Der Wiener Deewan ร้านอาหารที่กินได้ทุกอย่างและจ่ายเท่าไหร่ก็ได้

หลายคนคงเคยไปทานร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ก็คิดว่าคุ้มแล้วใช่ไหม ถ้าเทียบกับปริมาณอาหารที่ตัวเองได้ทานเข้าไป แต่ผู้เขียนเชื่อว่าหลายคนน่าจะยังไม่รู้จักร้านอาหารที่มีแนวคิดล้ำไปอีก แถมยังเรียกได้ว่าคุ้มของโครตจะคุ้มเลยล่ะ ไปทำความรู้จักร้านนี้กันว่าชื่ออะไร อยู่ที่ไหน แล้วแนวคิดที่ว่านี้มันล้ำและแตกต่างจากร้านอาหารทั่วไปอย่างไรตามไปดูคำตอบกันต่อเลย

ร้านอาหาร Der Wiener Deewan กับแนวคิดสุดฉีก 

ร้านอาหารนี้มีชื่อว่า ‘Der Wiener Deewan’ หรือร้านแดร์ วีเนอร์ ดีวัน ร้านอาหารแห่งเดียวและแห่งแรกที่ตั้งอยู่ที่กรุงเวียนนา เมืองหลวงของประเทศออสเตรียที่มีแนวคิดนี้ “ALL YOU CAN EAT, PAY AS YOU WISH” แปลเป็นภาษาไทยก็คือกินเท่าที่อยากกิน แล้วจ่ายเท่าที่อยากจ่าย ร้านนี้เลยได้ขึ้นชื่อว่ามีแนวคิดต่างจากร้านอื่นนั่นเอง ซึ่งเป็นร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ปากีสถาน Der Wiener Deewan เป็นร้านยอดฮิตและเป็นที่ชื่นชอบมาก ๆ แห่งหนึ่งในกรุงเวียนนา

ร้าน Der Wiener Deewan เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2005 เป็นเวลา 17 ปีมาแล้ว ตั้งอยู่ไม่ไกล้ไม่ไกลจากโบสถ์ Votivkirche และเขตมหาวิทยาลัย เป็นร้านอาหารเล็ก ๆ รายล้อมไปด้วยตึกเก่าแก่และต้นไม้นานาพันธุ์ บรรยากาศดีมาก ๆ หน้าทางเข้ามีม้านั่งเล็ก ๆ ตั้งอยู่ เจ้าของร้านคืออัฟซาล ดีวัน ชาวปากีสถาน อายุ 58 ปี และนาตาลี ที่ปัจจุบันคือภรรยาของเขา

จุดเริ่มต้นของการก่อตั้งร้าน Der Winer Deewan

ในตอนนั้นอัฟซาล อายุ 40 ปี เข้ามายังออสเตรียในฐานะผู้ลี้ภัยปากีสถาน ได้มาลงหลักปักฐานอยู่ที่กรุงเวียนนา เขาเล่าว่าเคยเข้าไปทานร้านอาหารเอเชียหลายแห่ง ซึ่งมีราคาที่แพงมาก ทำให้เขาต้องประหยัดเงินและทำอาหารทานเองที่บ้านอยู่ตลอด จนกระทั่งวันหนึ่งเจ้าหน้าที่องค์กร NGO แห่งหนึ่งที่มีออฟฟิศอยู่ในตึกเดียวกันกับที่อัฟซาลพักอาศัยอยู่ มาถามเขาว่าทำอาหารปากีสถานเป็นไหม หน่วยงานของเขากำลังจะจัดงานเลี้ยง เขาได้ตอบตกลงรับงานนี้ และผลปรากฎว่าทุกคนชื่นชอบอาหารฝีมือของเขามาก เลยทำให้อัฟซาลเกิดไอเดียอยากหารายได้จากความสามารถของเขา 

แต่ด้วยที่เขามาอยู่ที่นี่ในฐานะผู้ลี้ภัยมันจึงเป็นเรื่องยากมาก ๆ และการเปิดร้านอาหารที่นี่ก็ต้องใช้ทุนที่เยอะพอสมควรด้วย และเขาก็ได้มารู้จักกับนาตาลี ภรรยาของเขาในปัจจุบัน ซึ่งในตอนนั้นนาตาลีกำลังเรียนภาษาและศึกษาเรื่องปรัชญาและศึกษาปริญญาโทด้านวรรณกรรมเชิงทดลอง ไอเดียในการเปิดร้านอาหาร Der Wiener Deewan จึงมีแนวโน้มที่เป็นไปได้มากขึ้น เพราะได้นาตาลีมาเป็นหุ้นส่วนในการบริหารจัดการร้าน เพราะการจัดตั้งบริษัทร่วมกับพันธมิตรชาวออสเตรียคือทางออกเดียวสำหรับผู้ขอลี้ภัยในการทำงานอย่างถูกกฎหมาย เมื่อได้นาตาลีมาเป็นหุ้นส่วนร่วมด้วยทั้งคู่ก็เริ่มเปิดร้าน Der Wiener Deewan ขึ้นมาสำเร็จนั่นเอง

