รู้หรือไม่ว่า การทำ SEO ไม่ได้จำกัดแค่บทความ หรือหน้าเว็บทั่วไปเท่านั้น แต่ Google Images ก็เป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่คุณสามารถเพิ่มการเข้าถึงเว็บไซต์ได้ รูปภาพที่ดีและถูกปรับแต่ง SEO อย่างเหมาะสม จะช่วยดึงดูดผู้เข้าชมใหม่ ๆ และเพิ่มโอกาสทางธุรกิจได้อย่างน่าเหลือเชื่อ มาดูกันว่าคุณจะปรับภาพของคุณให้ติดอันดับใน Google Images ได้อย่างไร
ทำไมการทำ SEO สำหรับภาพจึงสำคัญ
ในยุคที่ทุกอย่างต้องเร็วและสะดวก คนมักใช้ Google ค้นหารูปภาพสำหรับสินค้า ไอเดีย หรือข้อมูลที่พวกเขาต้องการ นี่เป็นโอกาสสำคัญที่รูปภาพจากเว็บไซต์ของคุณจะติดอันดับใน Google Images ช่วยเพิ่มการเข้าถึงและกระตุ้นความสนใจในสินค้าและบริการของคุณ
การทำ Google SEO สำหรับรูปภาพยังเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างประสบการณ์ผู้ใช้งานที่ดี (User Experience) เพราะรูปภาพที่โหลดเร็วและเกี่ยวข้องกับเนื้อหาจะช่วยเพิ่มเวลาในการอยู่บนเว็บไซต์ และลดอัตราการตีกลับ (Bounce Rate) ได้อีกด้วย
เทคนิคการทำ SEO สำหรับภาพบน Google Images
อย่างที่บอกไปว่า Google Images เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ทรงพลังในการเพิ่มการเข้าถึงเว็บไซต์ได้ หากรูปภาพของคุณติดอันดับในการค้นหา ก็เหมือนมีอีกประตูหนึ่งที่ช่วยเพิ่ม Traffic และโอกาสทางธุรกิจ มาดูเทคนิคง่าย ๆ ดังนี้เลย
1. ลดขนาดรูปภาพให้เหมาะสม
การอัปโหลดรูปภาพที่มีขนาดไฟล์ใหญ่จะทำให้เว็บไซต์โหลดช้า ส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพ SEO ของคุณ วิธีแก้ไขคือ
- ใช้เครื่องมือย่อขนาดรูปภาพ เช่น TinyPNG หรือ Squoosh
- รักษาขนาดไฟล์ให้อยู่ระหว่าง 100-200 KB เพื่อความเร็วที่เหมาะสม การทำให้เว็บไซต์โหลดเร็วขึ้นจะช่วยให้ Google SEO ของคุณดีขึ้น และยังช่วยเพิ่มโอกาสในการติดอันดับบน Google Images อีกด้วย
2. ตั้งชื่อไฟล์รูปภาพให้ถูกต้อง
ชื่อไฟล์รูปภาพเป็นสิ่งแรกที่ Google ใช้ในการเข้าใจว่ารูปภาพนั้นว่าเกี่ยวข้องกับอะไร หลีกเลี่ยงชื่อที่ไม่มีความหมาย เช่น IMG12345.jpg ควรตั้งชื่อไฟล์ที่มีคีย์เวิร์ด เช่น Google-SEO-Tips.jpg เพื่อเพิ่มโอกาสให้รูปภาพของคุณปรากฏในการค้นหา
3. ใส่ Alt Text (คำอธิบายภาพ)
Alt Text หรือข้อความทางเลือก เป็นตัวช่วยสำคัญในการบอก Google ว่ารูปภาพของคุณเกี่ยวกับอะไร
- เขียนข้อความที่อธิบายภาพอย่างชัดเจน เช่น “เคล็ดลับ การทำ SEO บน Google Images”
- ใช้คีย์เวิร์ดใน Alt Text อย่างเป็นธรรมชาติ Alt Text ยังช่วยเพิ่มประสบการณ์การใช้งานสำหรับผู้ที่ใช้เครื่องอ่านหน้าจอ (Screen Readers) ได้อีกด้วย
4. ใส่ Caption (คำบรรยายใต้ภาพ)
คำบรรยายใต้ภาพช่วยให้ผู้ชมเข้าใจบริบทของรูปภาพได้ง่ายขึ้น แม้ Caption จะไม่ได้ส่งผลโดยตรงต่อ การทำ SEO แต่ช่วยเสริมการรับรู้และเพิ่มโอกาสให้ผู้ชมใช้เวลากับเนื้อหาของคุณนานขึ้น
5. เพิ่ม Structured Data ให้กับรูปภาพ
การเพิ่ม Structured Data ช่วยให้ Google เข้าใจรูปภาพของคุณได้ลึกขึ้น และช่วยให้รูปภาพของคุณมีโอกาสปรากฏใน Rich Results
