10 วิธีสร้าง Landing Page

เปิดกลยุทธ์ 10 วิธีสร้าง Landing Page ช่วยเพิ่มยอดขายมากที่สุด

Digimusketeers, 21 February 2023

ยุคนี้คนเล่นโซเชียลมีเดียเยอะขึ้น นักการตลาดเลยมักจะให้ความสำคัญในการทำโฆษณาบนโซเชียลมีเดียเป็นหลัก เน้นหลากหลายจนลืมให้ความสำคัญในการทำโฆษณาบนเว็บไซต์ไป อย่าลืมว่าช่องทางนี้ โดยเฉพาะการทำ Landing Page ที่มอบประโยชน์มากมายให้กับแบรนด์ ทั้งเพิ่มการเข้าชม การเก็บ Data ของผู้ที่สนใจและเพิ่มอัตราการซื้อขายผ่านหน้าเว็บได้ดีมาก ๆ ช่องทางหนึ่งเลยทีเดียว สำหรับมือใหม่อ่านต่ออีกหน่อย เราจะอธิบายง่าย ๆ ว่า Landing Page คืออะไรและมีกี่แบบบ้าง

Landing Page คืออะไร ?

Landing Page เป็นหน้าเว็บไซต์แบบ Standalone มีความแตกต่างจากเว็บไซต์ปกติ ถูกสร้างขึ้นเพื่อทำแคมเปญการตลาดหรือแคมเปญโฆษณาที่แบรนด์ต้องการให้ user ที่คลิกเข้าไปแล้วสนใจที่จะกรอกข้อมูลส่วนตัวของตัวเองลงไปหรือกรอกรายละเอียดเพื่อจ่ายเงินซื้อสินค้าและบริการนั้น หรือเรียกว่าให้เกิด Conversion (การกระทำบางอย่างที่ต้องการจากผู้เข้าชมเว็บไซต์) ซึ่ง Landing Page ไม่จำเป็นจะต้องมีเพียงหน้าเดียวก็ได้ จำไว้ว่า 1 Landing Page เท่ากับ 1 Conversion คือในหนึ่งหน้าจะมีเพียงหนึ่งสิ่งที่แบรนด์ต้องการให้ผู้เข้าชมเว็บไซต์ทำ เช่น สมัครสมาชิก หรือสั่งซื้อสินค้าบริการ

Landing Page แบ่งเป็น 2 แบบหลัก

  • Lead Generation Page หรือ Lead Capture Page : เป็น Landing Page แบบฟอร์มการกรอกข้อมูลส่วนตัว เพื่อรวบรวมข้อมูลของผู้ที่สนใจให้แบรนด์ได้นำไปใช้ประโยชน์ในด้านการตลาดในอนาคตได้ เหมือนกับเป็นแบบฟอร์มให้ผู้ที่สนใจในข้อเสนอนั้น ๆ กรอกข้อมูลเพื่อที่จะได้สิทธิพิเศษ เมื่อกรอกข้อมูลเสร็จสมบูรณ์ก็อาจจะมีอาจ Thank you เพื่อแสดงความขอบคุณและเป็นการยืนยันว่าทางแบรนด์หรือบริษัทได้รับข้อมูลเรียบร้อยแล้ว 
  • Call-Through Page : Landing Page รูปแบบนี้จะไม่ได้มีแบบฟอร์มให้กรอกข้อมูล แต่จะเป็นการบอกรายละเอียดของสินค้า/บริการ ของแบรนด์ พร้อมกับใส่ Call To Action (CTA) ไว้ด้านล่างเพื่อนำไปสู่หน้าถัดไป สำหรับผู้ที่คลิกเข้ามาเยี่ยมชมและสนใจอยากจะเป็นลูกค้าของแบรนด์ เช่น Join Now เพื่อทดลองใช้ฟรี 1 เดือน หรือ คลิกที่นี่เพื่อรับส่วนลด 40% 

10 วิธีสร้าง Landing Page

10 วิธีสร้าง Landing Page เพิ่มยอดขายที่ดี

1. เน้นเนื้อ ไม่เอาน้ำ ดึงความสนใจอยู่หมัด

การทำ Landing Page ที่ดีคือการให้ข้อมูลรายละเอียดในสิ่งที่ลูกค้าต้องการได้ครบ ชัดเจน ซึ่งครบในที่นี้คือไม่ใช่การยัดเนื้อหาร่ายยาว น้ำเยอะเกินไปกว่าจะอ่านเข้าถึงเนื้อจริง ๆ ใช้เวลานานเกินไป แถมยังทำให้ Landing Page ดูรกเกินไปด้วย ดังนั้นเนื้อหาที่เราจะใส่ลงไปต้องเกี่ยวข้องกับตัวสินค้าหรือบริการจริง ๆ เพื่อความสนใจของผู้เข้าเยี่ยมชมได้หยู่หมัด ไม่ให้พวกเขารู้สึกเบื่อที่จะอ่าน นอกจากนี้การเรียงลำดับเล่าเนื้อหาก็สำคัญเหมือนกันนะ เกริ่นนิดหน่อยก็พอ และควรมีช่วงฮุคกระชากใจด้วย

2. เข้าใจรายละเอียดคร่าวๆ ภายใน 5 วินาที

ใครที่ทำ Landing Page มานานแต่กลับได้ Conversion น้อยเหลือเกิน ลองเอาทริคนี้เข้าไปเสริมดูนะ เพราะยุคนี้คนขี้เบื่อกันง่าย ทริคไม่ลับก็คือทำอย่างไรก็ได้ให้คนที่เข้ามาเยี่ยมชมนั้นเข้าใจว่าเว็บไซต์ Landing Page นี้คืออะไร ต้องการสื่อสารอะไรภายใน 5 วินาที ยกตัวอย่างเช่น การใส่ Copy สั้น ๆ แต่ได้ใจความไปก่อน ให้คนอ่านรู้สึกว่านี่คือสิ่งที่เขาสนใจอยู่ และอยากเลื่อนลงไปอ่านต่อ

3. ใช้พื้นที่บนสุดให้คุ้มค่าที่สุด

พื้นที่ด้านบนสุดนับว่าเป็นสิ่งแรกที่ผู้เยี่ยมจะมองเห็นเมื่อเข้ามาในหน้า Landing Page ก่อนที่จะเลื่อนลงไปข้างล่าง เป็นส่วนที่เรียกว่า Above the Fold ดังนั้นคุณจึงควรให้ความสำคัญกับส่วนนี้มาก ๆ ทั้งการดีไซน์ การเรียงลำดับภาพ/ เนื้อหา และการเลือกใช้คำที่ฮุคแสนดึงดูดใจ และทำให้พวกเขานั้นอยากจะเลื่อนอ่านต่อไปอีก

4. ใช้ Visual เล่าเรื่องให้กลุ่มเป้าหมายเห็น Pain Point เร็วกว่า

การเล่าเรื่องผ่าน Visual ในบางครั้งก็น่าสนใจมากกว่ากว่าการอ่านข้อความเสียอีก และยังจะช่วยประหยัดพื้นที่บน Landing Page ได้ดีด้วย ไม่ว่าจะเป็นการใช้ภาพจริงหรือเวคเตอร์จะช่วยกระตุ้นความสนใจของผู้เยี่ยมชมได้ดีมาก ๆ สิ่งสำคัญเลยก็คือภาพนั้นต้องเกี่ยวข้องกับสินค้า/ บริการของแบรนด์ และสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้อ่านได้

5. ดีไซน์ Mood&Tone ไปในทางเดียวกัน เรียงลำดับให้ดี

ใส่สิ่งที่เป็นการบอกตัวตน เอกลักษณ์ของแบรนด์ลงไป Landing Page ดีไซน์ Mood & Tone ให้ไปในทางเดียวกัน และเรียงลำดับการทำ Landing Page ให้ดี ทั้งการวางภาพประกอบ ข้อความ การวาง CTA และองค์ประกอบอื่น ๆ เพื่อให้ดูสวยงาม อ่านง่าย และช่วยสร้างการจดจำแบรนด์ เช่น ในเพจ Facebook ใช้สี CI เป็นสีเหลืองดำ แต่ใน Landing Page กลับใช้สีฟ้าขาว ที่ดูไม่ใช่แบรนด์เดียวกันก็ทำให้ผู้อ่านสับสนและจำแบรนด์ไม่ได้

6. อย่าลืมใส่ CTA กระตุ้นใจ ดีไซน์ให้เด่นไว้

Call to Action นี่ขาดไม่ได้เลยสำหรับการทำ Landing Page ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหนก็ตาม เพื่อเพิ่มยอด Conversion ที่ดี และต้องเลือกใช้คำที่ฮุค กระตุ้นใจมากที่สุดด้วย รวมถึงการจัดวางในหน้า Landing Page การออกแบบดีไซน์ปุ่มก็ต้องให้ความสำคัญด้วย มีความโดดเด่นออกมาจากเนื้อหาพอไหม มองหาง่ายไหม ไม่เล็กเกินไปใช่หรือไม่ เป็นต้น

7. มีพื้นที่ว่าง White Space

การมีพื้นที่ว่าง หรือ White Space จะช่วยทำให้ภาพรวมของเว็บไซต์ Landing Page ดูไม่รกตา หรือสิ่งที่จะไปรบกวนสายตาของผู้อ่านได้ดีมาก ๆ วิธีหนึ่งเลยนะ และยังทำให้ผู้อ่านสามารถอ่านข้อความได้ดีขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มพื้นที่ในการมองดูข้อมูลได้ดีเช่นกัน

8. ใช้วิดีโอให้ดูน่าสนใจ เพิ่มยอดการเข้าถึง

การใช้สื่ออย่างวิดีโอมาอยู่ใน Landing Page ก็ช่วยดึงดูดความสนใจได้เหมือนกัน เพราะวิดีโอเป็นภาพเคลื่อนไหวที่คนอ่านสามารถเห็นทุกมิติของสินค้าและบริการได้ดีกว่าภาพนิ่งและข้อความ ซึ่งการใช้วิดีโอมานำเสนอหรือบอกเล่าสินค้ายังสร้างความรู้สึกให้ผู้รับชมได้ดีกว่าข้อความอยู่แล้ว ยุคนี้วิดีโอนั้นมาแรงด้วย โดยเฉพาะวิดีโอสั้น มันอาจจะมีส่วนช่วยในการเพิ่มยอด Engagement ที่จะนำไปสู่การสร้างยอด Conversion ได้

9. ข้อมูลการันตีคุณภาพ/ รีวิวจากลูกค้า

วิธีเพิ่มความน่าเชื่อถือให้แบรนด์ สินค้าและบริการที่สามารถนำไปใส่ใน Landing Page ได้ก็คือ ข้อมูลการันตีที่เป็นเครื่องยืนยันถึงคุณภาพและความปลอดภัย รวมไปถึงรีวิวจากประสบการณ์จริงของลูกค้าที่เคยใช้สินค้าหรือบริการมาก่อน เช่น สินค้าและบริการได้รับเครื่องหมายการรับรองต่าง ๆ , การได้ร่วมงานกับแบรนด์ดัง

10. ตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออก

Landing Page ที่ดีคือการที่ภาพรวมนั้นไม่ควรอัดแน่น ชวนรู้สึกอึดอัดและไม่สบายตา และยังอาจทำให้เกิดความสับสนอีกด้วย ควรตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปบ้าง ง่ายต่อการอ่านและไม่ซับซ้อน

คุณกำลังต้องการเพิ่มยอดขายออนไลน์ให้ธุรกิจของคุณอยู่หรือไม่

ปรึกษาฟรี!

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้ของเรา

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับ
Manage Consent Preferences บันทึก