ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า 8 ใน 10 ของผู้หญิงที่เจอในแต่ละวัน ใช้ถุงผ้า GENTLEWOMAN
เวลานี้ไม่มีใครไม่รู้จักกระเป๋าผ้าแคนวาสสุดฮิตจาก GENTLEWOMAN แบรนด์เสื้อผ้าสำหรับผู้หญิงสัญชาติไทยแท้ ที่ก่อตั้งมากว่า 4 ปี และสาขากว่า 15 แห่ง
จุดเริ่มต้นของ GENTLEWOMAN มาจากการทำร้านมัลติแบรนด์ CAMP ที่ทำให้เจ้าของร้านคลุกคลีอยู่กับธุรกิจ Fast Fashion มองเห็นจุดแข็งจุดอ่อนของแต่ละแบรนด์ รู้ว่าตลาดยังขาดส่วนไหน แล้วค่อยๆ ขยับขยายมาสู่การสร้างแบรนด์เสื้อผ้าผู้หญิง และกระเป๋าผ้าในตำนานอย่าง GW Canvas Tote bag ที่ไม่ว่าจะไปที่ไหน อย่างน้อยใน 1 วันเราต้องเห็นสาวๆ ใช้กระเป๋าผ้าจากแบรนด์นี้ไม่ต่ำกว่า 3 คน
พาตัวเองเข้าไปอยู่ในทุกส่วนของชีวิตลูกค้า
เมื่อลูกค้าเริ่มคุ้นเคยกับการใช้สินค้าที่มีโลโก้ขนาดใหญ่ แบรนด์ก็ต่อยอดสิ่งนั้นด้วยการนำมาดีไซน์เป็นเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋าไซซ์เล็ก เคสใส่โน๊ตบุ๊ค และแก้วเก็บความเย็น
ปฏิเสธไม่ได้ว่ายุคนี้ใครๆ ก็สร้างแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้าน หรือมีทักษะการออกแบบเสื้อผ้า ความยากอยู่ที่การทำอย่างต่อเนื่อง และยืนระยะให้ยาว เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่าแบรนด์มีอะไรใหม่ๆ เสมอ และเมื่อต้องการซื้อเสื้อผ้าจะนึกถึง GENTLEWOMAN เป็นที่แรก
ด้วยแนวคิดที่ต้องการออกแบบเสื้อผ้าเพื่อคนไทยโดยเฉพาะ ทางแบรนด์จึงให้ความสำคัญกับ Behavior ของกลุ่มเป้าหมายอย่างมาก เช่น ช่วงฤดูหนาวเสื้อผ้าในห้างสรรพสินค้าหากเป็นแบรนด์เมืองนอก เสื้อผ้าจะเป็นเสื้อกันหนาวขนเป็ด ที่ใส่ในต่างประเทศได้ แต่ใส่ในไทยไม่ได้ ทว่า สำหรับเมืองไทยที่ฤดูหนาวไม่หนาวมาก คนไทยก็ยังอยากไปทะเล และใส่ชุดว่ายน้ำ ดังนั้น เสื้อผ้าของ GENTLEWOMAN จึงเข้ามาเติมเต็มช่องว่างในส่วนนี้
นอกจากนี้ GENTLEWOMAN ยังมีการคอแลปกับดีไซเนอร์ไทยรุ่นใหม่ และช่างภาพ เช่น คุณเอก พิชัย แก้ววิชิต วินมอเตอร์ไซค์ช่างภาพ ที่ชื่นชอบการถ่ายรูปด้วยกล้องฟิล์ม หลงใหลในการถ่ายศิลปะ เส้น รูปร่าง แสง เงา และมีนิทรรศการภาพถ่ายของตัวเอง ทางแบรนด์ได้นำภาพตึก ลายเส้น มาถ่ายทอดบนผืนผ้า ในคอลเลกชั่น Bangkok Rhapsody
คีย์หลักที่ทำให้ GENTLEWOMAN ประสบความสำเร็จมาจากการเป็นแบรนด์แฟชั่นที่เข้าถึงได้ง่าย เสริมสร้างความมั่นใจให้ผู้สวมใส่ได้ดี และเหมาะกับทุกโอกาส
กลยุทธ์ธุรกิจ GENTLEWOMAN
มีเอกลักษณ์และสไตล์ที่โดดเด่น
ธุรกิจเสื้อผ้าแฟชั่น ถือเป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงมาก เพราะไม่ใช่แค่การผลิตเสื้อผ้าตามกระแส แต่ยังต้องเป็นผู้นำเทรนด์หรือเป็นคนสร้างเทรนด์ขึ้นมาเอง แม้จะเป็นแฟชั่นที่ได้รับความนิยม แต่มาตรวัดความเจ๋งของแบรนด์อยู่ที่เอกลักษณ์เฉพาะตัว สำหรับ GENTLEWOMAN ที่มีคอลเลกชันใหม่ๆ แทบทุกเดือน เมื่อวิเคราะห์การจะเอาชนะคู่แข่งได้ มี 3 องค์ประกอบด้วยกันคือ สไตล์ไม่เหมือนใคร คุณภาพดี และ คุ้มค่าคุ้มราคา
ราคาจับต้องได้ เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย
ก่อนเริ่มต้นธุรกิจ แบรนด์ต้องรู้ก่อนว่าจะขายให้ใคร กลุ่มเป้าหมายเป็นใคร อายุเท่าไร รายได้เท่าไร ไลฟ์สไตล์เป็นอย่างไร เมื่อทราบ Target แล้ว การกำหนด Price Range ก็ง่ายขึ้น
