อีกหนึ่งสื่อโซเชียลในปัจจุบันที่ได้เข้ามามีบทบาทจนทำให้ผู้ใช้งานไม่สามารถละสายตาไปจากสมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ตเป็นชั่วโมงๆ ได้เลย ก็คือ Short Clip แม้จะนำเสนอเนื้อหาเพียงแค่ไม่กี่วินาที แต่ด้วยความกระชับ เข้าใจง่าย กับความตลกขบขันที่สามารถดูได้อย่างต่อเนื่อง ยิ่งทำให้แพลตฟอร์มต่างๆ หันมาให้ความสำคัญและชักจูงเหล่าครีเอเตอร์มาสร้างคลิปสั้นพร้อมค่าตอบแทนที่ต้องห้ามพลาด
รวมแพลตฟอร์มคลิปสั้นยอดนิยม
เมื่อคลิปสั้นกลายเป็นที่นิยมบนโซเชียล การแข่งขันของทุกแพลตฟอร์มก็ได้เริ่มขึ้นอย่างเข้มข้นจากการเปิดสงครามทางการตลาดของแพลตฟอร์ม Tiktok ที่เน้นนำเสนอคลิปสั้น ตามมาด้วย Reel คู่ต่อสู้ยักษ์ใหญ่จากบ้าน Meta ต่อเนื่องด้วย Youtube Shorts ที่หันมาตามเทรนด์แบบรวดเร็ว มาเปรียบเทียบการใช้งานของทุกแพลตฟอร์มพร้อมๆ กันเลย
TikTok
มาเริ่มกันที่ Tiktok เรียกได้ว่าเป็นผู้นำเทรนด์ Short Clip ที่ฮิตติดกระแสลมบนเลยก็ว่าได้ Tiktok เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2017 แต่เริ่มมาเป็นที่นิยมในช่วงปี 2020 ที่ใครไม่รู้จักไม่ได้แล้ว เพราะการันตีด้วยยอดดาวน์โหลดเป็นอันดับหนึ่งของโลกช่วงต้นปี 2022 จนเป็นที่น่าจับตามองและเป็นแพลตฟอร์มที่สร้างเหล่าครีเอเตอร์ให้โด่งดังเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกได้ด้วยชื่อ ‘Tiktoker’
ด้วยการนำเสนอคลิปสั้นเป็นหลักจึงทำให้การตัดต่อวิดีโอบนแอป Tiktok มีความสะดวก ง่ายดายและน่าสนใจจากฟีเจอร์ทั้งหมดนี้
- ความยาวของคลิปสูงสุดถึง 10 นาที และมีอัตราส่วน 9:16 ในแนวตั้ง
- ฟีเจอร์การตกแต่งคลิปที่จะทำให้มีความน่าสนใจมากขึ้น เช่น ฟิลเตอร์ปรับแต่งสีวิดีโอ ปรับแต่งหน้าตาให้ดูสวยหรือตลกขบขัน ตัดต่อวิดีโอได้แบบไหลลื่นด้วยเทมเพลตยอดนิยมที่ไม่ทำให้คุณเสียเวลา
- คลังเพลงแบบปลอดค่าลิขสิทธิ์เกือบทุกมุมโลกมากกว่า 1 ล้านเพลงที่สามารถใช้ได้อย่างอิสระ ยิ่งทำให้นำเสนอคลิปสั้นตรงตามคอนเทนต์ของคุณมากที่สุด รวมไปถึงเอฟเฟกต์ที่จะทำให้คลิปของคุณมีชีวิตชีวามากขึ้นไปอีก
- ฟีเจอร์นอกจากนี้ที่น่าสนใจและง่ายต่อการเข้าถึงคือ เปิด Subtitle ได้ ซึ่งแม้จะไม่เปิดเสียงก็สามารถเข้าใจคอนเทนต์ได้
Reels
มาต่อกันที่ Reels หนึ่งในฟีเจอร์ของแพลตฟอร์มแชร์รูปภาพที่มีผู้ใช้งานทั่วโลกไม่แพ้กันอย่าง Instagram ก็เริ่มหันมาทำการตลาดคลิปสั้นเพื่อดึงดูดความสนใจให้ผู้ใช้งานกลับมาที่แพลตฟอร์มตนเองเมื่อกลางปี 2020 จึงกลายมาเป็นฟีเจอร์ Reels ที่สามารถใช้งานได้ทั้งใน Instagram และ Facebook แพลตฟอร์มร่วมเครือข่ายที่ทำให้โพสต์คลิปสั้นลงได้ทั้งสองแพลตฟอร์ม และเกิดการกระตุ้น Engagement ไปพร้อมๆ กัน
