ถ้าพูดถึง อินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) ไม่มีใครในยุคนี้ไม่รู้จักคำนี้แน่นอน แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ลึกว่านั้นมีแบ่งแยกย่อยลงไปอีก ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มของอินฟลูเอนเซอร์หรือประเภทอินฟลูเอนเซอร์ วันนี้เราเลยขอมาพูดในหัวข้อของอินฟลูเอนเซอร์แบบละเอียด เพื่อให้นักการตลาดหรือแบรนด์ได้ศึกษาแล้วความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง เพื่อจะได้นำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ให้เป็นประโยชน์กับตัวเองในด้านการตลาดกันนะ ยิ่งเลือกถูกกลุ่มและเหมาะกับแบรนด์ของตัวเอง การใช้การตลาดอินฟลูเอนเซอร์ก็จะยิ่งช่วยให้แบรนด์คุณไปถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้น
อินฟลูเอนเซอร์คืออะไร ?
อินฟลูเอนเซอร์ เป็นกลุ่มคนที่มีอิทธิพลต่อผู้บริโภคที่เป็นผู้ติดตามพวกเขา สามารถทำให้กลุ่มเป้าหมายรู้สึกคล้อยตามหรือมีผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคนั่นเอง โดยการทำให้กลุ่มเป้าหมายหรือกลุ่มผู้ติดตามซื้อสินค้า/บริการ ตามอินฟลูเอนเซอร์คนนั้นผ่านการทำคอนเทนต์ในรูปแบบต่าง ๆ ตามสไตล์ของตัวเองบนโซเชียลมีเดีย ซึ่งเป็นได้ทั้งศิลปิน ดารา คนที่มีชื่อเสียงหรือมีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านนั้น ๆ
ทำไมต้องจ้างอินฟลูเอนเซอร์
- สร้างการรับรู้แบรนด์ (Braสnd Awareness) : แน่นอนว่าอินฟลูเอนเซอร์มีผู้ติดตามเยอะอยู่แล้ว ดังนั้นการโปรโมทสินค้าผ่านอินฟลูเอนเซอร์ จะทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น
- เพิ่มความน่าเชื่อถือ (Credibility) : ผู้คนเชื่อคำแนะนำของอินฟลูเอนเซอร์มากกว่าโฆษณา
- กระตุ้นการตัดสินใจซื้อ (Purchase Decision) : อินฟลูเอนเซอร์สามารถโน้มน้าวใจให้ผู้คนตัดสินใจซื้อ
- สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า (Customer Relationship) : อินฟลูเอนเซอร์สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่มเป้าหมาย
- เพิ่มยอดขาย (Sales) : อินฟลูเอนเซอร์สามารถช่วยเพิ่มยอดขาย
อินฟลูเอนเซอร์แบ่งเป็น 4 กลุ่มตามจำนวนผู้ติดตาม
-
Nano Influencer
มีผู้ติตตาม 1,000 – 10,000 คน เป็นกลุ่มที่มีค่าจ้างถูกที่สุด อาจจะไม่ได้มีชื่อเสียงมากนัก แต่หน้าตาดี พูดเก่ง มีสไตล์ของตัวเอง และยังเป็นกลุ่มที่ผุดขึ้นมาใหม่เรื่อย ๆ แบรนด์เล็ก ๆ มักจะเลือกใช้กลุ่มนี้ในการตลาดออนไลน์
-
Micro Influencer
มีผู้ติดตาม 10,000 – 100,000 คน เป็นกลุ่มที่ค่อนข้างมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องที่ตัวเองถนัดจริง ๆ มีแนวทางในการครีเอทคอนเทนต์ชัดเจนแบบเฉพาะกลุ่มจึงสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายได้ตรงกลุ่ม ทำให้ผู้บริโภครู้สึกอยากซื้อสินค้าตามได้มากขึ้น
-
Macro Influencer
มีผู้ติดตาม 100,000 – 1,000,000 คน เป็นกลุ่มที่มีความโดดเด่นในการครีเอทแนวทางคอนเทนต์ชัดเจนมาก มีความเป็นอาชีพมากกว่า สร้างการรับรู้ให้แบรนด์ได้ดีและเข้าถึงผู้บริโภคตรงกลุ่มเพราะผู้ติดตามเยอะพอสมควร เรทราคาสูงจึงเหมาะกับแบรนด์ขนาดกลาง
-
Mega Influencer
มีผู้ติดตาม 1,000,000 คนขึ้นไป กลุ่มคนที่มีชื่อเสียง เช่น ดารา นักกีฬา นักการเมือง หรือคนดังบนโซเชียลมีเดีย เรทราคาสูงสุดจึงเหมาะกับแบรนด์ใหญ่งบเยอะ สร้างการรับรู้ได้ในวงกว้าง แต่อาจจะเจาะจงกลุ่มเป้าหมายได้ไม่ชัดเจนมากเท่า 3 กลุ่มแรก
แอดไลน์เพื่อปรึกษาเราได้
อินฟลูเอนเซอร์ 8 ประเภทมีอะไรบ้าง ?
