เช่นเดียวกับการทำการตลาดทั่วไป Content Marketing ก็ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคของดิจิทัล ซึ่ง Content Marketing ได้กลายเนสิ่งสำคัญของการสร้างแบรนด์และสร้างโอกาสในการขายในปัจจุบันแล้ว ดังนั้น ด้วยเทคโนโลยีต่างๆ ที่พัฒนามากขึ้น เพื่อให้เราสามารถเข้าใจดาต้าและความต้องการของผู้บริโภค ดังนั้น การอัปเดทเทรนด์ในการทำ Content Marketing จึงสำคัญอย่างยิ่งสำหรับนักการตลาดและครีเอเตอร์
ดังนั้น ลองมาดูกันว่าเทรนด์ของการทำ Content Marketing ในปีหน้ 2022 มีอะไรบ้าง
Trend #1: Personalized Content การทำให้เนื้อหามีความเป็นเฉพาะบุคคล
ปัจจุบันผู้บริโภคมีความฉลาดมากขึ้น ดังนั้น วิธีในการสื่อสารจึงมีความซับซ้อนในการที่เราจะพูดในระดับบุคคล ซึ่งสิ่งนี้สำคัญมาก เพราะจะมีความคาดหวังว่าคอนเทนต์หรือข้อความที่ส่งมาจะถูกดัดแปลงให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคคนนั้นๆ มากกว่าสื่อสารแบบหว่านแหออกไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำให้ข้อความนั้นเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เขาต้องการจะซื้อ
ที่สำคัญคือ การทำให้ข้อเสนอนั้นเป็นส่วนบุคคล หรือ Personalization สำหรับคนๆ นั้น จะทำให้คุณได้เปรียบในการแข่งขัน ด้วย ทั้งนี้ มีผลสำรวจที่ระบุว่า การทำคอนเทนต์ให้มีความ Personalized จะช่วยเพิ่มยอดการขายได้ถึง 20% เมื่อแบรนด์เลือกที่จะใช้การทำ Personalized Content นอกจากนี้ 92% ยังระบุว่า นักการตลาดตระหนักดีถึงการผลลัพธ์ที่เพิ่มขึ้นของการทำการตลาดแบบ Personalized Marketing
อย่างไรก็ตาม Personalization ส่วนใหญ่ก็ต้องอาศัย Data ด้วย ดังนั้น ยิ่งถ้าคุณมี Data ของลูกค้ามากเท่าไหร่ก็จะสามารถทำให้ข้อความที่ส่งออกไปมีความหมายมากยิ่งขึ้น ซึ่ง Data ที่จำเป็น อาทิ ข้อมูล demographics ทั่วไป เช่น เพศ อายุ, ความสนใจ เป็นต้น ทั้งนี้ ข้อมูลที่จะรวบรวมได้ มาจากหลายแหล่งด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น First Party, Second Party หรือได้มาจาก Third Party ก็ได้เช่นกัน
Trend 2: แบรนด์จะเน้นการทำคอนเทนต์ที่ Niche มากขึ้น
อย่างที่เกริ่นตอนต้นว่าเป็นเรื่องยากมากขึ้นทุกที ในการทำคอนเทนต์ ดังนั้น หลายธุรกิจหรือแบรนด์ก็เลือกที่จะไม่ทำเนื้อหาทั่วๆ ไป หรืออะไรที่มีความคล้ายคลึงกัน แต่เริ่มที่จะทำอะไรที่มีความเฉพาะทางเฉพาะกลุ่มมากขึ้น หรือที่เรีกว่า Niche Content นั่นเอง ไม่เพียแค่นั้น ยังสามารถดึงดูดผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายที่มีความสนใจที่เฉพาะเจาะจงตรงกับแบรนด์หรือโปรดักส์ได้มากขึ้นอีกด้วย ซึ่งพบว่าการทำคอนเทนต์ที่ตรงกับความสนใจของผู้บริโภค ที่ยิ่งแคบลง หรือแยกย่อย Segmentation ลงไปจะได้รับความสนใจและสร้างเอ็นเกจเมนต์ให้กับแบรนด์ได้มากกว่า คอนเทนต์แบบกว้างๆ ซึ่งเทรนด์นี้ค่อยเติบโตอย่างมีนัยยะ ซึ่งเป็นโอกาสอันดีของครีเอเตอร์หน้าใหม่ที่มีความสนใจเฉพาะทางด้วย
Trend #3: การเติบโตของ Voice Search ส่งผลต่อ Content Marketing