โดย Reels จะมีความแตกต่างของคลิปสั้นกับคู่แข่งอย่าง Tiktok ในฟีเจอร์ไหนกันบ้างมาลองดูกัน
- ความยาวของคลิปสูงสุดถึง 90 วินาที และมีอัตราส่วน 9:16 ในแนวตั้ง
- ฟีเจอร์การตกแต่งคลิปก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะปกติแล้ว Instagram ก็มีฟิลเตอร์และเอฟเฟกต์ที่ทำให้รูปภาพหรือวิดีโอน่าดึงดูดอยู่แล้ว รวมไปถึงลูกเล่น AR ที่มีให้เลือกเล่นมากมาย ทั้งแบบที่แพลตฟอร์มมีมาให้ หรือแบบที่ครีเอเตอร์อิสระสร้างขึ้นมาให้คุณได้ไปมีส่วนร่วมนำมาใช้งานในคลิปได้อย่างสร้างสรรค์เช่นกัน
- สำหรับคลังเพลงก็มีให้เลือกแบบปลอดลิขสิทธิ์เยอะมากซึ่งสามารถใช้บนแพลตฟอร์มได้อย่างอิสระไม่แพ้กัน
YouTube Shorts
มาถึงแพลตฟอร์มวิดีโอใหญ่ที่สุดอย่าง Youtube ที่มาเปิดโลกสื่อวิดีโอออนไลน์แรกเลยก็ว่าได้ ก็เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับคลิปสั้นมากขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นปี 2021 ด้วยฟีเจอร์ Shorts เพื่อให้เข้าถึงพฤติกรรมการเสพสื่อที่เปลี่ยนไปของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่ง Shorts ถึงว่าได้เปรียบกว่าแพลตฟอร์มอื่นเพราะมีฐานผู้ใช้งานที่เยอะอยู่แล้ว ทำให้การแข่งขันในครั้งนี้ไม่ได้ด้อยไปกว่าแพลตฟอร์มอื่นเลย
ถ้าเปรียบเทียบการใช้งานด้านการตัดต่อวิดีโอหรือฟีเจอร์ต่างๆ กับแพลตฟอร์มคู่แข่งก็มีความพิเศษอยู่ไม่น้อย
- ความยาวของคลิปสูงสุดถึง 60 วินาที และมีอัตราส่วน 9:16 ในแนวตั้ง
- ฟีเจอร์โดดเด่นของ Shorts อันแรกที่ต้องพูดถึงเลยคือ การค้นหาที่สะดวกง่ายและตรงตามความต้องการของผู้ใช้งานมากกว่าแพลตฟอร์มอื่น นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์การตัดต่อวิดีโอที่เอื้อต่อผู้ที่ใช้งานลงคลิปวิดีโอยาวอยู่แล้ว ให้สามารถนำคลิปยาวมาตัดต่อกลายเป็นคลิปสั้นได้ทันที ทำให้ผู้ชมเข้าใจถึง Key Message ของคลิปยาวได้รวดเร็ว หรืออาจเป็นการนำเสนอไฮไลต์ของคลิปยาวเพื่อเป็นแรงดึงดูดให้ผู้ชมเข้าไปชมเพิ่มขึ้นด้วย
- สำหรับคลังเพลงบน Shorts ก็มีให้เลือกมากมายบน YouTube Studio ทั้งแบบปลอดลิขสิทธิ์หรือต้องซื้อลิขสิทธิ์มาใช้สร้างคลิปใหม่ๆ ให้ดูน่าสนใจได้เช่นกัน แต่เหล่าครีเอเตอร์ส่วนใหญ่ก็จะใช้งาน Shorts ผ่านการตัดต่อวิดีโอยาวจากช่องของตนเองอยู่แล้วด้วย
- ถ้า Tiktok มีฟีเจอร์เปิด Subtitle ได้แล้ว ทำไม Shorts ถึงจะทำไม่ได้กันละ เรียกได้ว่าเขาเตรียมตัวมาสู้กันได้ดีจริงๆ
เริ่มสร้างรายได้จากคลิปสั้น
แพลตฟอร์มคลิปสั้นทั้งหมดสามารถสร้างรายได้หลายช่องทางดังนี้
1. จากการโฆษณาหรือสปอนเซอร์
ช่องทางหารายได้แรกที่มาพร้อมกับการโพสต์คลิปสั้นคือ ค่าโฆษณาหรือสปอนเซอร์ จากแบรนด์สินค้าและบริการต่างๆ ทั้งจากโฆษณาแฝงที่มาระหว่างการเล่นคลิปสั้นของแพลตฟอร์มเอง หรือเมื่อคุณสร้างตัวตนจนมีผู้ติดตามมากพอ ก็จะเกิดการจ้างงานโฆษณาจากแบรนด์สินค้าหรือบริการที่เรียกกันว่า “อินฟลูเอนเซอร์”
