ในยุคที่อุตสาหกรรมเทคโนโลยีพัฒนาแบบก้าวกระโดด Application จึงถูกสร้างขึ้นมาอย่างแพร่หลายเพื่อช่วยให้การใช้ชีวิตประจำวันง่ายขึ้นในทุกด้าน ตั้งแต่การเรียน การทำงาน สร้างความบันเทิง ไปจนถึงสร้างโลกเสมือนจริงที่ให้ความรู้สึกต่างไปจากชีวิตจริงที่เป็นอยู่ แต่น้อยคนนักที่จะรู้จักหลักการทำงานที่แท้จริงของมัน ถ้าคุณเป็นคนที่สนใจด้านไอทีห้ามข้ามบทความนี้เด็ดขาด
Application คืออะไร?
Application (แอปพลิเคชัน) หรือเรียกกันติดปากว่า แอป ซึ่งก็คือ โปรแกรมที่ถูกทำขึ้นเพื่อนำมาใช้งานบนอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งคอมพิวเตอร์ สมาร์ตโฟน แท็บเล็ต ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันของผู้ใช้งานให้ง่ายและสะดวกรวดเร็ว โดยสามารถติดตั้งหรือดาวน์โหลด Application ที่ตรงกับความต้องการได้ทั้งแบบฟรีและมีค่าใช้จ่าย ซึ่งจะมี Application ให้เลือกมากมายทั้งด้านการทำงาน การศึกษา ความบันเทิง หรือสามารถติดต่อสื่อสารระหว่างกันผ่าน Application จากในระยะไกลได้โดยส่งผ่านสัญญาณอินเทอร์เน็ต
การทำงานทั่วไปของ Application
การทำงานของ Application ไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิดแต่จะสามารถช่วยให้การใช้ชีวิตของผู้คนง่ายตามความต้องการได้อีกด้วย เช่น
- ให้บริการแบบเฉพาะเจาะจง เช่น Application ที่สามารถสั่งอาหาร การเล่นเกม การส่งข้อความ การทำตารางนัดหมายหรือใช้เป็นแผนที่นำทาง
- ใช้งานบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้ทุกเวลา ซึ่งส่วนใหญ่จะเอื้อต่อการใช้งานได้บนสมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ต
- ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลด Application ผ่านตัวกลางร้านค้าออนไลน์ อย่าง App Store หรือ Google Play Store
- มีการอัปเดตอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ง่ายและสะดวกสบายมากขึ้น
- ใช้งานผ่านอินเทอร์เน็ต ซึ่งเกือบทั้งหมดของ Application บนร้านค้าจำเป็นต้องส่งผ่านข้อมูลและอัปเดตแบบเรียลไทม์
- จำเป็นต้องลงทะเบียนเข้าใช้งานด้วยข้อมูลส่วนตัว เพื่อให้บริการได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
- Application มีทั้งแบบฟรีและมีค่าใช้จ่ายที่พร้อมให้บริการความสะดวกสบายทุกด้าน
Mobile Application มีกี่ประเภท
เมื่อทุกคนมีสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ตก็สามารถเข้าถึง Mobile Application ได้อย่างง่ายดายทุกประเภทที่ถูกแบ่งออกได้เป็นดังนี้
1. Native App
Native App (เนทีฟ แอป) เป็นการพัฒนา Application ที่ใช้งานเฉพาะกับระบบปฏิบัติการ (OS) บนอุปกรณ์เครื่องที่ ทำโดยการเขียนภาษาพิเศษในแต่ละ OS เช่น ระบบ iOS ที่ทำงานบน iPhone จะใช้โปรแกรม XCode ในการพัฒนา หรือ ระบบ Android จะใช้ Java ในการพัฒนาโปรแกรม
2. Hybrid Application
Hybrid Application (ไฮบริด แอปพลิเคชัน) เป็น Application ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาโดยใช้เฟรมเวิร์กเข้ามาช่วย เพื่อต้องการให้สามารถใช้งานกับระบบปฏิบัติการทุกแบบ
3. Web Application
Web Application (เว็บ แอปพลิเคชัน) เป็น Application ที่ถูกเขียนเป็นเบราว์เซอร์เพื่อเข้าใช้งานเว็บเพจได้เหมือนใช้ในคอมพิวเตอร์ อีกทั้งยังถูกพัฒนาให้ใช้เฉพาะเครื่องมือที่จำเป็นบนเว็บเพจเพื่อลดการใช้ข้อมูลอินเทอร์เน็ต จึงสามารถโหลดหน้าเว็บเพจได้เร็วยิ่งขึ้นและยังคงใช้อินเทอร์เน็ตในความเร็วระดับต่ำได้อีกด้วย
แอปพลิเคชันที่ดีควรเป็นอย่างไร
