เป็นข่าวที่ค่อนข้างฮือฮาในแวดวงครีเอเตอร์อย่างมากทีเดียว เมื่อ Youtube ประกาศการทดสอบ การไม่แสดงหรือจะซ่อนปุ่ม “ไม่ชอบ” หรือ Dislike เอาไว้ โดยยืนยันว่าการพัฒนาล่าสุดก็เพื่อช่วยดูแลกลุ่มครีเอเตอร์เล็กๆ ที่ตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีหรือการล่วงละเมิด โดยทำเพื่อตอบสนองแนวความคิดเรื่อง “การให้เกียรติกันระหว่างผู้ชมและครีเอเตอร์”
อย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่า ไม่ได้มีการถอดหรือลบปุ่ม Dislike แต่อย่างใด โดยผู้ใชยังสามารถแสดงความเห็นไม่ชอบบนวิดีโอได้ เพียงแต่มันจะไม่ปรากฏเพื่อขจัดปัญหาการก่อกวนหรือโจมตีด้วยการระดมกด Dislike ในขณะที่ฝั่งครีเอเตอร์ก็ยังสามารถเห็นยอด Dislike ได้อยู่ โดยยังอยู่ในขั้นของการทดลอง
การตัดสินใจทดสอบของ Youtube ระบุว่า “ผู้ชมยังเห็นและใช้ปุ่ม Dislike ได้ แต่จะไม่มีการแสดงจำนวนให้ปรากฏ ทำให้มีโอกาสน้อยลงที่จะมีการระดมโจมตีด้วยการกดปุ่มดังกล่าว”
ทั้งนี้ สาเหตุของการตัดสินใจในครั้งนี้เกิดจากการที่กลุ่มครีเอเตอร์เล็กๆ เชื่อว่าพวกเขาตกเป็นเป้าหมายในการโจมตีอย่างไม่เป็นธรรม ซึ่งปัญหาดังกล่าวก็ได้รับการทดสอบและยืนยันว่าเกิดขึ้นจริง ที่สำคัญคือ Youtube เองก็ยอมรับว่าพฤติกรรมระดมกด Dislike มีสัดส่วนที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะกับกลุ่มชาแนลเล็กๆ
ดังนั้น Youtube จึงตัดสินใจทดสอบการไม่แสดง Dislike และให้แสดงแบบ private แทน อย่างไรก็ตาม ปุ่มดังล่าวไม่ได้หายไปไหน โดยครีเอเตอร์ยังสามารถรับรู้ถึงจำนวนดังกล่าวได้ เช่นเดียวกับเมตริกอื่นๆ ด้วย เพื่อทำความเข้าใจกับเนื้อหาว่ามีประสิทธิภาพมากแค่ไหนและนำไปปรับปรุงต่อไป
ด้าน Tom Leung ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารโครงการของ Youtube กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถบอกได้ถึงวิธีการแก้ปัญหาที่ถูกจดในการระดมโจมตี Dislike ทั้งหมดยังอยู่ในขั้นตอนของการหารือร่วมกันอยู่ โดยในเบื้องต้น Youtube ได้ทำการทดสอบว่าหากไม่แสดงยอด Dislike แล้วการโจมตีดังกล่าวอาจจะลดน้อยลงไป แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังไม่คิดว่าเป็นทางแก้ที่ดีที่สุด ซึ่งขณะนี้เราก็ยังคงหารือถึงแนวทางออกที่ดีเพื่อช่วยดูแลกลุ่ม Creator ขนาดเล็กกันอยู่ แต่ขณะเดียวกันก็พบว่า การดไม่แสดงยอด Dislike ก็ส่งผลต่อยอดวิดีโอที่มียอด Like สูงๆ เช่นกัน ซึ่งเราคงต้องหาบทสรุปและทางออกที่ดีต่อไป