- ใช้ Schema Markup ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา เช่น Product, Article หรือ Recipe
- ตรวจสอบความถูกต้องของ Structured Data ด้วย Google Rich Results Test
6. ใช้ URL และแผนผังเว็บไซต์ (Sitemap) สำหรับรูปภาพ
การสร้าง Sitemap ที่รวม URL ของรูปภาพช่วยให้ Google ค้นพบและจัดทำดัชนีรูปภาพของคุณได้ง่ายขึ้น
- สร้าง Sitemap สำหรับรูปภาพแยกต่างหาก
- ส่ง Sitemap ผ่าน Google Search Console เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำ Google SEO
7. ใช้รูปภาพที่สร้างสรรค์และไม่ซ้ำใคร
Google ให้ความสำคัญกับรูปภาพที่ไม่ซ้ำใคร ดังนั้น การใช้รูปที่คุณถ่ายหรือสร้างเอง จะช่วยให้มีโอกาสติดอันดับสูงกว่าการใช้ Stock Photos ที่มีคนใช้เยอะ ๆ นอกจากนี้ ยังช่วยสร้างเอกลักษณ์ให้กับเว็บไซต์ของคุณอีกด้วย
8. ใช้ไฟล์รูปภาพในรูปแบบที่เหมาะสม
เลือกประเภทไฟล์ที่เหมาะสมกับการใช้งาน เช่น
- JPEG: เหมาะสำหรับภาพถ่ายที่ต้องการความละเอียดสูงและขนาดไฟล์เล็ก
- PNG: เหมาะสำหรับรูปภาพที่มีพื้นหลังโปร่งใส เช่น โลโก้
- WebP: เป็นไฟล์รุ่นใหม่ที่ทั้งคุณภาพดีและขนาดเล็ก ช่วยเพิ่มความเร็วเว็บไซต์
9. ระมัดระวังเรื่องลิขสิทธิ์
การใช้รูปภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตอาจทำให้เว็บไซต์ของคุณถูกดำเนินคดีด้านลิขสิทธิ์ ดังนั้นควร
- ใช้รูปภาพที่คุณสร้างเอง
- เลือกใช้ภาพจากเว็บไซต์ที่ให้บริการรูปภาพฟรี เช่น Unsplash หรือ Pexels และให้เครดิตเจ้าของภาพตามข้อกำหนด
10. ตรวจสอบและวิเคราะห์ผล
หลังจากปรับปรุง SEO รูปภาพแล้ว อย่าลืมติดตามผล:
- ใช้ Google Search Console เพื่อตรวจสอบว่ารูปภาพของคุณได้รับการจัดทำดัชนีหรือไม่
- ใช้เครื่องมือวิเคราะห์ เช่น Google Analytics เพื่อติดตาม Traffic ที่มาจาก Google Images การวิเคราะห์ผลจะช่วยให้คุณปรับปรุงกลยุทธ์และเห็นโอกาสใหม่ ๆ ในการทำ SEO รูปภาพ
และนี่ก็คือ 10 ข้อ เทคนิคการทำ SEO สำหรับภาพบน Google Images ที่คุณสามารถเอาไป รีเช็คได้ว่า มีข้อไหนบ้างที่ทำไปแล้วและข้อไหนที่ยังไม่ได้ทำ ซึ่งหากทำครบทั้ง 10 ข้อนี้ ไปรูปภาพของคุณยังไม่ติด SEO อีกให้มันรู้ไป
สรุป
การทำ SEO สำหรับภาพบน Google Images เป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยเพิ่มการเข้าถึงและสร้าง Traffic ให้เว็บไซต์ได้อย่างดี เทคนิคที่ควรนำมาใช้ได้แก่ การลดขนาดไฟล์รูปภาพให้เหมาะสม ตั้งชื่อไฟล์ด้วยคีย์เวิร์ด ใส่ Alt Text และ Caption รวมถึงใช้ Structured Data เพื่อเพิ่มโอกาสในการแสดงผลแบบ Rich Results การเลือกประเภทไฟล์ที่เหมาะสม เช่น JPEG หรือ WebP และการตรวจสอบผลผ่าน Google Search Console จะช่วยให้รูปภาพของคุณติดอันดับและเพิ่มการมองเห็นในระยะยาว การทำ SEO รูปภาพไม่เพียงช่วยดึงดูดผู้ชมใหม่ ๆ แต่ยังเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ของคุณอีกด้วย
FAQ
ต้องใช้ Structured Data กับรูปภาพทุกภาพไหม?
