Brand Differentiation

Brand Differentiation สร้างความต่างให้โดดจากสินค้าแบบเดียวกัน

Digimusketeers, 29 November 2022

เดี๋ยวนี้ไม่ว่าจะทำสินค้าอะไรออกมาก็มีการแข่งขันทางการตลาดสูงมาก ถ้านั่นไม่ใช่สินค้าใหม่ที่ไม่เคยมีใครทำในตลาดมาก่อน แบรนด์ต่างก็รู้ดีว่าสงครามในการแข่งขันนั้นช่างดุเดือด โดยเฉพาะแบรนด์ที่มีสินค้าเดียวกันกับแบรนด์อื่นหลายเจ้า ถ้ากลยุทธ์การตลาดไม่แข็งแกร่งพอ…คุณก็จะอยู่ในสนามแข่งได้ไม่นานนัก

แต่มันก็มีอีกกลยุทธ์หนึ่งที่อาจจะช่วยให้แบรนด์นั้นโดดเด่นจากสินค้าประเภทเดียวกันในท้องตลาดได้ เรียกว่าเป็นการสร้างสปอร์ตไลท์ให้แบรนด์ได้แสงที่สว่างกว่าคนอื่น นั่นก็คือการทำ Brand Differentiation ที่จะช่วยให้แบรนด์โดดเด่นเหนือคู่แข่งได้ ไปทำความรู้จักกับกลยุทธ์นี้กันเลย

 

Brand Differentiation คือ

Brand Differentiation คืออะไร

Brand Differentiation หนึ่งในกลยุทธ์ที่เหมาะกับแบรนด์ที่มีการแข่งขันทางการตลาดสูง โดยเฉพาะในแบรนด์ที่มีสินค้าเหมือนกับแบรนด์คู่แข่งที่หลายเจ้าในตลาด มีชื่อเรียกสั้น ๆ ว่า ‘กลยุทธ์สร้างความแตกต่าง’ ความหมายก็คือการสร้างความแตกต่างให้แบรนด์จนทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่าแบรนด์โดดเด่นกว่าเจ้าอื่นจนสามารถเข้าไปอยู่ในใจของพวกเขาได้ ท่ามกลางตัวเลือกที่มากมายในตลาด ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการของแบรนด์ กระตุ้นการซื้อในสภาวะตลาดอิ่มตัว รักษาฐานลูกค้าเก่า ควบคู่ไปกับขยายฐานลูกค้าใหม่ได้ไปด้วย

ซึ่งแบรนด์สามารถใช้กลยุทธ์ Brand Differentiation เพื่อเฉิดฉายในสมรภูมิรบได้ โดยคำนึงถึง 5 ปัจจัยนี้เป็นส่วนประกอบ

1. Product 

ตัวผลิตภัณฑ์ คือการสร้างความแตกต่างในด้านคุณสมบัติของสินค้าหรือบริการให้โดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นประโยชน์ที่จะได้รับ ความคงทน ความน่าเชื่อถือหรือการซ่อมแซมสินค้าในรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะแบรนด์ และยากที่แบรนด์อื่นจะลอกเลียนแบบได้ 

2. Service

บริการ เป็นการสร้างจุดเด่นในด้านการบริการไม่แตกต่าง ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการสั่งสินค้า การส่งสินค้า การติดตั้ง การให้คำปรึกษา การรับคืนสินค้า รวมถึงบริการหลังการขายที่สุดแสนพิเศษกว่าเจ้าอื่นในตลาด และอีกมากมาย 

3. Personnel

การที่เจ้าของธุรกิจมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการสร้างบุคลากรคุณภาพในองค์กรให้ดีกว่าคู่แข่งในตลาด ทั้งพัฒนาเรื่องความสามารถ ความสุภาพ อ่อนน้อม ความเป็นมิตร ความน่าเชื่อถือ การให้บริการลูกค้าด้วยรอยยิ้มและจริงใจ รวมถึงการตอบรับในเรื่องคำร้องเรียนให้แก้ปัญหาที่ลูกค้าพบเจอได้ดี และทำให้ลูกค้ารู้สึกประทับใจมากกว่าเมื่อเทียบกับการไปใช้บริการแบรนด์คู่แข่ง

4. Channel

ช่องทางการจัดจำหน่ายที่ดีกว่าแบรนด์คู่แข่ง เช่น มีการช่องทางจัดจำหน่ายที่หลากหลาย คลอบคลุมกับลูกค้าที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย การการันตีในการจัดส่งที่รวดเร็ว การได้รับสินค้าแบบไม่เสียหายในระหว่างการขนส่ง หรือการจัดโปรโมชันสำหรับการจัดส่งสินค้า

5. Image

ภาพลักษณ์ เป็นการสร้างความแตกต่างในเรื่องของภาพลักษณ์ของสินค้าและบริการของแบรนด์ เช่น เน้นภาพลักษณ์ที่ดีและเหมาะสมกับสินค้าแบรนด์ อย่างขายรถยนต์หรู หรือกระเป๋าแบรนด์เนม