นอกจากนี้ ยังมีการเสนออีกทางเลือกหนึ่งว่า ขณะนี้ทาง Youtube กำลังพิจารณาแง่ของการให้ผู้ที่กด Dislike ต้องแสดงเหตุผลประกอบด้วยว่ากดเพราะอะไร ทำไมถึงเลือกที่จะกดไม่ชอบ เพื่อให้เหล่าครีเอเตอร์ได้ทราบเหตุผล และนำไปปรับปรุงคอนเทนต์ต่อไปในอนาคต ที่สำคัญ ยังเป็นการที่ทำให้ผู้ชมที่กด Dislike ได้ใช้เวลาในการคิดทบทวนเสียหน่อยถึงสาเหตุที่เขาไม่ชอบนั้นเพราะอะไร ซึ่งก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่หลายเสียงมองว่าค่อนข้างเป็นธรรมมากทีเดียว
แต่ขณะเดียวกันก็มีอีกข้อเสนอหนึ่ง ซึ่งค่อนข้างสุดโต่งมากทีเดียว นั่นคือการถอดปุ่ม Dislike ออกไปเลย คล้ายๆ กับการที่ Facebook ไม่มีปุ่ม Dislike นั่นแหละ แต่ปรับเป็นปุ่มที่แสดงถึงความรู้สึกออกมาที่หลากหลาย ซึ่งปุ่มที่แสดงอารมณ์ขั้วลบที่สุดอย่างที่เราราบกันก็คือ Angry แสดงอารมณ์โกรธนั่นเอง อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายมองว่าทางเลือกนี้ค่อนข้างไม่เป็นประชาธิปไตยเท่าที่ควร
ทั้งนี้ ทาง Youtube ก็ได้ทำคลิปเพื่อตอบคำถามเกี่ยวกับกรณีนี้เอาไว้ด้วย ซึ่งเราขอหยิบบางคำถามที่น่าสนใจเอามาเพื่อให้เหล่าครีเอเตอร์ได้เข้าใจมากขึ้น
Q – หากซ่อนจำนวน Dislike แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่า คอนเทนต์วิดีโอชิ้นนั้นควรค่าที่จะดูหรือไม่
A – จากการเก็บข้อมูลหลายล้านวิดีโอคอนเทนต์ เราพบว่าจริงๆ แล้วจำนวน Dislike ไม่ได้ผันผวนไปตามจำนวนการเข้าชม หรือจะให้พูดง่ายๆ ก็คือ ผู้ชมก็ยังรับชมวิดีโอนั้นอยู่ถึงแม้ว่าจะมีจำนวน Dislike สูงมากก็ตาม
Q – ซ่อนจำนวน Dislike ที่หน้าวิดีโอ แต่ครีเอเตอร์ก็ยังสามารถที่หลังบ้านอยู่ดี แล้วมันจะช่วยแก้ปัญหาตรงจุดไหน
A – เป้าหมายของการไม่แสดงยอด Dislike คือการที่ช่วยไม่ให้ ครีเอเตอร์รู้สึกอับอายหรือเครียดจนเกินไป เพราะเราพบข้อมูลของการโจมตี้อย่างไร้สาเหตุ ซึ่งการที่แสดงข้อมูลที่หลังบ้านเพื่อให้ครีเอเตอร์ได้สามารถนำข้อมูลไปวิเคราะห์และทำการปรับปรุงต่อไป
Q – หรือว่าเหตุผลที่แท้จริงในการทดสอบซ่อนปุ่ม Dislike เป็นเพราะว่า YouTube Rewind มีคนกด Dislike เยอะมากใช่หรือไม่
A – ยืนยันว่าไม่เกี่ยวครับ การเปลี่ยนแปลงนี้ก็เพื่อปกป้องครีเอเตอร์ทุกคนเท่านั้น
ทั้งนี้ YouTube ยังระบุว่า เปลี่ยนแปลงนี้จะมีผลทันทีโดยจะเริ่มทยอยมีผลกับครีเอเตอร์ไปทีละราย โดยปุ่ม Dislike จะมีให้กดอยู่ แต่จะไม่แสดงที่หน้าวิดีโอแบบสาธารณะเท่านั้นเอง
ดังนั้น เราคงต้องติดตามต่อไปถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นว่าจะสามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้จริงหรือไม่