Application ที่ออกมาเปิดให้บริการก็มีเพิ่มมากขึ้นในแต่ละปี แต่ Application แบบไหนที่จะสามารถครองใจผู้ใช้งานได้อย่างยาวนาน สำหรับสายไอทีมาดูแนวทางดีๆ ก่อนจะสร้าง Application ขึ้นมากันดีกว่าค่ะ
1. ใช้งานง่าย
จุดแข็งข้อแรกของการเป็นแอปพลิเคชันที่ดี คือ การใช้งานง่ายตั้งแต่ครั้งแรกที่เปิดเข้าไป ยิ่งผู้ใช้งานสามารถเข้าใจในระบบการทำงานได้ด้วยตนเองในระยะเวลาอันสั้นก็ยิ่งจะทำให้ผู้ใช้งานยังคงใช้แอปพลิเคชันต่อไปแน่นอนค่ะ
2. ระบบประมวลผลอย่างรวดเร็ว
อีกหนึ่งแรงจูงใจที่จะสามารถทำให้ผู้ใช้งานเลือกใช้แอปนั้นต่อไปคือ ความรวดเร็วของระบบประมวลผล ดังนั้นผู้พัฒนาแอปควรทดสอบการทำงานของแอปและมีการพัฒนาเป็นระยะๆ โดยให้ความสำคัญกับการจัดการข้อมูลผู้ใช้งานและปรับการทำงานของแอปไม่ให้มีความซับซ้อนด้วย
3. มีความน่าสนใจ
หากแอปนำเสนอความน่าสนใจตั้งแต่ครั้งแรกที่เข้าใช้งานหรือแม้กระทั่งตอนเปิดเข้าไปในทันที อย่าง Facebook หรือ Tiktok ที่ผู้ใช้งานจะได้ประโยชน์จากการเสพคอนเทนต์ใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา หรือการอัปเดตลูกเล่นการใช้งานของแอปให้มีความสามารถมากขึ้นก็จะยิ่งน่าสนใจและเข้าใช้งานแอปอยู่เรื่อยๆ
4. เชื่อมต่อสู่โซเชียลมีเดีย
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในยุคนี้ผู้คนให้ความสนใจกับสื่อโซเชียลมีเดียเป็นหลัก เพราะฉะนั้นควรมีเมนูที่จะสามารถแชร์เรื่องราวภายในแอปทั้งรูปภาพ บทความ หรือเนื้อหาที่น่าสนใจ ไปยังโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มยอดนิยม ไม่ว่าจะเป็น Facebook หรือ X แอปนั้นก็จะยิ่งได้รับความสนใจจากผู้ใช้งานยิ่งขึ้น
5. แอปขนาดเล็ก
ขนาดของแอปก็เป็นอีกปัจจัยที่จะทำให้ผู้ใช้งานเลือกติดตั้งหรือไม่ก็ได้ เพราะถ้ามีขนาดใหญ่จนใช้พื้นที่ในสมาร์ตโฟนก็การประมวลผลหรือเก็บข้อมูลก็อาจจะช้าลง ทำให้ผู้ใช้งานเลือกที่จะลบทิ้งมากกว่าและหันไปใช้แอปใกล้เคียงที่มีขนาดเล็กกว่า วิธีแก้ส่วนใหญ่ผู้พัฒนาแอปจะเปิดให้ดาวน์โหลดแอปขนาดเล็กก่อน แต่เมื่อเข้าใช้งานจะต้องทำการอัปเดตข้อมูลอีกรอบแทน
6.ใช้งานแบตเตอรี่น้อย
แบตเตอรี่มีความสำคัญกับการใช้งานสมาร์ตโฟนยิ่งหากผู้ใช้งานรู้สึกว่าการเข้าใช้แอปใดแอปหนึ่งเป็นเวลาไม่นาน แต่แบตเตอรี่ถูกใช้งานมากเกินความจำเป็นจนไม่สามารถทำอย่างอื่นได้ ก็จะยิ่งทำให้ผู้ใช้งานตัดสินใจได้ง่ายที่จะลบแอปออกทันที ผู้พัฒนาจึงไม่ควรมองข้ามข้อนี้เช่นกัน
7. มีการอัปเดตอยู่เสมอ
แน่นอนว่าการสร้างแอปในครั้งเดียวก็ไม่ใช่ว่าจะดี 100% เสมอไป ดังนั้นการอ่านคอมเมนต์จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรใส่ใจต้องนำมาปรับตามความเหมาะและการใช้งานของผู้ใช้จริง นอกจากนี้สถานการณ์โลกในปัจจุบันที่เปลี่ยนไปก็ควรอัปเดตแอปให้ทันสมัยด้วยเหมือนกัน
8. ความปลอดภัย
ข้อมูลของผู้ใช้งานต้องได้รับการปกป้อง ยิ่งแอปที่มีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก โอกาสที่จะทำให้ข้อมูลรั่วไหลก็มีได้มากเช่นกัน ดังนั้นผู้พัฒนาควรวางระบบหลังบ้านไว้ให้ดีและแยกพื้นที่การเก็บข้อมูลการใช้งานกับข้อมูลส่วนบุคคลไว้คนละส่วนกัน นอกจากนี้ยังต้องคอยอัปเดตเครื่องมือที่จะป้องกันการล้วงความลับให้อย่างแน่นหนา
สรุป แอปพลิเคชันที่ดีควรเป็นอย่างไร
แอปพลิเคชันเครื่องมือที่จะช่วยให้คุณทำงานได้อย่างราบรื่นหรือแม้แต่การความบันเทิงที่คุณสามารถพกพาไปไหนก็ได้อย่างสะดวกตลอดเวลามีทั้งข้อดีและข้อเสียซึ่งคุณควรพิจารณาจากเลือกให้สมกับตัวคุณจากการลองใช้งานจริงหรือแม้แต่การอ่านคอมเมนต์ก่อนจะยิ่งทำให้คุณค้นพบแอปพลิเคชันที่เหมาะสมกับการช่วยเหลือในการใช้ชีวิตประจำวันอย่างแน่นอน
FAQ เกี่ยวกับการใช้งาน Application
การทำธุรกิจต้องการแอปพลิเคชันไหม?
