ถ้าคุณกำลังเข้ามาอ่านบทความนี้ แสดงว่าคุณกำลังคิดที่จะเริ่มต้นธุรกิจของตัวเองอยู่ใช่ไหม ? แน่ล่ะมันไม่ง่ายเลยกับการที่อยากให้การเริ่มต้นธุรกิจของตัวเองเดินทางไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ คุณต้องศึกษาทุกเรื่อง ทุกด้าน ทุกมิติของการทำธุรกิจ เพื่อให้เกิดข้อผิดพลาดน้อยที่สุด ยิ่งในยุคนี้การแข่งขันสูงมาก แล้วด้วยสภาพเศรษฐกิจ บวกกับสภาวะเงินเฟ้อในประเทศเอย เจ้าของธุรกิจต้องคำนึงถึงข้อเสียต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น แถมยังต้องคิดทางแก้ปัญหาเผื่อไว้อีก
เราเลยเหมามาให้รวมทั้งเช็กลิสต์ก่อนเริ่มต้นธุรกิจ และแนวคิดจากมุมมองนักธุรกิจชื่อดังที่ประสบความสำเร็จ ไปดูคำตอบพร้อมกันเลย
Checklists สิ่งที่ต้องทำก่อนเริ่มต้นธุรกิจ
ศึกษาธุรกิจที่จะทำว่าดีจริงไหม
หากคุณอยากจะเริ่มต้นธุรกิจจริง ๆ แล้วไม่อยากเจ๊ง อยากให้มันไปได้ดีก็ต้องเริ่มศึกษาข้อมูลของธุรกิจนั้นว่าเป็นอย่างไร ในที่นี้หมายถึงทุกด้าน เช่น ตลาดในปัจจุบันและการคาดการณ์ในอนาคต กลยุทธ์ คู่แข่ง กลุ่มเป้าหมาย โอกาสเติบโตและอีกมากมายเพื่อมาประกอบการตัดสินใจว่าการที่คุณจะเริ่มต้นธุรกิจนี้มันดีจริงแล้วใช่หรือไม่ ไม่ใช่แค่อยากหรือคิดแค่อยากทำก็เริ่มได้เลย ถ้าคิดแค่นี้ในระยะยาวก็อาจจะมีแนวโน้มว่าไม่เวิร์กก็ได้นะ
เริ่มวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจ
หลังจากทำการศึกษาธุรกิจที่เริ่มทำมามากพอที่จะมั่นใจได้ว่าเลือกธุรกิจนี้ ลิสต์ที่ควรมีต่อมาคือการวางแผนธุรกิจ ทั้งการบริหารธุรกิจภายในแบรนด์ตัวเอง วางแผนกลยุทธ์การตลาดไปในแนวทางไหนที่เหมาะกับธุรกิจและกลุ่มเป้าหมายของตัวเอง ข้อเหล่านี้ที่เรียกว่าการวางแผนธุรกิจคือสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องคิดก่อนเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง เพราะการเดินทางที่ราบรื่นนั้นจะต้องมีการวางแผนก่อนเริ่ม ระหว่างทางมันอาจมีสิ่งไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้ แต่ถ้าเราวางแผนไว้แล้ว มันจะช่วยให้การเดินทางนั้นชะงักน้อยลง
มีเงินก้อนสำรอง 6-8 เดือน
เรื่องเงินเป็นสิ่งสำคัญมากจริง ๆ สำหรับการเริ่มต้นธุรกิจ ก่อนจะทำผู้ประกอบการต้องคิดคำนวณค่าใช้จ่ายต้นทุนทุกอย่างให้รอบคอบ อย่าให้ตกหล่นว่าธุรกิจของคุณแต่ละขั้นตอนต้องใช้เงินเท่าไหร่ ซึ่งการคำนวณนั้นตัวเลขจะต้องเผื่อเกินงบไว้ด้วยนะ เพื่อป้องกันเอาไว้ และที่สำคัญคุณต้องมีเงินก้อนที่เป็นเงินสำรองในธุรกิจไว้อย่างน้อย 6-8 เดือนเลยทีเดียว สำหรับเคสฉุกเฉินที่อาจเข้ามาหาโดยไม่ทันตั้งตัว
เริ่มต้นธุรกิจตามทุนที่มี
ลิสต์ต่อมาก็คือการดูงบเริ่มต้นว่าคุณมีเท่าไหร่ สเกลธุรกิจควรจะเริ่มเท่าเงินทุนที่มีอย่าโหมมากเกินไป ตัวคุณเองที่เป็นเจ้าของธุรกิจจะได้ไม่ต้องแบกรับภาระที่หนักอึ้งหากธุรกิจติดขัดมีปัญหา
รับกับความเสี่ยงให้ได้
คิดจะเริ่มต้นธุรกิจแล้วก็ต้องทำใจยอมรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และต้องพร้อมรับมือทุกสถานการณ์ โดยเฉพาะความเสี่ยงทางด้านการเงิน
มีความอดทน
หนึ่งในลิสต์ที่ผู้ประกอบการต้องมีก่อนเริ่มต้นธุรกิจเลยก็คือความอดทนทั้งด้านกายและใจ เตรียมรับศึกจากทุกด้านให้ดี เพราะคุณจะต้องเจอแน่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นความกดดันในการเริ่มต้น การบริหารงานภายในธุรกิจ การวางแผนการตลาดต่าง ๆ
