ซื้อแฟรนไชส์ (Franchise) ไปสามารถซื้อวัตถุดิบได้เอง โดยไม่ต้องซื้อผ่านทางร้าน ขอแค่ยังคงคอนเซปต์ของร้านไว้ โดยค่าแฟรนไชส์เริ่มต้น 55,900 บาท จะได้อุปกรณ์แต่งร้าน โกโก้ ฝา หลอด แก้ว และนม สำหรับขาย 500 แก้ว หากขายหมดจะคิดเป็นเงิน 22,000 บาท ส่วนใหญ่จะคืนทุนภายใน 10 วัน
ทั้งนี้ หากมองในมุมธุรกิจ โกโก้ร้านไอ้ต้น เป็นหนึ่งในธุรกิจแฟรนไชส์ที่ใช้เงินลงทุนไม่เยอะ เริ่มต้นง่าย ลงทุนน้อย แถมยังคืนทุนเร็ว ถือเป็นการสร้างโอกาสให้ทุกคนเป็นเจ้าของธุรกิจได้ง่าย
โกโก้ร้านไอ้ต้น จับมือพันธมิตรทางธุรกิจ
ล่าสุดใครก็หยุดความฮอตของ โกโก้ร้านไอ้ต้น ไม่ได้ เพราะไป Collaboration (ร่วมมือ) กับแบรนด์ดัง อย่าง โปเตโต้คอร์เนอร์ ขายโกโก้สุดเข้ม ที่ร้านโปเตโต้คอร์เนอร์ 19 สาขา หรือร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทย ยิ่งทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น
อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ทำให้ โกโก้ร้านไอ้ต้นเติบโตอย่างก้าวกระโดดคือ การเป็นพันธมิตรกับบริษัทอื่น แม้จะเป็นอาหารคนละประเภทกัน แต่เมื่อมาจับมือกันแล้ว ก็ช่วยเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจได้มาก แถมยังได้ขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่ๆ อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม แม้ธุรกิจอาหารจะสะดุดในช่วงโควิด แต่ความต้องการของผู้บริโภคก็ไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด โกโกร้านไอ้ต้นสามารถพลิกสถานการณ์ ให้เป็นผลดีต่อธุรกิจได้ พร้อมปรับเปลี่ยน และพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภค และยืนระยะในธุรกิจนี้ให้ยืนยาว
ข้อมูลจาก
https://www.facebook.com/cocoaiton
https://www.youtube.com/watch?v=I660ZiGc1vI
https://adaddictth.com/knowledge/Word-of-Mouth-Marketing
