ยุคหลังโควิด-19 การแข่งขันในโลกของการตลาดออนไลน์นั้นเข้มข้นมากขึ้น ผู้ประกอบการเบอร์ใหญ่ หรือเบอร์เล็กต่างก็พยายามทำการตลาดและเฟ้นหากลยุทธ์ที่เข้าถึงลูกค้าของตัวเองได้ง่ายและไวขึ้น พร้อมทั้งต้องคอยปรับตัวให้ตามกับกระแสของผู้บริโภคอยู่เสมอ เมื่อพฤติกรรมของพวกเขานั้นเปลี่ยนไปอยู่ทุกปี ซึ่งในปีนี้การใช้ Influencer มาทำการตลาดกลายเป็นกลยุทธ์ที่เหมาะกับผู้บริโภคยุคนี้ เพราะพวกเขามักตัดสินใจซื้อจากข้อมูล หรือรีวิวในโลกออนไลน์มากกว่า ถือเป็นโอกาสของแบรนด์ที่ทำการตลาดแบบเจาะกลุ่มลูกค้า หรือ Niche Marketing แล้ว
เนื่องจากในอนาคตมีแนวโน้มว่าครีเอเตอร์และอินฟลูเอนเซอร์จะสามารถช่วยเจาะตลาดแบบเฉพาะกลุ่มได้ หรือเป็นผู้นำในตลาดคอนเทนต์ของ Niche Marketing ได้ บวกกับการทำ Niche Marketing ในปัจจุบัน ไม่จำเป็นที่จะต้องขึ้นอยู่กับการขายสินค้าและบริการเท่านั้น แต่ยังเหมาะกับการใช้ควบคู่ไปกับ Influencer Marketing ในการเจาะกลุ่มตลาดส่วนน้อย และยังช่วยเป็นใบเบิกทางให้ทำงานร่วมกับแบรนด์ได้อีกด้วย เป็นกลยุทธ์คู่หูที่ดูจะเวิร์กกับตลาดส่วนน้อยสุด ๆ แบรนด์ควรลองเอาไปใช้ ไปดูกันว่าการใช้ Niche Marketing คู่กับครีเอเตอร์ หรืออินฟลูเอนเซอร์ มีข้อดีอย่างไร
Niche Marketing คือการตลาดแบบไหน ?
การเน้นเลือกลูกค้าเฉพาะกลุ่มเป็นการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ หลายบริษัทต่างก็หันมาให้ความสำคัญกับ Niche Market มากขึ้น เพราะตอบสนองผู้บริโภคได้ดีกว่าคู่แข่งที่กำหนดกลุ่มเป้าหมายแบบกว้าง ยิ่งถ้าแบรนด์ของคุณเป็นแบรนด์น้องใหม่ อยากเปิดตลาด การจำกัดฐานลูกค้าให้แคบลงเพื่อตอบสนองความต้องการแบบเฉพาะกลุ่มจะทำให้แบรนด์สร้างฐานลูกค้าได้ง่ายขึ้น และยังใช้ทุนที่มีอยู่อย่างจำกัดสร้างผลลัพธ์ให้ได้มากที่สุด ซึ่งยุคแห่งโลกออนไลน์แบบนี้การใช้กลยุทธ์ Niche Marketing ควบคู่ไปกับกลยุทธ์ Influencer Maketing ก็จะเข้าให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ไวขึ้น และอาจจะได้ยอดขายกลับมาได้ดีอีกด้วย อย่างที่เราได้บอกไปข้างต้นว่าในปัจจุบันและอนาคตข้างหน้าเหล่าครีเอเตอร์จะเป็นกลยุทธ์หลักที่เจาะ Niche Market ได้ดีมาก ๆ
ทำไมต้องใช้กลยุทธ์ Niche Marketing กับอินฟลูเอนเซอร์
การเน้นเลือกลูกค้าเฉพาะกลุ่มเป็นการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ หลายบริษัทต่างก็หันมาให้ความสำคัญกับ Niche Market มากขึ้น เพราะตอบสนองผู้บริโภคได้ดีกว่าคู่แข่งที่กำหนดกลุ่มเป้าหมายแบบกว้าง ยิ่งถ้าแบรนด์ของคุณเป็นแบรนด์น้องใหม่ อยากเปิดตลาด การจำกัดฐานลูกค้าให้แคบลงเพื่อตอบสนองความต้องการแบบเฉพาะกลุ่มจะทำให้แบรนด์สร้างฐานลูกค้าได้ง่ายขึ้น และยังใช้ทุนที่มีอยู่อย่างจำกัดสร้างผลลัพธ์ให้ได้มากที่สุด ซึ่งยุคแห่งโลกออนไลน์แบบนี้การใช้กลยุทธ์ Niche Marketing ควบคู่ไปกับกลยุทธ์ Influencer Maketing ก็จะเข้าให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ไวขึ้น และอาจจะได้ยอดขายกลับมาได้ดีอีกด้วย อย่างที่เราได้บอกไปข้างต้นว่าในปัจจุบันและอนาคตข้างหน้าเหล่าครีเอเตอร์จะเป็นกลยุทธ์หลักที่เจาะ Niche Market ได้ดีมาก ๆ
หา Niche Marketing ให้แบรนด์อย่างไร ?