แนวคิดเริ่มต้นธุรกิจจากมุมมองนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ
“การเปิดใจมองหาวิธีปรับปรุงและความเชื่อมโยงกับการเปลี่ยนแปลงของโลกภายนอก” – Del Lekerman (CEO TIG)
เขาบอกว่านี่คือหัวใจสำคัญที่ช่วยให้เขาประสบความสำเร็จในการเริ่มต้นธุรกิจทำธุรกิจของตัวเอง เพราะการเปิดใจรับสิ่งใหม่นี้ ไม่ใช่แค่ยอมรับหรือเห็นด้วยกับสิ่ง ๆ นั้น แต่คือการเปิดใจกับทุกสิ่งจะช่วยให้คุณเห็นมุมมองที่ต่างออกไป ละทิ้งอคติที่มี อีโก้ที่เราถือไว้มาตลอด เพราะการเปิดใจจะเป็นประตูสู่ความสร้างสรรค์ในแบบที่เราไม่เคยมีมาก่อน และยังจะเป็นหนทางที่จะช่วยให้เราเจอวิธีแก้ปัญหาใหม่ ๆ เรียนรู้สิ่งใหม่อีกด้วย เพื่อต่อยอดธุรกิจของตัวเองให้ก้าวไปอีกขั้นของความสำเร็จ
“การใช้เวลาทำความรู้จักลูกค้า สร้างบทสนทนาเพื่อพูดคุยกับลูกค้าและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ ล้วนเป็นองค์ประกอบหลักของการเติบโตภายในองค์กร” – Jess Dewell (Operations and Strategy จาก Red Direction)
เพราะการสื่อสารกับลูกค้าจะช่วยสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวแบบยั่งยืนและยังสร้างความประทับใจให้กับพวกเขาได้ และยังทำให้ได้รู้ว่าพวกเขาชอบทำอะไร สนใจสิ่งไหนที่จะเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ให้เราได้เอาไปปรับใช้ในแผนการตลาดของการเริ่มต้นธุรกิจได้แบบไม่ต้องเสียเงินเลยด้วยซ้ำ
“ทุกองค์กรจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนตัวเองเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในวันข้างหน้า สิ่งที่จะเกิดขึ้นไม่ใช่สื่อ หรือเครือข่ายทั่วไปแบบเมื่อก่อน เราเลยต้องเข้าใจ รับมือและคิดหาวิธีนำมาพัฒนาธุรกิจของเรา” – Tim O’Reilly (CEO O’Reilly Media)
ตั้งแต่ในช่วงที่โควิดระบาด ความนิยมของ Zoom ก็เพิ่มมากขึ้น ทุกองค์กรเริ่มมีการเอามาปรับใช้ในการประชุมช่วงนั้น สิ่งนี้ทำให้เห็นว่าองค์กรจะดำเนินไปได้ด้วยดีนั้นต้องรู้จักปรับตัวไปตามการเปลี่ยนแปลงของโลกตลอดเวลา ควรมีการปรับแผนธุรกิจทุกปีดูว่ามีเทคโนโลยีหรือกลยุทธ์อะไรใหม่ ๆ ที่จะเอามาใช้ในองค์กรได้ เพื่อให้องค์กรนั้นเติบโตไปได้ไวขึ้น และยังจะช่วยให้พนักงานในองค์กรทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
“ฉันเชื่อว่าการที่ผู้นำให้เวลาพนักงานในการค้นหาเป้าหมายส่วนตัวและเป้าหมายในอาชีพ รวมถึงสนับสนุนพวกเขา จะทำให้บริษัทพัฒนาต่อไปได้” Debra Eckerling จาก Corporate Wellness
องค์กรที่สนับสนุนพนักงาน จะช่วยให้พวกเขารู้สึกมีคุณค่าในองค์กรและรู้สึกว่าองค์กรให้ความสำคัญกับพวกเขาเช่นกัน ดังนั้นองค์กรที่บริหารได้ดีจะทำให้สุขภาพจิตพนักงานดีขึ้นด้วย ยกตัวอย่างเช่น หลังจากสถานการณ์โควิดดีขึ้น องค์กรก็ประกาศให้พนักงานกลับมาทำงานที่ออฟฟิศตามเดิมเลยทันที ในมุมมองของพนักงาน พวกเขาจะรู้สึกลำบากใจอย่างแน่นอน เพราะไม่มีเวลาให้พนักงานได้ปรับตัวเลย ดังนั้นองค์กรต้องให้ความช่วยเหลือพนักงานในด้านนี้ด้วย
ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้ผู้อ่านจะได้เนื้อหาที่ต้องการอย่างครบถ้วนสำหรับคนที่อยากเริ่มต้นธุรกิจเป็นของตัวเอง เอาไปปรับใช้กันได้เลย