- ไม่จำเป็นต้องใช้กับทุกภาพ แต่ Structured Data จะช่วยเพิ่มโอกาสให้รูปภาพของคุณปรากฏใน Rich Results และเพิ่มความน่าสนใจในผลการค้นหา
ทำไมการใส่ใจใน Meta Title และ Meta Descriptions จึงสำคัญต่อการทำ SEO บน Google Image Search?
- การใส่ใจใน Meta Title และ Meta Descriptions มีความสำคัญต่อ การทำ SEO บน Google Image Search เพราะระบบของ Google จะใช้ข้อมูลเหล่านี้สร้าง Title Link และ Snippet เพื่ออธิบายเนื้อหาให้กับผู้ใช้งาน หากข้อมูลมีความชัดเจนและน่าสนใจ จะช่วยดึงดูดผู้ใช้งานให้คลิกเข้ามายังเว็บไซต์ และยังมีผลต่อการจัดอันดับในผลการค้นหาอีกด้วย การทำ Meta Title และ Meta Descriptions ให้ดีจึงเป็นพื้นฐานสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
การปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้งานเว็บไซต์มีผลต่อการทำ SEO บน Google Images อย่างไร?
- การปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้งานเว็บไซต์ช่วยให้เนื้อหาใน Google Images มีโอกาสติดอันดับสูงขึ้น โดยรูปภาพควรสอดคล้องกับหัวข้อและเนื้อหาของหน้าเว็บ ใช้รูปที่มีลิขสิทธิ์ถูกต้องหรือเป็น Original Photo ปรับตำแหน่งรูปให้อยู่ใกล้ข้อความที่เกี่ยวข้องและแวดล้อมด้วยคีย์เวิร์ด นอกจากนี้ เว็บไซต์ต้องมีคุณภาพ ให้ประโยชน์ต่อผู้อ่านจริง และรองรับ Mobile-Friendly การสร้าง URL Structure ที่เหมาะสมยังช่วยให้อัลกอริทึมของ Google ค้นหาและเข้าใจรูปภาพได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
ดันเว็บไซต์ให้อยู่หน้าแรกของการค้นหาบน Google ด้วย SEO ที่ Digimusketeers เราขอแนะนำบริการ Search Engine Optimization ที่ช่วยเพิ่มจำนวนการเข้าชมเว็บไซต์แบรนด์แบบออร์แกนิค ใช้กลยุทธ์สายขาวที่มั่นใจได้ว่าถูกต้องตามหลัก SEO Google โดยบริการ SEO ของดิจิมัสเกตเทียส์ เราให้บริการ
- SEO Audit : วิเคราะห์เว็บไซต์เชิงลึก
- SEO Content : เขียนบทความ คอนเทนต์ ที่สอดคล้องกับแบรนด์ และเป็นมิตรต่อ Search Engine
- Link Building : สร้าง Backlink จากเว็บที่น่าเชื่อถือ เพิ่มอันดับให้เว็บไซต์ติดหน้าแรก บน Google
- Website Suggestions : ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเว็บไซต์ โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ
- Reporting : รายงานผล SEO รายเดือนวิเคราะห์แนวทางการปรับปรุง ที่เข้าใจง่าย
ให้เราช่วยเพิ่มอันดับเว็บไซต์ของคุณให้แซงคู่แข่ง ติดต่อ 02-047-0088 หรือ แอดไลน์เพื่อปรึกษาเราฟรี
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องกับ Google และการทำ SEO