 

สร้าง Brand Differentiation

เทคนิคการสร้าง Brand Differentiation

หลังจากดูเรื่องปัจจัยแล้ว ถัดมาที่ต้องดูไปคู่กันก็คือเทคนิคการสร้าง Brand Differentiation ให้แบรนด์คุณโดดเด่นจากแบรนด์คู่แข่งแบบขาดลอย

1. Innovator

Innovator หรือ นวัตกร คือคนที่เป็นผู้ริเริ่มสิ่งใหม่เป็นคนแรก ไม่ว่าจะเป็นนักค้นคว้าพัฒนาสินค้า บริการ การออกแบบ หรือผู้ริเริ่มแนวคิดใหม่ ถ้าแบรนด์สามารถทำได้ก็แน่นอนว่าเป็นเรื่องยากที่กว่าคู่แข่งคนอื่นจะลอกเลียนได้ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการรีเสิร์ช การศึกษาวิจัยเรื่องต่าง ๆ เพื่อทำความเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง แบรนด์ที่สามารถนำนวัตกรรมใหม่ ๆ ออกสู่ตลาดได้เป็นเจ้าแรกก็มักจะประสบความสำเร็จและโดดเด่นได้เร็วกว่าเจ้าอื่น

2. แก้ปัญหาเฉพาะของลูกค้าได้

อีกหนึ่งเทคนิคในการสร้าง Brand Differentiation ให้เวิร์กก็คือการที่แบรนด์สามารถแก้ปัญหาเฉพาะของลูกค้าได้ เช่น ลูกค้าสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการออกแบบสินค้าด้วยตัวเองได้ การเลือกไซซ์ตามสัดส่วนของตัวเองได้ทุกตารางนิ้ว หรือการที่แบรนด์ออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์กับกลุ่มลูกค้าแบบ Personalized เพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าของแบรนด์ได้มากกว่าคู่แข่ง

3. การตั้งราคาที่ชนะคู่แข่ง

การงัดกลยุทธ์การตั้งราคาที่สามารถเอาชนะคู่แข่งได้ เช่น หากสินค้าแบรนด์อาจไม่สามารถเอาชนะคู่แข่งได้ เลยเลือกกำหนดราคาที่ต่ำลงมา เน้นขายได้เยอะกว่าการได้กำไร อาจจะทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่าคุ้มค่าที่จะจ่ายเงินให้แบรนด์คุณมากกว่าคู่แข่ง จนเป็นขวัญใจในตลาดสินค้าก็ได้ 

4. Emotional Marketing

การเน้นสร้างประสบการณ์ที่ดี สร้างความประทับใจขั้นสุดให้กับลูกค้าได้ก็เป็นอีกเทคนิคในการสร้าง ได้นะ ยกตัวอย่างเช่นแบรนด์น้ำอัดลมสุดโด่งดัง Coca-Cola ที่เน้นเรื่องความสุข ความสดชื่นให้ลูกค้าได้ หรือแบรนด์ Nike ที่มีสโลแกนว่า ‘Just do it’ ที่กระตุ้นให้ลูกค้ารู้สึกว่าซื้อสินค้าแล้วเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ยิ่งใหญ่ไปด้วยกันกับแบรนด์ 

5. การบริการลูกค้าที่ไม่เหมือนใคร

ยุคนี้ผู้บริโภคนั้นให้ความสำคัญในเรื่องการบริการมากกว่าเมื่อก่อน แบรนด์ที่สามารถพิชิตใจพวกเขาได้จากการบริการลูกค้าที่รู้สึกว่าโดดเด่นจากคู่แข่งก็จะสามารถทำให้กลายเป็นผู้ภักดีในแบรนด์ได้อีกด้วย แต่จะสร้างได้แบรนด์ต้องเทรนพนักงานให้ได้ตามจุดขายที่ต้องการได้ด้วยนะ 

6. Visual Identity

เป็นสื่อกลางในการถ่ายทอดแบรนด์ไปสู่สายตาของตลาดและลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นชื่อแบรนด์ ภาพลักษณ์ การออกแบบดีไซน์ การใช้สี การวางตำแหน่งที่จะต้องมีความเชื่อมโยงถึงแบรนด์ด้วย ไม่ใช่แค่สร้างเพื่อความสวยงาม สิ่งเหล่านี้ก็สามารถสร้างความโดดเด่นและแตกต่างให้กับแบรนด์ได้เช่นกัน

 

หากคุณเป็นแบรนด์ที่มีการแข่งขันทางการตลาดที่สูงและมีแบรนด์คู่แข่งที่ทำสินค้าเหมือนกันเยอะ ลองนำเอาเทคนิค Brand Differentiation ไปใช้ได้นะ ทำให้แบรนด์แตกต่างและอยู่เหนือคู่แข่งให้ได้

คุณกำลังต้องการเพิ่มยอดขายออนไลน์ให้ธุรกิจของคุณอยู่หรือไม่

ปรึกษาฟรี!

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้ของเรา

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับ
Manage Consent Preferences บันทึก