การที่คนเราจะขายสินค้าหรือนำเสนอบริการอย่างใดอย่างหนึ่งให้กับกลุ่มลูกค้าและทำให้เกิดการซื้อ-ขายขึ้นมาได้ นอกจากความน่าสนใจในตัวของสินค้าหรือบริการนั้นเองแล้ว การเลือกใช้กลยุทธ์การตลาดที่เหมาะสมก็ถือเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้สินค้าหรือบริการของเราที่ต้องการจะส่งลงไปสู่ตลาดนั้นมีความโดดเด่น น่าสนใจ และตรงความต้องการของผู้บริโภคด้วย ซึ่งสิ่งที่เรียกว่า “กลยุทธ์การตลาด” นี้ ก็เป็นอะไรที่ไม่มีความตายตัว สามารถปรับได้ตามความเหมาะสมของธุรกิจและเป้าหมายของเรา
กลยุทธ์การตลาด คืออะไร
ถ้าชีวิตของคนเราต้องมีแผนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายชีวิต กลยุทธ์การตลาดก็เป็นเหมือนแผนทิศทางขององค์กรที่จะนำพาให้สินค้าหรือบริการของเราไปสู้เป้าประสงค์ที่ตั้งไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การเพิ่มยอดขาย การสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ในทิศทางบวก หรือการเปิดตลาดกลุ่มลูกค้าใหม่ เป็นต้น
กลยุทธ์การตลาด มีประโยชน์อย่างไร
การวางแผนกลยุทธ์การตลาดมีประโยชน์อย่างมากทั้งต่อตัวแบรนด์เองและต่อลูกค้าผู้ใช้บริการ ดังนี้
- ช่วยให้แบรนด์เข้าใจพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น
- สร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์ โดดเด่นกว่าคู่แข่ง
- สร้างความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และลูกค้าให้เกิด Royalty ที่สูงขึ้น
- ช่วยสร้างยอดขายเพิ่มขึ้นเพื่อบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ
กลยุทธ์การตลาด สำคัญกับธุรกิจอย่างไร
กลยุทธ์ทางการตลาดมีความสำคัญกับธุรกิจมากเป็นอันดับต้น ๆ เลยก็ว่าได้ เพราะว่ากลยุทธ์ทางการตลาดเปรียบเป็นหัวใจของการทำธุรกิจ เป็นแผนที่ในการนำทางให้เส้นทางธุรกิจของเราเดินทางไปสู่จุดมุ่งหมายที่ถูกต้อง โดยไม่ต้องเสียทรัพยากรมากจนเกินไปด้วย
ความสำคัญของกลยุทธ์การตลาดต่อการทำธุรกิจ มีดังนี้
- เพิ่มประสิทธิภาพ: ช่วยประหยัดในด้านทรัพยากร และการผลิตสินค้าบริการออกมาอย่างพอดี เพียงพอต่อความต้องการ
- เพิ่มเสถียรภาพ: เมื่อมีระบบแผนงานที่ดี การดำเนินงานเกี่ยวกับสินค้าและบริการก็จะเป็นไปอย่างมีเสถียรภาพ มั่นคง เกิดปัญหาน้อยลง
- กำหนดทิศทาง: สามารถมองเห็นอนาคตของสินค้าและบริการชัดเจน รู้ว่าต้องพัฒนาจุดไหนและแก้ไขจุดไหน
- ลดความเสี่ยง: ทั้งความเสี่ยงด้านของสินค้าและบริการ รวมไปจนถึงความเสี่ยงทางด้านการเงิน ค่าใช้จ่าย
- เพิ่มความได้เปรียบ: สามารถวิเคราะห์เปรียบเทียบเพื่อวางตำแหน่งให้สินค้าและบริการของเราอยู่เหนือคู่แข่งและครองสัดส่วนของตลาดได้มากกว่า ทำให้เกิดความได้เปรียบ