อินฟลูเอนเซอร์สาย Gamers และ Live Streamers
อินฟลูเอนเซอร์สายเกมเมอร์มักจะครีเอทคอนเทนต์ในแนว Live Stram บนแพลตฟอร์ม Twich, YouTube หรือคอนเทนต์รีวิวเกม โปรโมตเกมผ่านโซเชียลมีเดียของตัวเอง นอกจากนี้ยังมีแบรนด์ประเภทเครื่องดื่ม ขนม หรือเสื้อผ้าก็สามารถมาจ้างกลุ่มนี้ทำการตลาดด้วยเช่นกัน
แต่ส่วนมากคอนเทนต์ที่นิยมใช้กลุ่มนี้ทำการตลาดมีดังนี้
- รีวิวเกมสไตล์ Action, First Person Shooter, Massively Multiplayer Online หรือเกมที่ใช้กลยุทธ์
- สอนวิธีเล่นเกมเบื้องต้น
- แนะนำแนวทางการเล่น
- คลิปโปรโมตสั้น ๆ เช่น ซีนเด็ดในเกม โชว์การแข่ง หรืออื่น ๆ
อินฟลูเอนเซอร์สาย Sport และ Fitness
อินฟลูเอนเซอร์สายนี้มีคอนเทนต์ให้ครีเอทให้หลากหลายเช่นกัน เช่น การออกกำลังกายรูปแบบต่าง ๆ เช่น โยคะ พิลาทิส วิ่ง ยกน้ำหนัก หรือ Crossfit หรือเป็นไลฟ์สไตล์ของคนรักสุขภาพ แนะนำวิธีลดน้ำหนัก ลดหุ่น แนะนำเมนูสุขภาพ และกีฬาหลายแนว โดยแนวทางจะเน้นไปทางการให้แรงบันดาลใจ กระตุ้นให้คนออกกำลังกาย หรือจะเป็นแบรนด์เสื้อผ้า Gadget และอาหารเสริมสำหรับออกกำลังกายก็ได้
อินฟลูเอนเซอร์สาย Blogger/ Vloggers
เป็นอินฟลูเอนเซอร์สายที่มีอิทธิพลในโลกออนไลน์อันดับต้น ๆ เลยก็ว่าได้ ส่วนใหญ่จึงจะอยู่ในกลุ่มที่มีผู้ติดตามเยอะอย่างกลุ่ม Macro และ Mega ซึ่งช่องทางที่นิยมครีเอทคอนเทนต์คือ YouTube Channel และบล็อกส่วนตัว บางคนก็สามารถทำคอนเทนต์ที่ใช้หลัก SEO ด้วย ผลิตคอนเทนต์ที่มีคุณภาพและยังสามารถทำ Backlink กลับไปหาแบรนด์ ทำให้แบรนด์เลือกทุ่มเงินกับอินฟลูเอนเซอร์สายนี้เยอะ เพราะสร้าง Traffic และ Awareness ได้ดีให้กับแบรนด์ รวมถึงกระตุ้นยอดขายได้ดีด้วย
อินฟลูเอนเซอร์สาย Trevel
สายนี้เป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่ครีเอทคอนเทนต์เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว การเดินทางในแบบต่าง ๆ การแนะนำ ให้ความรู้ รีวิว ทั้งเรื่องเที่ยว อาหาร โรงแรม การกินหรือสายการบิน แบรนด์ไหนที่ทำธุรกิจในแวดวงนี้ ถ้าอยากทำการตลาดให้ใช้กลุ่มนี้เลย ผลตอบรับดีแน่นอน