การเริ่มเจาะตลาด Niche Market นั้นไม่ใช่เรื่องที่จะทำกันง่าย ๆ ต้องวิเคราะห์หลายปัจจัย หากทำลึกเกินไปก็อาจทำให้กลุ่มเป้าหมายที่ได้มีขนาดใหญ่ไม่พอที่จะสร้างตัวตนขึ้นมาได้ แต่หากทำกว้างเกินไปก็จะกลายเป็นการเจาะตลาดแมสแทน เรามีคำแนะนำสำหรับแบรนด์ในการเริ่มหาตลาด Niche โดยหาสิ่งเหล่านี้ให้ได้ก่อนคือ
- วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย อาจจะกำหนดจากการแบ่งกลุ่มลูกค้าจากข้อมูลประชากร, หลักจิตวิทยา, พฤติกรรม หรือตามกลุ่มราคาสินค้า
- จำกัดคู่แข่ง
- จำกัดการทำคอนเทนต์ให้เฉพาะเจาะจงมากขึ้น
- มองภาพและวาดฝันอนาคตแบรนด์ในตลาด Niche
- อย่ากลัวที่จะทดลอง
ข้อดีของกลยุทธ์คู่ Niche Marketing และ Influencer Marketing
การแข่งขันน้อยกว่า
การทำคอนเทนต์ประเภท Niche Marketing หรือคอนเทนต์ที่เจาะคนเฉพาะกลุ่มนั้นมีคู่แข่งในตลาดน้อยลงแน่นอนอยู่แล้ว เพราะธุรกิจของคุณต้องมีความเชี่ยวชาญในระดับที่เฉพาะทาง ซึ่งทำให้แบรนด์ระบุกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายและชัดเจนมากขึ้น และยังสามารถกำหนดตลาด ออกนอกกรอบในการคิดหรือการทำคอนเทนต์ได้มากขึ้น
ในส่วนของการสื่อสาร ด้วยความที่เป็นกลุ่มเฉพาะ แบรนด์จึงสามารถสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายได้โดยตรง เพียงแต่ต้องรู้ว่ากลุ่มเป้าหมายของตัวเองอยู่ที่ไหน พฤติกรรมการรับสารเป็นอย่างไร เพื่อปรับคอนเทนต์ให้ตรงกับความสนใจของพวกเขาเหล่านั้น
ฐานแฟนน้อยแต่แน่น
การทำ Niche Marketing ควบคู่กับครีเอเตอร์ไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง แบรนด์ต้องคำนึงถึงมุมมองของผู้รับสารเป็นพิเศษ เพราะครีเอเตอร์คือคนที่รู้จักตัวตนของกลุ่มเป้าหมายได้ดี และยังทำให้รู้สึกถึงความพิเศษด้วยการทำคอนเทนต์ที่ตอบทุกความสงสัยของกลุ่มเป้าหมาย เช่น คำถาม ทริค How-to หรือความบันเทิง เพื่อให้เชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างลึกซึ้ง
แบรนด์อยากได้ครีเอเตอร์ที่เจาะกลุ่ม Niche ได้
ปัจจุบันหลาย ๆ แบรนด์ก็เริ่มที่จะมองหาครีเอเตอร์และอินฟลูเอนเเซอร์ที่สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงได้ เพื่อทำ Niche Marketing อย่างการหา Micro และ Nano Influencer จะได้มีเอ็นเกจกับกลุ่มเป้าหมายได้ดี และยังรู้วิธีสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุด ซึ่งก็ถือว่าเป็นผลดีกับทั้งสองฝ่าย แบรนด์ได้สื่อสารไปถูกกลุ่มเป้าหมาย ครีเอเตอร์ อินฟลูเอนเซอร์ก็ได้ทำคอนเทนต์ที่เป็นแนวของตัวเอง กลุ่มเป้าหมายก็ได้รับสารที่พวกเขาต้องการ
ต่อยอดได้มากกว่าการสร้างคอนเทนต์
ด้วยความที่กลุ่มเป้าหมายเฉพาะเจาะจง การทำคอนเทนต์ที่ทำต้องสื่อไปถึงความเฉพาะเจาะจงนั้นมากเท่าไหร่ ก็จะทำให้ยอดการมีส่วนร่วมระหว่างกลุ่มเป้าหมายยิ่งดีขึ้นไปด้วย ในอนาคตจึงสามารถพัฒนาต่อยอดคอนเทนต์ที่ทำอยู่จากทักษะและความเชี่ยวชาญได้มีทำสิ่งใหม่ที่ดีกว่าเดิมได้มากกว่าแค่คอนเทนต์ เช่น สินค้า บริการ หรือแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายและกลายเป็นอีกช่องทางที่สร้างรายได้ให้ในอนาคตนั่นเอง
สร้างความเชี่ยวชาญ
การเจาะตลาด Niche Marketing จะค่อย ๆ สร้างความเชี่ยวชาญให้กับแบรนด์ นั่นก็คือ
1. การสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายดีขึ้น
แบรนด์จะค่อย ๆ สั่งสมประสบการณ์ในการนำเสนอสินค้าและบริการให้กับกลุ่มเป้าหมายเลือกได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ เริ่มเข้าใจนิสัยใจ พฤติกรรมการซื้อ ความสนใจ ความต้องการของ Niche ได้มากขึ้น
2. รู้ว่าต้องปรับปรุงสินค้า บริการในด้านไหน
แบรนด์จะมีเวลาโฟกัสในเรื่องปรับปรุงสินค้าและบริการของตัวเองมากขึ้นในทุกด้าน เพื่อผลิตสินค้าที่ตรงโจทย์กับกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น เป็นการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าจนเกิดเป็นความภักดีต่อแบรนด์ได้ด้วย
ถ้าแบรนด์ของกลุ่มมีกลุ่มเป้าหมายที่ใช้โซเชียลมีเดียเป็นหลัก แล้วอยากเจาะกลุ่มตลาด Niche เราอยากให้ลองใช้กลยุทธ์ Niche Marketing คู่กับกลยุทธ์ Influencer Marketing รับรองว่ามันจะช่วยให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายแบบเจาะจงได้ดียิ่งขึ้นแน่นอน