กลยุทธ์การส่งเสริมการตลาด มีกี่กลยุทธ์
จริง ๆ แล้วกลยุทธ์การส่งเสริมการตลาดของแต่ละแบรนด์นั้นก็จะมีความแตกต่างกันไปไม่มีสูตรสำเร็จ เนื้อหาในส่วนนี้จะเป็นตัวอย่างกลยุทธ์การส่งเสริมการตลาดที่ได้รับความนิยมสูงที่สังเกตเห็นได้ในปัจจุบัน เนื่องมาจากเป็นกลยุทธ์ที่เมื่อนำมาปรับใช้ให้เหมาะสมแล้วเห็นผลจริง ช่วยส่งผลเชิงบวกต่อแบรนด์และองค์กร รวมถึงตอบโจทย์ต่อโลกปัจจุบัน มีดังนี้
- การทำ Branding
เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมสูงเพื่อสร้างภาพลักษณ์ในทิศทางที่เหมาะสมให้กับแบรนด์และสินค้าที่วางไว้ ช่วยให้ลูกค้ามองเห็นเราได้ชัดขึ้น และเมื่อนึกถึงสิ่งนี้จะต้องนึกถึงเรา เช่น หากสินค้าที่เราขายเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพ มีส่วนผสมที่เป็นออร์แกนิก ควรเน้นสร้างภาพลักษณ์ที่เกี่ยวเนื่องกับความเป็นธรรมชาติ คุณประโยชน์ที่หาจากสารเคมีไม่ได้ มาเป็นจุดเด่นเพื่อให้แบรนด์มีความ Green & Friendly เป็นต้น
- การตลาด Digital
แน่นอนว่าในยุคนี้การตลาดดิจิทัล หรือการตลาดแพลตฟอร์มออนไลน์มีความสำคัญมาก เพราะช่องทางโซเชียลเป็นช่องทางหลักที่ผู้คนบนโลกใบนี้ใช้ในการติดต่อ ซื้อขาย ช็อปปิ้ง ทุกอย่างครบจบอยู่บนมือถือเครื่องเดียว ดังนั้นการพาแบรนด์เข้าไปทำการตลาดผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น Facebook, X, Instagram หรือ Tiktok สามารถเป็นประตูบานใหญ่ที่จะช่วยเปิดโอกาสการมองเห็นให้กับแบรนด์และสินค้าได้มากขึ้นโดยไม่ต้องเสียเงินค่าวางโฆษณาเหมือนอย่างการทำการตลาดประเภท offline ด้วย แต่ต้องแลกมากับการโต้ตอบที่รวดเร็ว ทันใจ และเหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย
- ทำคอนเทนต์ที่มีประโยชน์และคุณค่า
ปัจจุบันนี้ใคร ๆ ก็สามารถทำคอนเทนต์เป็นของตัวเองกันได้ แต่การทำคอนเทนต์ให้มีความแตกต่างและโดดเด่น ไม่จมไปกับคอนเทนต์มากมายบนโลกออนไลน์ก็คือการทำคอนเทนต์ที่ไม่มีวันหมดอายุ (Evergreen Content) เราจะไม่มุ่งเน้นไปที่การขายตรง แต่เน้นการให้ความรู้ในด้านที่เกี่ยวเนื่องกับสินค้าและผลิตภัณฑ์ เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายเกิดความไว้วางใจ เชื่อใจ และมองว่าแบรนด์ของเรามีความจริงใจต่อลูกค้า ไม่ได้หวังผลประโยชน์หรือเร่งเร้าให้เกิดการซื้อเพียงอย่างเดียว ซึ่งก็จะเป็นการช่วยสร้างภาพลักษณ์อีกรูปแบบหนึ่งให้กับแบรนด์ด้วย
การตลาดสมัยใหม่ มีอะไรบ้าง