เทรนด์ที่น่าสนใจในปีหน้า ถึงแม้จะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ก็เห็นแนวโน้มที่จะเติบโตมากขึ้นทุกทีนั้นคือ Voice Search เป็นการถามคำถามผ่านเทคโนโลยี Digital Assistant โดยไม่จำเป็นต้องใช้หน้าจอสมาร์ทโฟนหรือเครื่องพีซี ทั้งนี้ ยังพบว่าบัญชีการใช้ Voice search เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 20% ของการค้นหาทั้งหมด
ด้วยการเติบโตที่เพิ่มขึ้นนี้ เป็นแนวโน้มที่น่าสนใจและจะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทิศทางการทำ Content เพราะวิธีในการพูดนั้นไม่สอดคล้องกับวิธีการเขียน ดังนั้น เพื่อให้สอดรับกับอุปกรณ์ที่ใช้งานจึงจำเป็นต้องปรับเนื้อหาให้เข้ากับการค้นหา โดยเฉพาะเรื่องของการค้นหาตามภาษา ซึ่งหมายความรวมถึงคำถามและคำตอบด้วย
Trend #4: เนื้อหาที่หลากหลายนําผู้ชมใหม่เข้ามา
เป็นใครก็คงไม่อยากเข้าเว็บหรืออ่านคอนเทนต์ของคุณแน่หากรูปแบบการนำเสนอยังเป็นแบบเดิมๆ อยู่ ซึ่งอันที่จริงแล้วประเภทของคอนเทนต์นั้นมีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น วิดีโอ ภาพ Meme อินโฟกราฟฟิก หรือแม้แต่เสียงอย่างเดียวแบบพอดแคสต์ ฯลฯ
ดังนั้น เมี่อมีทางเลือกตัวเลือกมากมายของผู้ชม จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากผู้ชมนั้นจะเบื่อในการนำเสนอรูปแบบเดิมๆ ซึ่งในอนาคตปีหน้าก็จะมีความท้าทายมากขึ้นของคนทำคอนเทนต์ที่จะต้องผลิตเนื้อหาและมีรูปแบบที่หลากหลายด้วย เพื่อให้สอดรับกับความต้องการและความสนใจของผู้ชม และมากไปกว่านั้นยังสามารถดึงผู้ชมหน้าใหม่ๆ เข้าสู่เว็บไซต์หรือติดตามคอนเทนต์ได้ด้วย
Trend #5: การตลาดแบบอินฟลูเอนเซอร์ปรับรูปแบบไป
ปฏิเสธไม่ได้ว่า การตลาดแบบ Influencer Marketing เติบโตมากขึ้นทุกที และที่สำคัญคือให้ผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยมอีกด้วย ทั้งนี้ Nielsen พบว่าของผู้ซื้อไว้วางใจคําแนะนําแบบส่วนบุคคลมากกว่าจากแบรนด์
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าตอนนี้เทรนด์มันจะเปลี่ยนไป จากการที่เน้นในเชิงปริมาณมาสู่การเน้นเรื่องคุณภาพมากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของคุณภาพคอนเทนต์ที่ได้จากเหล่า Influencer ซึ่งทวีความสำคัญมากขึ้นทุกที ผู้ชมรู้ดีว่า Influencer นั้นร่วมงานกับแบรนด์ แต่วิธีการในการทำงานที่มีคุณภาพหรือนำเสนอตรงตามความจริง จะเป็นบทพิสูจน์ต่อไปว่า Influencer คนดังกล่าวน่าเชื่อถือหรือไม่
ดังนั้น แบรนด์ส่วนใหญ่ก็จะเลือกร่วมงานกับ Influencer ที่มีความน่าเชื่อถือและเป็นที่ไว้ใจต่อผู้ชมและผู้ติดตาม สิ่งนี้จะทำให้แคมเปญก่ารตลาดในอนาคตเริ่มเปลี่ยนไปเน้นคุณภาพมากขึ้น การผลิตคอนเทนต์เพื่อตอบโจทย์แบรนด์อย่างเดียวอาจไม่ใช่อีกต่อไป แต่ขณะเดียวกันแบรนด์เองก็ต้องการความคุ้มค่าและมั่นใจได้ว่าสิ่งที่ลงทุนไปนั้นเทิร์นกลับมาได้แน่ ดังนั้น แม้ว่า Influencer Marketing ไม่ได้หายไปแต่จะวิวัฒนาการให้ถูกใจตอบโจทย์ทั้งแบรนด์และผู้บริโภคทั้งสองฝ่ายเลย
Trend #6: Live Video เทรนด์ฮิตข้ามปี