อินฟลูเอนเซอร์สาย Beauty
ผลสำรวจจาก Influencermarketing บอกว่า 43% ของผู้บริโภคยุคนี้มักจะติดตามอินฟลูเอนเซอร์สายความงามเยอะ เพราะมีนิยมดูแลตัวเองมากขึ้น ในส่วนของคอนเทนต์ก็จะเป็นสายดูแลผิว แต่งหน้า รีวิวสินค้าที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงพวกคลีนิกเสริมความงามต่าง ๆ แบรนด์ไหนที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้บริโภคที่ชื่นชอบเรื่องเหล่านี้ก็ให้ตรงมาจ้างอินฟลูเอนเซอร์กลุ่มนี้โลดเลย ยอดขายมาเยอะแน่นอน
อินฟลูเอนเซอร์สาย Fashion
อินฟลูเอนเซอร์ที่เน้นไปทางการครีเอทคอนเทนต์แฟชั่น เสื้อผ้าหน้าผม เครื่องประดับ กระเป๋า และยังทำคอนเทนต์ได้หลากหลายแนวทั้งรีวิวของที่ชอบ แนะนำสไตล์ที่เหมาะกับแต่ละบุคคล ซึ่งสินค้าก็มีทั้งแบรนด์ตามท้องถิ่นไปจนถึงระดับโลกเลยทีเดียว ซึ่งกลุ่มนี้มักจะทำงานโดยตรงกับแบรนด์เสื้อผ้า เช่น ทำ Hual Video ที่แนะนำผู้ติดตามว่าช่วงนี้มีสินค้าอะไรใหม่บ้าง
อินฟลูเอนเซอร์สาย Family
มักเรียกกันว่า Parenting Influencer เป็นอินฟลูเอนเซอร์สายครอบครัว แม่และเด็กที่จะครีเอทคอนเทนต์บอกเล่าเรื่องราว ประสบการณ์การเป็นพ่อแม่ การดูแลความสัมพันธ์ในครอบครัว และยังรวมไปถึงของใช้ภายในบ้านด้วย ไม่ใช่แค่สินค้าเกี่ยวกับพ่อแม่ลูกเท่านั้น หรือแบรนด์อาหารเด็กก็มี รวมไปถึงผู้สูงอายุด้วยนะ
อินฟลูเอนเซอร์สายกิน รีวิวร้านอาหาร คาเฟ่
เป็นอินฟลูเอนเซอร์กลุ่มที่มีจำนวนเยอะมาก ๆ ในปัจจุบัน คอนเทนต์ที่ทำจะเป็นแนวรีวิว แนะนำ พวกร้านอาหาร คาเฟ่ บางครั้งก็มีแบรนด์ที่นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับอาหารมาจ้าง
หากคุณมีธุรกิจของตัวเองแล้วอยากจ้าง Influencer มาโปรโมต ดิจิมัสเกตเทียส์เราเป็น Influencer Agency ที่มีอินฟลูเอนเซอร์ให้เลือกมากมายและยังรับทำ influencer marketing อีกด้วยที่คอยให้คำแนะนำและควบคุมการทำงานทุกขั้นตอนเพื่อทำการตลาดที่มีคุณภาพ
แอดไลน์เพื่อปรึกษาเราได้
อ้างอิง https://www.influencer.com/