โดยในปัจจุบันนี้จะมีสิ่งที่เรียกว่า “การตลาดสมัยใหม่” ซึ่งเป็นชื่อเรียกของรูปแบบการทำการตลาดที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย จากเมื่อก่อนที่เราจะเน้นการตลาดผ่านสื่อเก่า เช่น สื่อสิ่งพิมพ์ พื้นที่บนนิตยสาร ใบปลิว หรือการซื้อพื้นที่โฆษณาบน TV ก็ได้เปลี่ยนมาเป็นการสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ แทน ซึ่งสิ่งเหล่านี้จัดว่าเป็นการตลาดสมัยใหม่
ตัวอย่างการตลาดสมัยใหม่ ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน
- การทำ Social Media Marketing
- การทำ Social listening
- การทำ Influencer Marketing
- การตลาด Content Marketing
- การตลาดผ่าน Search Engine (SEM)
กระบวนการทางการตลาด 5 ขั้นตอน
ถ้าหากเราอยากจะเป็นแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จ เราจะต้องตั้งเป้าหมายก่อนว่าความสำเร็จที่เราต้องการนั้นคืออะไร เช่น การเพิ่มผู้ติดตาม การเพิ่มยอดขาย การเพิ่มการรับรู้ ผ่านกระบวนการทางการตลาด 5 ขั้นตอน ดังนี้
- การวางแผน (Planing)
ขั้นตอนแรกคือการวิเคราะห์ มองตัวเองและคู่แข่งให้ออก รู้จัก Position ของตัวเองในตลาดสินค้าและบริการ เพื่อวางแผนดำเนินการให้เหมาะสม และกำหนดกลุ่มเป้าหมาย และเป้าหมายหลัก เช่น เพิ่มยอดขาย 20% ก่อนสิ้นปี และมองหาวิธีไปถึงเป้าหมาย เช่น ต้องมีการจัดโปรลดราคาสินค้าช่วงเดือนไหน หรือมีการตลาดเชิงรุกเพิ่มขึ้นอย่างไร เป็นต้น
- การกำหนดกลยุทธ์ (Strategy)
เมื่อกำหนดเป้าหมายและแผนที่ต้องการแล้ว ต้องมาเลือกกลยุทธ์ที่จะใช้งาน เช่น
- 4Ps of Marketing จะเน้นด้านผลิตภัณฑ์ (Product) ราคา (Price) ช่องทางการจัดจำหน่าย (Place) และการส่งเสริมการตลาด (Promotion) ให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายและเป้าหมายทางการตลาด
- Value Proposition เป็นกลยุทธ์ที่จะสร้างคุณค่าให้กับสินค้าหรือบริการที่โดดเด่น แตกต่างและเหนือกว่าคู่แข่ง เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย
- Positioning เป็นกลยุทธ์การวางตำแหน่งของแบรนด์ว่าจะอยู่ในกลุ่มสินค้าทั่วไป ปานกลาง หรือระดับสูง เพื่อสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ชัดเจน และต่างจากคู่แข่ง
- การดำเนินการ (Implementation)
เมื่อเลือกกลยุทธ์ที่จะใช้ได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือการปฏิบัติตามแผนที่วางไว้ รวมถึงติดตามผลอย่างต่อเนื่อง
- การวิเคราะห์ (Analysis)
หลังจากดำเนินการตามแผนกลยุทธ์แล้ว ควรจะต้องมีการเก็บข้อมูลยอดขาย ลูกค้าใหม่ หรืออื่น ๆ เพื่อนำมาวิเคราะห์และประเมินแผนร่วมกับผลลัพธ์ที่ได้ว่าเป็นไปในทิศทางใด บรรลุเป้าหมายได้จริงหรือไม่
- การควบคุม (Control)
เมื่อวิเคราะห์ผลออกมาแล้วต้องหาจุดที่ต้องพัฒนาเพื่อนำมาปรับปรุงให้สินค้าและบริการดีขึ้นต่อเนื่อง เป็นการช่วยปรับปรุงแผนการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สรุป
