Google Adwords แพลตฟอร์มโฆษณาออนไลน์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้แคมเปญ Google Adwords Keyword Planner ประสบความสำเร็จคือการเลือกคีย์เวิร์ดที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถช่วยให้โฆษณาของคุณแสดงผลต่อหน้าผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณอยู่
Google Adwords Keyword Planner เป็นเครื่องมือที่จะช่วยคุณค้นหาและวิเคราะห์คีย์เวิร์ดที่เหมาะสมสำหรับแคมเปญของคุณ เครื่องมือนี้ให้ข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์มากมาย เช่น ปริมาณการค้นหา การแข่งขัน และแนวโน้มของคีย์เวิร์ด ซึ่งจะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกคีย์เวิร์ดที่มีโอกาสสร้างผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณ
Google Adwords Keyword Planner คืออะไร
Google Adwords Keyword Planner เป็นเครื่องมือฟรีที่ช่วยให้คุณสามารถค้นหาและวิเคราะห์คีย์เวิร์ดสำหรับแคมเปญโฆษณาของคุณ เครื่องมือนี้ให้ข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์มากมาย ซึ่งจะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกคีย์เวิร์ดที่มีโอกาสสร้างผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณ เช่น
1. ปริมาณการค้นหา (Search Volume)
กล่าวคือเป็นจำนวนครั้งที่ผู้ใช้ Google ค้นหาคำค้นหานั้นในช่วงเวลาที่กำหนด
2. ค่าคลิกโดยประมาณ (Estimated Bid)
คือจำนวนเงินที่คุณอาจต้องจ่ายเมื่อมีผู้ใช้คลิกเข้าไปที่โฆษณาของคุณที่เกี่ยวข้องกับคำค้นหานั้น
3. การแข่งขัน (Competition)
คือระดับความยากง่ายในการแข่งขันกับโฆษณาของคู่แข่งที่ใช้คำค้นหาเดียวกันกับคุณ โดยมี 3 ระดับคือ ต่ำ (low) ปานกลาง (medium) และ สูง (high)
4. การประมาณการประสิทธิภาพ (performance forecast)
คือผลการประมาณการว่าโฆษณาของคุณจะมีประสิทธิภาพอย่างไร เมื่อใช้คำค้นหาที่คุณเลือก โดยจะแสดงเป็น จำนวนคลิก (clicks) จำนวนแสดงผล (impressions) อัตราคลิก (click-through rate) และ ค่าใช้จ่าย (cost) ที่คาดว่าจะเกิดขึ้น
ด้วยเครื่องมือ Google AdWords Keyword Planner คุณสามารถหาคำค้นหาที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ ทดสอบคำค้นหาที่คุณคิดว่าจะใช้ในการลงโฆษณา หาคำค้นหาใหม่ที่คล้ายคลึงกับคำค้นหาที่คุณใช้อยู่ จัดกลุ่มคำค้นหาตามหัวข้อหรือธีม และปรับปรุงและตรวจสอบแผนคีย์เวิร์ดของคุณอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งการใช้ Google AdWords Keyword Planner มีประโยชน์มากมายสำหรับธุรกิจของคุณ ไม่ว่าจะเป็น
- ช่วยให้คุณค้นหาคีย์เวิร์ดที่มีประสิทธิภาพสำหรับแคมเปญของคุณ
- ช่วยให้คุณเข้าใจความต้องการของผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าของคุณ
- ช่วยให้คุณกำหนดเป้าหมายโฆษณาของคุณไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง
- ช่วยให้คุณกำหนดงบประมาณโฆษณาของคุณได้อย่างเหมาะสม
Google AdWords Keyword Planner เหมาะสำหรับใคร?
แน่นอนว่า Google AdWords Keyword Planner เหมาะสำหรับบุคคลที่ต้องการลงโฆษณาออนไลน์ผ่าน Google ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่หรือเล็ก หรือบุคคลที่ต้องการวิเคราะห์คำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของตนเอง หรือของคู่แข่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าคุณต้องการ
- หาคำค้นหาที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ และเห็นปริมาณการค้นหา ค่าคลิก และระดับความแข่งขันของคำค้นหาเหล่านั้น
- ทดสอบคำค้นหาที่คุณคิดว่าจะใช้ในการลงโฆษณา และเห็นผลการประมาณการประสิทธิภาพของคำค้นหาเหล่านั้น
- หาคำค้นหาใหม่ที่คล้ายคลึงกับคำค้นหาที่คุณใช้อยู่ หรือคำค้นหาที่มีความเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ของคุณ หรือหัวข้อที่คุณสนใจ
- จัดกลุ่มคำค้นหาตามหัวข้อหรือธีม และสร้างโฆษณาที่เหมาะสมกับคำค้นหาของลูกค้า
- ปรับปรุงและตรวจสอบแผนคีย์เวิร์ดของคุณอย่างสม่ำเสมอ และปรับเปลี่ยนคำค้นหาตามความต้องการของลูกค้า และแนวโน้มของตลาด
ดังนั้น หากคุณเป็นเจ้าของแบรนด์ เจ้าของบริการต่าง ๆ ที่ต้องการวิเคราะห์คำค้นหาที่ตรงกับธุรกิจของคุณเอง Google AdWords Keyword Planner จะเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์มากสำหรับคุณ