2. Affiliate Marketing
เครื่องมือทางการตลาดของธุรกิจอีกหนึ่งรูปแบบที่กำลังเป็นที่นิยมในทุกช่องทางโดยเฉพาะสายครีเอตที่ทำคลิปสั้นก็คงหนีไม่พ้น Affiliate Marketing จากแพลตฟอร์ม E-commerce หรือให้เข้าใจกันง่ายๆ เมื่อครีเอเตอร์โพสต์คลิปรีวิวหรือไลฟ์สไตล์ต่างๆ พร้อมกับติดลิงก์สินค้าจากแพลตฟอร์มชอปปิงออนไลน์ Lazada Shopee หรืออื่นๆ เพื่อให้ผู้ชมสามารถตามไปซื้อหากันได้ ครีเอเตอร์ก็จะได้รับค่านายหน้าหรือส่วนแบ่งจากการขายสินค้าชิ้นนั้นตามจำนวนที่แพลตฟอร์มกำหนด วิธีนี้เป็นการกระตุ้นยอดขายของธุรกิจได้เป็นอย่างดี ซึ่งช่องทางสร้างรายได้นี้ถือว่าเป็นที่นิยมมากๆ ในกลุ่มวัยรุ่นและมนุษย์เงินเดือนอย่างมาก
เทคนิคการสร้างคลิปสั้นให้ได้คุณภาพ
1. เน้นเทคนิคการถ่ายทำ
คลิปสั้นของคุณจะน่าสนใจหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับการถ่ายทำที่สามารถถ่ายทอด Key Message ของคอนเทนต์ที่คุณต้องการจะสื่อออกมาได้เป็นอย่างดี ซึ่งต้องเริ่มต้นจากวางแผนทำ storyboard ให้เห็นภาพรวมของวิดีโอ เลือกมุมกล้อง Mood and tone แบบไหนที่เข้ากันกับเนื้อหาและสอดคล้องกับรูปแบบการตัดต่อวิดีโอถ้าหากต้องการใช้หลายคลิปมาเล่าเรื่องราวรวมกัน ต่อด้วยอุปกรณ์ที่ต้องใช้ความละเอียดสูงเพื่อไม่เกิดปัญหาเมื่อถึงขั้นตอนการโพสต์ ที่สำคัญห้ามถ่ายย้อนแสงเป็นอันขาดเพราะจะไม่สามารถเห็นรายละเอียดของสิ่งที่คุณกำลังพยายามจะสื่อออกมาในวิดีโอได้อย่างชัดเจน
2. ใช้เทคนิคการตัดต่อ
จุดแข็งของคลิปสั้นคือ สามารถถ่ายทอด Key Message ที่มีคุณภาพ ทำให้เข้าใจได้ภายในไม่ถึงนาที การตัดต่อวิดีโอจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องเน้นความกระชับ เข้าใจง่าย ตรงประเด็น ยิ่งถ้าคุณมีคลิปต้นฉบับอยู่หลายคลิปแต่ต้องการตัดมารวมกัน คุณจะต้องจัดเรียงความสำคัญและความยาวของแต่ละคลิปให้กระตุ้นความน่าสนใจ ความอยากรู้ของผู้ชมขึ้นเรื่อยๆ จนต้องตามดูจนจบ
3. เลือกเสียงประกอบให้เหมาะสม
เมื่อมีคลิปสั้นคอนเทนต์ที่คุณต้องการจะสื่อสารออกไปแล้ว ก็มาต่อกันที่ใช้เสียงในการกระตุ้นอารมณ์ร่วมของผู้ชมให้น่าสนใจมากขึ้น ต้องเลือกใช้เสียงเอฟเฟกต์ให้ถูกจังหวะเข้ากับการพูดหรือการขยับร่างกายของคุณภายในคลิป และเลือกเพลงประกอบให้เหมาะสมกับอารมณ์ของคลิปด้วย
4. เลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสม
แต่ละแพลตฟอร์มมีความแตกต่างกันเล็กน้อย ดังนั้นต้องศึกษาการใช้งานของแต่ละอันเพื่อเลือกใช้ให้เหมาะสมกับความต้องการของคุณเอง เช่น TikTok มีอิสระในการทำคอนเทนต์ค่อนข้างเยอะ ทั้งนำเสนอความตลกขบขัน สามารถติดตะกร้าเพื่อทำ Affiliate Marketing ได้ง่ายกว่าแพลตฟอร์มอื่น หรือถ้าไม่อยากตกเทรนด์ก็สามารถทำคลิปสั้นที่ Tiktok ร่วมกับครีเอเตอร์คนอื่นได้ นอกจากนี้คุณควรเลือกแพลตฟอร์มที่กลุ่มเป้าหมายของคุณใช้งานมากที่สุดเพื่อนำเสนอคอนเทนต์ที่พวกเขาสามารถเข้าถึงได้ด้วย
5. การสร้างความสัมพันธ์กับผู้ติดตาม
หากต้องการเพิ่มผู้ติดตามในช่องทางของคุณผ่านคลิปสั้นแล้วละก็ ควรเริ่มสร้างความสัมพันธ์ให้พวกเขามีร่วมส่วนกับคลิปของคุณมากกว่าการเข้าชมดูสิ เช่น การตั้งคำถามทิ้งท้ายไว้ เพื่อให้พวกเขาพิมพ์ความคิดเห็นกลับมาใต้คลิป หรือการเชิญชวนเล่นกิจกรรม ก็จะเป็นการกระตุ้นให้เกิดปฏิสัมพันธ์มากกว่าคำว่าผู้ติดตามอีกด้วย
สรุป
‘คลิปสั้น’ ในปัจจุบันถือว่าเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในกลุ่มผู้เสพสื่อหรือครีเอเตอร์เองก็ตาม เพราะเพียงไม่กี่วินาทีก็สามารถรับสารหรือนำเสนอคอนเทนต์ได้แบบตรงประเด็น สำหรับในเชิงธุรกิจก็ยังสามารถสร้าง Brand Awareness เป็นวงกว้างได้ แค่ต้องเลือกแพลตฟอร์มและทำคอนเทนต์ให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายก็จะยิ่งทำให้คลิปสั้นของคุณเป็นไวรัลได้แน่นอน
FAQ เกี่ยวกับ Short Clip
คลิปสั้นประเภทไหนที่คนจะเลือกดูที่สุด?
ในปัจจุบันคลิปสั้นประเภทที่ให้ความบันเทิงจะได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะเข้าใจง่าย เบาสมอง ไม่ต้องคอยคิดตามให้ปวดหัว นอกจากนี้ถ้าเนื้อหาที่ตลกขบขันนั้นเชื่อมโยงกับชีวิตประจำวันของคนทั่วไปก็จะเกิดการแชร์คลิปนั้นได้มากขึ้นอีกด้วย
คลิปสั้นประเภทไหนที่คนจะเลื่อนผ่านมากที่สุด?
โดยส่วนมากจะเป็นคลิปที่มีเนื้อหาเข้าใจยาก คุณภาพวิดีโอต่ำเพราะไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่จะสื่อออกมาจากวิดีโอได้อย่างชัดเจน หรือการนำภาพนิ่งมาทำเป็นวิดีโอก็จะดูไม่น่าสนใจจนต้องเลื่อนผ่านไป
ในอนาคตคลิปสั้นจะยังเป็นนิยมอยู่ไหม?
จากยอดผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้นของแพลตฟอร์มคลิปสั้นที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่าในอนาคตน่าจะยังเป็นที่นิยมอยู่ แต่ในอนาคตก็อาจจะมีสื่อโซเชียลรูปแบบใหม่ขึ้นมาแทนที่ก็ได้เช่นกัน
เพิ่มมูลค่าให้กับแบรนด์ผ่านวิดีโฮคอนเทนต์ ที่ Digimusketeers เรามีบริการ Creative & Production สร้างสรรค์วิดีโอโฆษณาที่โดดเด่นและแตกต่าง โดยทีม In-house Creative และ Production ครบ จบ ที่เดียว ตรงโจทย์ความต้องการของลูกค้า และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในการสื่อสาร
เพิ่มยอดขายด้วยการผลิตสื่อวิดีโอโฆษณา
แอดไลน์เพื่อปรึกษาเราฟรี
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องกับ ตัดต่อวิดีโอ โปรดักชัน