อีกเคล็ดลับของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ก่อนที่จะเป็นแผนการตลาดที่สมบูรณ์และประสบความสำเร็จนั้นต้องผ่านกระบวนการคิด วิเคราะห์และแยกแยะข้อมูลที่ได้มาอย่างละเอียดเสียก่อน ไม่เพียงเท่านั้นการวางกลยุทธ์ทางการตลาดต้องเลือกให้ถูกว่าแผนไหนใช้ที่สื่อไหนจะเหมาะสม แผนไหนใช้กับลูกค้ากลุ่มไหนจะเหมาะสมด้วยถึงจะเป็นกลยุทธ์การตลาดที่เห็นผลและนำไปใช้ได้จริง
FAQ เกี่ยวกับกลยุทธ์การตลาด
กลยุทธ์การตลาดที่ควรหลีกเลี่ยง มีอะไรบ้าง
กลยุทธ์ที่ควรหลีกเลี่ยงเพราะสามารถส่งผลเสียได้มากกว่าผลดี คือการทำการตลาดที่สร้างความรำคาญใจ ไม่สนใจกลุ่มเป้าหมาย หรือการทำการตลาดแบบหว่าน เช่น
- การทำโฆษณาที่น่ารำคาญ รบกวนสายตา
- การสื่อสารไม่ชัดเจน กำกวม ทำให้คนไม่กล้าซื้อ
- จัดโปรโมชันบ่อยเกินไปทำให้สินค้าดูไม่มีคุณค่า
- ไม่มีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า
- ทำการตลาดแบบไม่วัดผล
ข้อควรระวังในการวางแผนกลยุทธ์การตลาด
ก่อนตัดสินใจทำการตลาด ต้องระวังข้อผิดพลาดดังนี้
- ไม่เลือกกลุ่มเป้าหมาย ทำให้เสนอสินค้าและบริการได้ไม่ตรงจุด
- ตั้งเป้าหมายไม่ชัดเจน เช่น อยากเพิ่มยอดขาย แต่ไม่ตั้งจำนวนว่าเพิ่มขึ้น 20% หรือ 50% เป็นต้น
- เลือกช่องทางการทำการตลาดไม่เหมาะสม
- เลือกวิธีวัดผลที่ไม่เหมาะสม
- ผู้วางแผนการตลาดขาดความรู้และทักษะที่เพียงพอ
วิธีวัดผลแผนกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ เป็นอย่างไร
สำหรับการวัดผลแผนกลยุทธ์ที่เราดำเนินการนั้นสามารถเลือกได้หลายรูปแบบ เช่น การกำหนด Key Performance Indicators (KPIs) ให้กับผู้ปฏิบัติงานแต่ละหน้าที่ หรือการใช้เครื่องมือที่เหมาะสม เช่น Google Analytics, Facebook Insights, หรือโปรแกรม CRM ร่วมกับการวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด
รันธุรกิจของคุณให้เดินหน้าอย่างไร้ขีดจำกัด Digimusketeers เรามีบริการวางแผนกลยุทธ์และสื่อสารการตลาด (Strategic & Media Planning & Brand Communication) วางแผนลำดับขั้นตอนให้คุณเห็นภาพรวมของธุรกิจเพื่อไปถึงเป้าหมาย พร้อมวัดผลได้ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายแบรนด์ที่แท้จริงที่จะกลายเป็นลูกค้า นำไปสู่ยอดขายตามเป้าที่กำหนดไว้ โดยทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์มาช่วยวางกลยุทธ์และสื่อสารแบรนด์ให้มีประสิทธิภาพ
เพิ่มยอดขายให้ธุรกิจด้วยกลยุทธ์ออนไลน์
แอดไลน์เพื่อปรึกษาเราฟรี
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องกับ กลยุทธ์การตลาด