เป็นที่ชัดเจนอยู่แล้วว่า แบรนด์ใช้วิดีโอในการสร้าง Content Marketing เป็นส่วนใหญ่ นั่นจึงยิ่งทำให้ วิดีโอเป็นเครื่องมืออันทรงพลังทางด้านการตลาด แต่ยิ่งดีก็ยิ่งทำกันเยอะ นั่นจึงทำให้โอกาสที่ผู้ชมจะเห็นคอนเทนต์ของเรายากมากขึ้น ดังนั้น จะทำอย่างไรที่สร้างโอกาสในการที่จะทำให้ผู้ชมเห็นคอนเทนต์ของคุณมากขึ้น ซึ่งพบว่า “Live Video” ซึ่งเป็นหมวดหมู่ย่อยของวิดีโอนั้น ได้รับความสนใจจากผู้ชมมากขึ้นในปัจจุบัน โดยเฉพาะในประเทศไทย
Live Video เป็นช่องทางโอกาสให้กับแบรนด์ การไลฟ์สตรีมสดจากร้าน หรืองานแสดงสินค้าต่างๆ ก็จะเรียกความสนใจได้ เพราะจะสร้างความรู้สึกการมีส่วนร่วมจากผู้ค้าถึงคนซื้อได้ง่าย ให้ประสบการณ์เหมือนเดินอยู่ในร้านได้เลยแม้ว่าคนซื้อคนขายจะอยู่กันคนละที่ก็ตาม ดังนั้น เชื่อว่านับจากปีนี้ที่ฮ็อตมาก ปีหน้าก็ยังเชื่อว่าเทรนด์ Live Video ก็ยังร้อนแรงอยู่อย่างต่อเนื่อง
Trend #7:: Interactive Content สร้างบทสนทนาแบบ 2 ทาง
ด้วยวิถีชีวิตที่เร่งรีบมีเวลาน้อยอีกทั้งยังต้องเรียความสนใจได้ในเวลาอันสั้น ทำให้การทำคอนเทนต์เพื่อดึงดูดความสนใจผู้บริโภคยากมากขึ้น ดังนั้น ปัจจุบันจึงเห็นหลายแบรนด์หันมาทำ Interactive Content มากขึ้น เพื่อสร้างความประทับใจและดึงดูดสายตาให้กับผู้บริโภคได้และทำให้เกิดเอ็นเกจเมนต์เพิ่มขึ้นได้ง่ายด้วย
Interactive Content เป็นหัวใจสําคัญในการสนทนาแบบสองทาง (Two-way conversations) และกระตุ้นให้ผู้ชมมีส่วนร่วมในคอนเทนต์ แทนที่จะเสพย์คอนเทนต์ไปนิ่งๆ เรื่อยๆ จนจบ คอนเทนต์ประเภทนี้ เช่น เกมควิกซ์, บททดสอบ, โพลล์, หรือเซอร์เวย์ ที่ช่วยให้ผู้บริโภคได้รับผลลัพธ์หรือข้อมูลเชิงลึกที่ปรับให้เหมาะสมในหัวข้อที่พวกเขาสนใจ หรือสร้างชาเลนจ์ท้าทายให้ผู้ชมได้มีส่วนร่วมและรู้สึกสนุกไปกับคอนเทนต์ของเรา ซึ่งปัจจุบันก็มีหลายแบรนด์นำเทคโนโลยีมาใช้ร่วมด้วย เช่น การชมคลิปแบบ 360 องศา การรับชมแบบโลกเสมือนจริง VR รวมไปถึงเทรนด์ล่าสุดกับ Metaverse ที่ร้อนแรงมากและจะเป็นเทรนด์ที่เกิดขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน
Trend #8: กลยุทธ์ AI พลังขับเคลื่อน Content Marketing
Content Marketing ที่ขับเคลื่อนด้วย AI อาจเป็นแนวโน้มที่ใหญ่ที่สุดและจะเป็นตัวเปลี่ยนเกมในยุคดิจิทัลอย่างมาก ในการสร้างคอนเทนต์ที่สามารถทำให้ Machine เรียนรู้ความสนใจของผู้บริโภคได้นั้น จะได้รับความสนใจมากขึ้น เพราะไม่เพียงแต่จะดึงผู้ชมเข้าสู่เว็บของคุณแล้ว โอกาสที่จะทำให้ Search Engine อย่าง Google จัดลำดับเราอยู่ด้านบน และสร้างพลังให้ SEO ผ่านการใช้ AI จะเป็นเทคนิคสำคัญในอนาคตบนการแข่งขันที่ดุเดือดของการสร้างคอนเทนต์และธุรกิจ ดังนั้น การเรียนรู้เรื่อง AI เป็นสิ่งที่ทั้งนักการตลาดและแบรนด์ต้องศึกษาและเรียนรู้ให้ดี เพราะสิ่งนี้จะกลายเป็นทั้งปัจจุบันและอนาคตของคุณอย่างแน่นอน
ทั้งหมดนี้เป็นเทรนด์ใหม่ที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอนในปีหน้า ที่แบรนด์ นักการตลาด และครีเอเตอร์ ไม่ควรพลาด แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีเทรนด์และกระแสความนิยมใหม่ๆ เกิดขึ้นเสมอ ดังนั้น นอกเหนือจากทั้ง 8 เทรนด์ โลกเปลี่ยนไวอย่างที่เราคาดไม่ถึง ดังนั้น ทุกความเคลื่อนไหวจึงเป็นสิ่งที่เราควรเฝ้ามองและติดตามให้ดี ซึ่ง Digimarketeers เราจะมาคอยอัปเดทให้คุณเสมอ.