เรียกได้ว่า แอปพลิเคชัน คือตัวช่วยสำคัญของการดำเนินธุรกิจทางด้านการตลาดเพราะสามารถประชาสัมพันธ์และติดต่อสื่อสารกับลูกค้าได้โดยตรงง่าย สะดวก และรวดเร็วโดยเสียค่าใช้จ่ายน้อยหรือไม่เสียค่าใช้จ่ายเลย อีกทั้งยังสามารถอัปเดตข้อมูลสินค้าและรายละเอียดต่างๆ ให้ลูกค้าทราบได้โดยที่เราไม่จำเป็นต้องบริการลูกค้าด้วยตนเอง เพราะลูกค้าสามารถค้นหาข้อมูลสินค้าได้จากแพลตฟอร์มที่เราสร้างขึ้นบนแอปพลิเคชัน เราจึงสามารถปิดการขายได้อย่างรวดเร็วด้วย
ใช้แอปพลิเคชันดีกว่าเว็บไซต์ไหม?
ก่อนอื่นต้องมาเปรียบเทียบกันก่อนว่าแอปพลิเคชันนั้นเน้นการใช้งานให้สะดวกสบายได้ทุกที่ทุกเวลา ทั้งการทำงาน การเรียน หรือแม้กระทั่งการซื้อขายสินค้าผ่านแอปพลิเคชัน นอกจากนี้ยังสามารถตั้งค่าแจ้งเตือนข้อความที่สำคัญๆ ให้ตอบโต้ได้อย่างฉับพลันทันเวลาเหมาะกับการสื่อสารพูดคุยเรื่องที่สำคัญบนสมาร์ตโฟนที่พกพาไปไหนก็ได้ต่างจากการใช้งานเว็บไซต์บนคอมพิวเตอร์ที่พกพาลำบากกว่า
ควรมีแอปพลิเคชันอะไรบ้าง?
แน่นอนว่าในยุคที่คนต้องการเสพคอนเทนต์กันเป็นหลักเพื่อเพิ่มความรู้ ความบันเทิงให้ได้ผ่อนคลาย หรือเก็บข้อมูลไปใช้เป็นหัวข้อพูดคุยกระชับความสัมพันธ์กันในกลุ่มเพื่อน ดังนั้นแอปที่ควรมีติดสมาร์ตโฟนไว้ก็อย่างเช่น Facebook, Twitter, Instagram และ Tiktok แหล่งคอนเทนต์ที่อัปเดตทันเหตุการณ์อยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้การสื่อสารก็อย่าให้ขาดควรมีแอป Line หรือ Messenger ไว้ติดต่อสื่อสารในระยะไกลได้ด้วย ส่วนความบันเทิงก็ต้องมีอย่างแอป Youtube แหล่งรวมวิดีโอมากมายจากทั่วโลกที่จะช่วยให้คุณไม่เหงาเมื่ออยู่คนเดียวอีกต่อไป
และนี่คือเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับ แอปพลิเคชัน เราได้ทราบกันไปแล้วว่า แอปพลิเคชันที่ดีควรเป็นอย่างไร และถ้าคุณคือเจ้าของธุรกิจที่อยากสร้าง แอปพลิเคชัน ที่ช่วยให้การใช้ชีวิตของคุณดีขึ้น Digimusketeers ขอแนะนำบริการพัฒนาแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน Mobile Application Development คิดค้นพัฒนาแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน Android/ iOS ที่ตรงใจคุณ ออกแบบ UX/UI ดีไซน์สวยงามและเป็นมิตรกับผู้ใช้งาน ปลอดภัยและได้มาตรฐานในทุกขั้นตอนการพัฒนาและใช้งาน พัฒนาแอปพลิเคชันที่ตอบโจทย์แบรนด์ธุรกิจคุณ
แอดไลน์เพื่อปรึกษาเราฟรี
อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Application
ที่มาข้อมูล 1