คอนเซปต์ร้านและความเป็นกันเองที่ซื้อใจลูกค้าได้

ด้วยคอนเซปต์ ‘กินให้อิ่ม จ่ายเท่าที่อยาก’ ของร้าน Der Wiener Deewan ก็เหมือนกับเป็นตัวช่วยตัดสินว่าลูกค้าบอกว่าคุณภาพและรสชาติของอาหารนั้นคุ้มค่ากับราคาเท่าไหร่ไปในตัว ซึ่งผลที่ได้กลับดีเกินที่เขาคาดคิดไว้ และยังบอกอีกว่า “ลูกค้าที่มาใช้บริการร้านเราซื่อสัตย์มาก จึงทำให้ธุรกิจเราอยู่รอดมาได้ถึง 17 ปี” และยังมีหลากหลายกลุ่มทั้งนักเรียน นักศึกษา นักการเมือง ข้าราชการระดับรัฐมนตรี รวมไปถึงกลุ่มผู้อพยพด้วย

โดยเขาได้แบ่งกลุ่มลูกค้าออกเป็น 2 ประเภทคือ ประเภทแรกคือลูกค้าที่อยากช่วยเหลือคนอื่น เมื่อทานอาหารเสร็จจะจ่ายค่าอาหารในราคาที่สูง หรือก็คือจ่ายแพงกว่าที่ทาน ส่วนลูกค้าประเภทที่สองคือกลุ่มที่มีรายได้น้อย รวมไปถึงเด็กนักเรียน นักศึกษาหลายคนที่มาใช้บริการที่ร้านในยามที่พวกเขาขัดสน 

ช่วงก่อนที่จะมีสถานการณ์โควิดระบาด ทางร้าน Der Wiener Deewan จะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการอยู่ที่ 500-600 คนต่อวัน ถือว่าเยอะมากเลยทีเดียว แต่พอเจอโควิดทำให้ลูกค้าลดลงเหลือ 250 คนต่อวัน ในบางวันก็มีลูกค้าเข้ามาทานอาหารแล้วบอกว่าไม่มีเงินจ่าย ทางร้านก็ใจดียอมให้ทานฟรี เพราะคิดว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ลำบาก อะไรที่ช่วยได้ก็ช่วยเหลือกันไป เหมือนเป็นการช่วยเหลือสังคมไปในตัว เจ้าของร้านมีทัศนคติที่ดีมากจริง ๆ 

อัฟซาลได้ขยายร้านเพิ่มอีก 2 สาขาในเขต 2 และเขต 12 ของเวียนนา เท่ากับว่าตอนนี้ร้านมี 3 สาขาแล้ว รวมสาขาแรกคือที่เขต 9 โดยที่เขายังคงคอนเซปต์เดิมของร้านไว้ พร้อมกับบอกว่าเป้าหมายหลักของร้านไม่ได้อยู่ที่ทำเงิน แต่คือการแนะนำอาหารปากีสถานให้คนได้รู้จักกว้างขวางขึ้น เขาบอกว่าตอนที่เขาอพยพมาที่นี่ใหม่ ๆ ไม่มีใครรู้จักอาหารปากีสถานเลยด้วยซ้ำ เพราะแนวคิดกินเท่าที่อยาก จ่ายเท่าที่ไหว ทำให้ร้านเหมือนได้ช่วยเหลือผู้ยากลำบากไปด้วย ช่วยทั้งลูกค้าที่มีกำลังจ่ายน้อยและช่วยผู้อพยพให้มีงานทำ มีพนักงานคนหนึ่งเป็นผู้อพยพจากบังคลาเทศทำงานเป็นคนทำความสะอาดและแคชเชียร์ที่ร้านมานาน 5 ปี 

ใครอยู่ออสเตรีย สามารถแวะไปอุดหนุนที่ร้านได้ทั้ง 3 เขตเลย สาขาแรกในเขต 9 รองรับลูกค้าได้ 75 คน เป็นอาหารปรุงสดใหม่ทุกวัน มีให้เลือกหลากหลาย ตักได้ไม่อั้น แต่บริการไม่รวมเครื่องดื่มแอลกอฮฮล์และน้ำผลไม้นะ เครื่องดื่มทางร้านจะคิดราคาตามป้ายที่แจ้งในเมนู ร้านปิดเวลา 4 ทุ่ม ถ้ามีอาหารเหลือจะมีอาสาสมัครจากองค์กรที่ดูแลผู้อพยพนำภาชนะมารับอาหารที่เหลือจากในครัวของร้านอีกด้วย

อ้างอิง : cooperativecity.org