หากสังเกตผู้หญิงสไตล์ GENTLEWOMAN หรือสาวๆ ที่ใช้กระเป๋าผ้า GENTLEWOMAN ส่วนใหญ่อยู่ในวัยเรียน และวัยทำงานตอนต้น (First Jobber) ซึ่งสะท้อนกำลังซื้อของแบรนด์ได้ดีว่าควรกำหนดราคาสินค้าไว้ที่เท่าไร ดังนั้น สินค้าของ GENTLEWOMAN จึงอยู่ในช่วงราคาที่จับต้องได้ เช่น กระเป๋าในตำนานรุ่น GW CANVAS TOTE BAG มีราคาอยู่ที่ 390 บาท หรือหมวกแก๊ปราคาเริ่มต้น 590 บาท เรียกได้ว่าตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายสุดๆ
นอกจากนี้ GENTLEWOMAN ยังมีคอลเลกชันที่จับกลุ่ม Tier บนๆ โดย Price Range จะขยับขึ้นมาอีกนิดเริ่มต้น 1,000 บาทขึ้นไป จับกลุ่มสาวๆ วัยทำงาน หรือต้องการลุคสมาร์ทบวกแคชชวล
อยู่ถูกที่ อยู่ที่ไหนก็ขายได้
ไม่ว่าจะขายสินค้าประเภทใด หากมีหน้าร้านสวยงาม แต่ตั้งอยู่ผิดที่ ยังไงก็ไม่มีทางเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แน่นอน โดยเฉพาะกลุ่มเสื้อผ้าแฟชั่นวัยรุ่น ที่ต้องเลือกทำเลที่ใช่ อยู่ในที่ที่กลุ่มเป้าหมายเดินผ่าน ยิ่งทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น ซึ่ง GENTLEWOMAN สาขาแรกตั้งอยู่ที่ Siam Square One ศูนย์รวมวัยรุ่นของประเทศไทยเลยก็ว่าได้
และในสาขาอื่นๆ GENTLEWOMAN ตั้งอยู่ในจุดที่คนเดินผ่านเยอะ เช่น สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว ตั้งอยู่ที่ชั้น G และสาขาสยามพารากอน อยู่ชั้น 1 นอกจากนี้ยังไม่สาขาในต่างจังหวัดอีกด้วย
นำเสนอดีเยี่ยม
ใครที่เคยเดินเข้าร้าน GENTLEWOMAN ต้องประทับกับการจัดวางสินค้าในร้านอย่างแน่นอน เพราะการทางร้านจัดเรียงเสื้อผ้าตามโทนสี ทำให้ง่ายต่อการ Mix & Match อีกทั้งห้องลองเสื้อผ้าของที่นี่ก็ขึ้นชื่อว่าสวยสุดๆ เหมาะกับการถ่ายภาพลงโซเชียลเอามากๆ
ในส่วนของออนไลน์ GENTLEWOMAN ก็ไม่ได้แผ่วไปกว่าฝั่งหน้าร้าน เมื่อเข้าไปดูที่เว็บไซต์ https://www.gentlewomanonline.com/ คุณจะเห็นหน้าเว็บไซต์ที่สวยงาม เรียบง่าย และชำระเงินสะดวก นอกจากนี้ ฝั่งการพรีเซนต์เสื้อผ้าก็เป็นสิ่งสำคัญที่มองข้ามไม่ได้เช่นกัน ในทุกแพลตฟอร์มโซเชียลของแบรนด์คุณจะได้เห็น Lookbook หรือแคตตาล็อกที่รวมภาพถ่ายคอลเลกชันเสื้อผ้าจากนางแบบหลายสไตล์ที่มาในลุคธรรมชาติ เพื่อแสดงให้เห็นว่าเสื้อผ้านำไปใส่ในชีวิตประจำวันได้
มีไซซ์ให้เลือกครบ
ในยุคที่ Beauty Standard ไม่สำคัญอีกต่อไป ผู้หญิงยุคนี้มีความภูมิใจในตัวเอง กล้าแต่งตัวมากขึ้น มีความเป็นตัวของตัวเองสูง แบรนด์เสื้อผ้าจึงต้องผลิตเสื้อผ้าตามไซซ์ที่หลากหลาย ที่ GENTLEWOMAN มีไซซ์เสื้อผ้าเริ่มต้นตั้งแต่ XS ไปจนถึง Free Size และทุกไซส์ของที่นี่ก็ตอบรับสรีระของไทยคนไทย จึงมั่นใจได้ว่าเสื้อผ้าจะพอดีกับผู้สวมใส่แน่นอน
ใส่ใจลูกค้า
การพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ แบรนด์ต้องรับฟังความคิดเห็นของลูกค้าเสมอ ซึ่ง GENTLEWOMAN ให้ความสำคัญกับทุกความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะจากลูกค้า และนำสิ่งเหล่านั้นมาต่อยอดเป็นเสื้อผ้าคอลเลกชันใหม่ๆ
ที่น่าสนใจคือ แม้ GENTLEWOMAN จะออกตัวว่าเป็น Fast Fashion แต่ก็ไม่ใช่ผู้ผลิตเสื้อผ้าที่ทำมาเพื่อให้ใส่ครั้งสองครั้ง แต่ต้องการเป็น Fast Fashion ที่มีความยั่งยืน ซื้อแล้วใส่ได้ 3-5 ปี หรือเป็น Timeless Fashion ที่ไม่ล้าสมัย หยิบมาใส่ตอนไหนก็ไม่ตกยุค
ข้อมูลจาก
https://www.soimilk.com/fashion/news/gentlewoman-shop