วิธีใช้ Google AdWords Keyword Planner ให้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ
การเพิ่มประสิทธิผลโฆษณา Google Adwords คือการทำให้โฆษณาของคุณมีผลตอบแทนที่ดีขึ้น เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายที่คุณจ่ายในการลงโฆษณา การเพิ่มประสิทธิผลโฆษณา Google AdWords จะช่วยให้คุณได้รับลูกค้าที่มีความสนใจในสินค้าหรือบริการของคุณมากขึ้น และลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ดังนั้น คุณควรทำตามข้อแนะนำต่อไปนี้
1. เลือกคำค้นหาที่มีประสิทธิภาพ
คำค้นหาที่มีประสิทธิภาพคือคำค้นหาที่มีความเกี่ยวข้องสูงกับธุรกิจของคุณ มีปริมาณการค้นหาสูง แต่มีค่าคลิกต่ำ และไม่ซ้ำซ้อนหรือคล้ายคลึงกัน คุณสามารถใช้ Google AdWords Keyword Planner เพื่อหาคำค้นหาที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ และเห็นข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับคำค้นหาเหล่านั้น
2. จัดกลุ่มคำค้นหาตามหัวข้อหรือธีม
การจัดกลุ่มคำค้นหาจะช่วยให้คุณสร้างโฆษณาที่เหมาะสมกับคำค้นหาของลูกค้า และเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าเห็นโฆษณาของคุณ การจัดกลุ่มคำค้นหาจะช่วยให้คุณมีโฆษณาที่มีความเกี่ยวข้องสูงกับคำค้นหา และมีอัตราคลิกที่ดีขึ้น
3. เขียนข้อความโฆษณาที่น่าสนใจ
ข้อความโฆษณาที่น่าสนใจคือข้อความที่สามารถดึงดูดความสนใจของลูกค้า และชักชวนให้ลูกค้าคลิกเข้าไปที่โฆษณาของคุณ ข้อความโฆษณาที่น่าสนใจควรมีคุณสมบัติดังนี้
3.1 ชัดเจน (clear)
ข้อความที่สื่อถึงสิ่งที่คุณขาย หรือสิ่งที่คุณต้องการให้ลูกค้าทำ เช่น ซื้อสินค้า สมัครสมาชิก หรือติดต่อคุณ
3.2 เฉพาะเจาะจง (specific)
คือข้อความที่ระบุรายละเอียดหรือข้อดีของสินค้าหรือบริการของคุณ เช่น ราคา ส่วนลด คุณภาพ
3.3 กระตุ้นให้เกิด Call To Action
คือข้อความที่ชักชวนให้ลูกค้าทำสิ่งที่คุณต้องการ เช่น คลิกที่นี่ สั่งซื้อเลย ลงทะเบียนวันนี้ หรือโทรหาเราตอนนี้
3.4 มีคำหลักที่เหมาะสม (relevant keywords)
คือข้อความที่ใช้คำหลักที่เหมือนหรือคล้ายคลึงกับคำค้นหาที่ลูกค้าใช้ เพื่อเพิ่มความเกี่ยวข้องของโฆษณาของคุณ และเพิ่มโอกาสให้โฆษณาของคุณถูกเห็น
4. ปรับปรุงและตรวจสอบโฆษณาของคุณอย่างสม่ำเสมอ
การปรับปรุงและตรวจสอบโฆษณาของคุณอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณเห็นผลการลงโฆษณาของคุณ และปรับเปลี่ยนโฆษณาของคุณตามความต้องการของลูกค้า และแนวโน้มของตลาด คุณสามารถใช้เครื่องมือต่างๆ ของ Google Adwords เพื่อติดตามและวิเคราะห์โฆษณาของคุณ เช่น
4.1 Google Analytics
เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณวัดและวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ใช้ที่เข้ามาที่เว็บไซต์ของคุณ หลังจากที่เห็นโฆษณาของคุณ คุณสามารถดูข้อมูลเช่น จำนวนผู้เข้าชม เวลาที่ใช้ในเว็บไซต์ อัตราการออกจากเว็บไซต์ หรือการแปลงเป็นลูกค้า
4.2 Google AdWords Conversion Tracking
เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณวัดและวิเคราะห์การแปลงเป็นลูกค้าของผู้ใช้ที่คลิกเข้าไปที่โฆษณาของคุณ
และนี่คือเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับ Google Adwords Keyword Planner ซึ่งต้องบอกว่าการวางแผนคีย์เวิร์ดอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญ Google Adwords Keyword Planner เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังที่จะช่วยให้คุณค้นหาและวิเคราะห์คีย์เวิร์ดที่มีประสิทธิภาพสำหรับแคมเปญของคุณ หากคุณปฏิบัติตามขั้นตอนและเคล็ดลับข้างต้น คุณจะสามารถวางแผนคีย์เวิร์ดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพิ่มโอกาสพบลูกค้าด้วยแคมเปญ Google AdWords ของคุณ ที่ Digimusketeers เรามีบริการ Data Consulting ให้บริการด้านการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก รวมทั้งวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคให้กับแบรนด์หรือธุรกิจ ผ่านการติดตั้ง Tools ที่ใช้เก็บข้อมูลทุกการเคลื่อนไหวผ่านเว็บไซต์ เช่นการติดตั้ง Google Tag Manager ในการเก็บข้อมูล Data Tracking ที่ช่วยให้คุณสามารถนำข้อมูลมาต่อยอดได้หลายด้านของธุรกิจ เช่น กลยุทธ์การตลาด การโปรโมตสินค้า ไม่เพียงเท่านี้ เรายังมีบริการให้ปรึกษาและแนะนำเพื่อต่อยอดทางการตลาด และธุรกิจของคุณในอนาคต ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญฟรี