ปีใหม่ก็ถึงเวลาที่นักการตลาดและผู้ประกอบการทุกคนต้องมาอัปเดตเทรนด์ใหม่ทางฝั่ง Digital Marketing Trends 2023 กันแล้ว จะได้เตรียมตัวปรับกลยุทธ์ให้ทัน ไปดูกันว่ามีเทรนด์หรือประเด็นไหนที่เปลี่ยนไปจากปีที่แล้วหรือน่าจับตามองบ้างนะ
8 Digital Marketing Trends 2023
More Concern for Privacy
อย่างที่รู้กันดีว่าผู้บริโภคยุคใหม่นี้หวงข้อมูลส่วนตัวมากขึ้น รวมถึงแบรนด์ต่าง ๆ ก็เริ่มให้ความสำคัญในเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นเทรนด์แรกที่น่าจับตามองมากที่สุดใน Digital Marketing Trends 2023 ก็คงหนีไม่พ้นความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้น การเก็บข้อมูลแบบ Third-Party Cookies จะถูกลบออกจาก Google ภายในปี 2024 อันใกล้นี้ ทำให้บรรดานักการตลาดต้องหาแนวทางใหม่ในการเก็บข้อมูล ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะเปลี่ยนไปใช้ข้อมูลแบบ First-Party Data
โดยในปี 2023 เว็บไซต์ต่าง ๆ ต้องให้ตัวเลือกหรือแจ้งเตือนกับผู้ใช้งานว่าพวกเขาสามารถควบคุมข้อมูลที่ให้ไว้ได้ และข้อมูลจาก Think with Google พบว่าผู้ใช้ไว้ใจแบรนด์ที่มีให้ความสำคัญเรื่องการให้ข้อมูลที่เป็นส่วนตัวมากกว่าแบรนด์ทั่วไป นอกจากนี้ Jonny Protheroe นักวิจัยของ Google ยังบอกว่า ผู้บริโภคยินดีที่จะให้ข้อมูลเมื่อได้ทราบว่าข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำไปใช้ประโยชน์ในด้านการพัฒนาเว็บไซต์หรือแบรนด์ได้จริงและตรงไหนบ้าง
Omnichannel Marketing with MarTech
การตลาดแบบ Omichannel Marketing ผสมผสานกับเทคโนโลยี MarTech เป็นอะไรที่น่าจับตามองมาก ๆ ใน Digital Marketing Trends 2023 ถือว่าเป็นกุญแจสำคัญดอกหนึ่งเลยก็ได้ เพราะสามารถเข้าถึงลูกค้าได้ทุกช่องทางที่สามารถสร้างและรักษาความสัมพันธ์ของแบรนด์และลูกค้าได้ดีขึ้นมากกว่าเดิม ซึ่งมีหลากหลายวิธี ยกตัวอย่างเช่น
1. พัฒนาทีมขายและการตลาดเพื่อทำความเข้าใจ Journey ของลูกค้าผ่านช่องทางต่าง ๆ ให้ดีขึ้น
2. ใช้ประโยชน์จากมาร์เทคจากการใช้ Tools ต่าง ๆ ในทุกช่องทางของแบรนด์ที่มีมากขึ้น เพื่อเสริมความแข็งแกร่ง
3. ใช้ประโยชน์จาก Google Analytics ที่ใช้ข้อมูลตามเหตุการณ์
Target Demographic Shifts to ‘Gen Zs From Millennials’
Digital Marketing Trends 2023 ในฝั่งผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายหลักอย่าง Millennials จะถูกเปลี่ยนไปเป็นกลุ่มคน Gen Z เป็นหลักแทน เพราะปัจจุบัน Gen Z ถือเป็นกลุ่มใหญ่ของยุคดิจิทัล มีความก้าวหน้ามากกว่ากลุ่ม Millennials ดังนั้นสิ่งที่แบรนด์และนักการตลาดต้องหันมาให้ความสำคัญเรื่องกลุ่มเป้าหมายกลุ่มนี้คือ ความน่าเชื่อถือและความโปร่งใส เป็นสิ่งที่กลุ่ม Gen Z ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกก่อนตัดสินใจซื้อสินค้า มีข้อมูลจาก Statista ระบุว่า 45% ของกลุ่มคน Gen Z มีแรงจูงใจในการซื้อแบรนด์ที่สื่อสารด้วยความจริงใจและโปร่งใส
All Marketing is Digital Marketing
จากเดิมที่เราแบ่งการตลาดเป็น 2 ฝั่งคือออฟไลน์ดั้งเดิมกับออนไลน์ แต่ในอนาคต Digital Marketing Trends 2023 ทุกการตลาดจะกลายเป็น Digital Marketing ยกตัวอย่างเช่น เส้นแบ่งระหว่างการรับชมทีวีธรรมดาทั่วไปกับการรับชมแบบสตรีมมิ่งจะหายไป หรือเราอาจดูทีวีช่องดาวเทียมสม ๆ บนอุปกรณ์สมาร์ทโฟนหรือพีซีก็ได้
The Internet Everywhere and on Everything
IoT หรือ Internet of Thing เป็นเทรนด์ที่ถูกพูดถึงมานานหลายปี ซึ่งใน Digital Marketing Trends 2023 มันกำลังจะกลายเป็นเทรนด์ที่น่าจับตาดูเป็นพิเศษ จากนวัตกรรมต่าง ๆ ที่ถูกคิดค้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภคมากขึ้นอย่างลำโพงอัจฉริยะ สมาร์ททีวี สมาร์ทวอทช์และอีกมากมายที่เป็นที่ต้องการมากขึ้นเรื่อย ๆ ผู้คนจะคุ้นชินกับเทคโนโลยีที่ใช้เวียงมากขึ้น และยิ่งไปกว่านั้นในอนาคตมันจะสามารถทำงานให้มนุษย์ให้หลากหลายกว่าเดิมโดยอาจอิงจากพฤติกรรมหรือบริบทของคน
ส่วนในแง่ของการตลาด เทคโนโลยีบนอุปกรณ์ยุคใหม่จะสามารถเก็บข้อมูลต่าง ๆ มาให้บริษัทได้ใช้โประโยชน์อย่างแน่นอน ทั้งการปรับปรุงความสามารถของอุปกรณ์และพัฒนากลยุทธ์ทางด้านการตลาดของแบรนด์ ทำข้อเสนอดี ๆ ที่ถูกใจลูกค้าอีกด้วย
Higher adoption of Phygital Marketing Campaigns
ผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้การจับจ่ายซื้อของบนโลกออนไลน์เติบโตขึ้นมากและส่งผลไปยังพฤติกรรมผู้บริโภคที่ต้องปรับตัวตาม แต่ปัจจุบันแม้ว่าพวกเขาจะเคยชินกับการซื้อของออนไลน์ แต่จากการสำรวจผลิตภัณฑ์และบริการออนไลน์พบว่ามีบางคนที่เริ่มกลับมาซื้อของหน้าร้านด้วย โดยเฉลี่ยแล้วการซื้อขายออนไลน์เพิ่มขึ้นจาก 10.3% ในปี 2019 เป็น 14.9% ในช่วงที่โควิดแพร่ระบาด แต่จากนั้นก็ลดลงเหลือ 12.2% ในปี 2021 นั่นแปลว่าหลังจากสถานการณ์ดีขึ้น มีการผ่อนคลายมาตราการ ผู้คนก็เริ่มออกไปจับจ่ายนอกบ้าน ซื้อของจากหน้าร้านมากขึ้น เพราะสามารถจับต้องหรือลองสินค้าได้มากกว่าซื้อออนไลน์
ดังนั้น Digital Marketing Trends 2023 แบรนด์จะเริ่มกลับมาใช้แคมเปญการตลาดเชิงกายภาพ หรือ Phygital มากขึ้น เพื่อเชื่อมต่อกับผู้บริโภคให้ครอบคลุมทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ เช่น สแกน QR Code จะได้สิทธิพิเศษแต่ต้องไปรับที่หน้าร้านเท่านั้น หรือสแกน QR Code ในเว็บไซต์ของร้านจะสามารถเข้าถึงสินค้าใหม่ที่วางขายในร้านได้ก่อนเป็นต้น
อีกหนึ่งตัวอย่างที่ดีคือ Amazon Go ที่อเมริกาให้ลูกค้าสามารถสแกน QR Code ในสมาร์ทโฟนเพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าร้าน เลือกสินค้าแล้วออกจากร้านได้เลย โดยจะจ่ายเงินผ่านการถูกเรียกเก็บเงินแบบตัดผ่านบัตรเครดิตหรือบัญชีธนาคารที่ผูกไว้ในแอป Amazon Go ง่ายและสบายสุด ๆ ไม่ต้องต่อคิวจ่ายเงินให้เสียเวลา
More Content Creators Than Influencers
Digital Marketing Trends 2023 แบรนด์และนักการตลาดจะให้ความสำคัญกับนักสร้างสรรค์คอนเทนต์ (Content Creator) มากกว่าอินฟลูเอนเซอร์ แต่การตลาดที่ใช้เหล่าอินฟูลเอนเซอร์จะยังไม่ได้หายไปในตอนนี้ แค่ลดลงเท่านั้นเอง เพราะเริ่มมีหลายเคสที่ทำให้เห็นว่าเลือกอินฟลูเอนเซอร์ผิดชีวิตเปลี่ยน!
นักการตลาดจึงมุ่งไปที่นักสร้างสรรค์คอนเทนต์เฉพาะกลุ่มมากกว่าที่สร้างสรรค์คอนเทนต์ไม่ซ้ำซากจำเจ แม้ว่าจำนวนผู้ติดตามของพวกเขาจะน้อยนิดก็ไม่เป็นไร ยกตัวอย่างที่เห็นภาพชัด ๆ เลยคือกลุ่มไมโครอินฟลูฯ บน TikTok ถูกจ้างงานกันมากขึ้น เพราะแบรนด์ตระหนักได้ว่ากุญแจสำคัญคือแทนที่จะจ้างอินฟลูที่มียอดติดตามเยอะก็หันมาจ้างอินฟลูเบอร์เล็กแต่มีผู้ติดตามที่มีคุณภาพและตรงความสนใจจริง ๆ และเน้นช่องทางที่มีกลุ่มเป้าหมายใช้จริงดีกว่า
Faster Convergence of Creativity and Analytics in Marketing Automation
ไม่ใช่แค่การทำผลงานที่สร้างสรรค์เพียงอย่างเดียวที่จะช่วยให้บแรนด์เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น แต่ยังมีประกอบอื่นเข้ามาร่วมด้วยจะช่วยเพิ่มศักยภาพยิ่งขึ้นอย่าง Tools ที่เข้ามาช่วยวิเคราะห์หลังบ้านที่เร็วกว่าเดิม ปัจจุบันจึงมีโซลูชันมากมายที่เข้ามาช่วยในจุดนี้ เพื่อช่วยให้ทั้งแบรนด์และนักการตลาดสามารถวิเคราะห์และครีเอทผลงานที่สร้างสรรค์ได้เร็วกว่าเดิม
อ้างอิง https://contentshifu.com/pillar/digital-marketing-101
