เคยสงสัยไหมว่าทำไมเวลาเราค้นหาข้อมูลอะไรสักอย่างใน Google ผลการค้นหา ลำดับแรก ๆ มักจะเป็นเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือและตอบโจทย์ความต้องการของเราได้อย่างตรงจุด? นั่นเป็นเพราะเว็บไซต์เหล่านั้นได้ทำ SEO นั่นเอง และในปัจจุบันการแข่งขันบนโลกดิจิทัลยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง วิธีทำ SEO จึงต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้ใช้งานและการพัฒนาเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป บทความนี้เราจะมาอัปเดต 10 เทรนด์การทำ SEO 2025 พร้อมเทคนิคเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ติดอันดับหน้าแรกของ Google
10 เทรนด์การทำ SEO ปี 2025 ฉบับอัปเดต
ในปี 2025 ด้วยเทคโนโลยีและพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ Google ต้องปรับอัลกอริทึมในการจัดอันดับเว็บไซต์อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ผลการค้นหาตรงใจผู้ใช้งานมากที่สุด และนี่คือเทรนด์ SEO 2025 นั้นน่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง
1. AI และ Machine Learning
- การสร้างเนื้อหา : AI จะเข้ามามีบทบาทในการสร้างเนื้อหา SEO ที่ตรงใจผู้ใช้งานมากขึ้น เช่น การเขียนบทความอัตโนมัติ การสร้างภาพ และวิดีโอ
- การวิเคราะห์ข้อมูล : AI จะช่วยวิเคราะห์ข้อมูลผู้ใช้งานได้อย่างละเอียด เพื่อนำไปปรับปรุงกลยุทธ์ SEO ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การค้นหา : Google อาจพัฒนาฟีเจอร์การค้นหาที่ใช้ AI มากขึ้น ทำให้การค้นหาของผู้ใช้มีความซับซ้อนและเฉพาะเจาะจงมากขึ้น
2. Voice Search ยังเวิร์คกับการทำ SEO
ไม่ว่าจะเป็น Siri, Google Assistan ล้วนแล้วแต่เป็นการค้นหาด้วยเสียงเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้น การปรับเนื้อหาให้เหมาะกับการค้นหาด้วยเสียงจึงเป็นสิ่งสำคัญต่อการทำ SEO เช่น การใช้ประโยคคำถามและคำพูดที่เป็นธรรมชาติ
3. Core Web Vitals ปัจจัยสำคัญในการจัดอันดับ
Google ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ผู้ใช้งานมากขึ้น ดังนั้น Core Web Vitals ซึ่งเป็นตัวชี้วัดประสิทธิภาพของเว็บไซต์ จึงเป็นปัจจัยสำคัญในการจัดอันดับ หากเว็บไซต์ของคุณมีค่า Core Web Vitals ที่ดี Google จะจัดอันดับเว็บไซต์ของคุณให้สูงขึ้น
4. E-E-A-T ความน่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญต่อการทำ SEO
Google ให้ความสำคัญกับความน่าเชื่อถือของเนื้อหา E-E-A-T (Expertise, Experience, Authority, Trustworthiness) ดังนั้น การสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพและแสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญในหัวข้อนั้นๆ จึงเป็นสิ่งจำเป็น
5. Local SEO ตอบโจทย์ผู้ใช้งานในพื้นที่
สำหรับธุรกิจท้องถิ่น Local SEO ยังคงมีความสำคัญ การเพิ่มข้อมูลธุรกิจของคุณใน Google My Business และแพลตฟอร์มอื่น ๆ จะช่วยให้ผู้ใช้งานในพื้นที่สามารถค้นหาธุรกิจของคุณได้ง่ายขึ้น
6. เนื้อหาคุณภาพ หนึ่งในวิธีทำ SEO ที่ยังคงเป็นหัวใจหลัก
Google ให้ความสำคัญกับเนื้อหาที่มีคุณค่า ตรงประเด็น และตอบโจทย์ผู้อ่าน คอนเทนต์ที่ยาว มีข้อมูลเชิงลึก และสนับสนุนด้วยแหล่งอ้างอิงที่น่าเชื่อถือ จะช่วยเพิ่มโอกาสติดอันดับหน้าแรก
7. Featured Snippets เพิ่มโอกาสให้เว็บโดดเด่น
Featured Snippets หรือคำตอบที่ปรากฏอยู่บนสุดของผลการค้นหา เป็นโอกาสทองในการเพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์ การเขียนคอนเทนต์ที่ตอบคำถามชัดเจน พร้อมใช้หัวข้อย่อย (Subheadings) และรายการแบบ Bullet Points จะช่วยเพิ่มโอกาสที่คอนเทนต์ของคุณจะปรากฏในตำแหน่งนี้
8. การทำ SEO ด้วยวิดีโอคอนเทนต์และ Visual Search
วิดีโอมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการค้นหาอย่างมาก การสร้างวิดีโอคอนเทนต์ที่น่าสนใจและการใช้แพลตฟอร์มอย่าง YouTube จะช่วยเพิ่มการเข้าชม นอกจากนี้ การทำ SEO สำหรับ Visual Search เช่นการเพิ่ม Alt Text และการปรับภาพให้เหมาะสมก็สำคัญไม่แพ้กัน
9. Mobile-First Indexing
Google ได้เปลี่ยนไปใช้ Mobile-First Indexing อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งหมายความว่าเว็บไซต์ของคุณต้องพร้อมใช้งานบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ การออกแบบ Responsive Design และการเพิ่มประสิทธิภาพหน้าเว็บบนมือถือจึงเป็นสิ่งสำคัญในการทำ SEO
10. การใช้ SEO เชิงเทคนิค เช่น Structured Data
Structured Data ช่วยให้ Google เข้าใจบริบทของคอนเทนต์ได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงการใช้ Schema Markup เช่น FAQ, Breadcrumbs หรือ Product Markup จะเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ของคุณปรากฏในรูปแบบ Rich Snippets
ต้องบอกว่า SEO 2025 การทำกลยุทธ์เดิม ๆ อาจไม่พอ การปรับตัวให้ทันเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้ใช้งานที่เปลี่ยนแปลง การติดตามเทรนด์และปรับใช้เทคนิคเหล่านี้จะช่วยให้คุณมีโอกาสติดหน้าแรก Google ได้
ใช้เทคนิค SEO เพิ่มโอกาสติดอันดับหน้าแรกของ Google ได้อย่างไร
1. วิเคราะห์คีย์เวิร์ด
เริ่มด้วยการหา คีย์เวิร์ดหลัก ยกตัวอย่างเช่น ถ้าธุรกิจของคุณเกี่ยวกับร้านขายโทรศัพท์มือถือ อาจจะใช้คำว่า “ซื้อโทรศัพท์มือถือ” เป็นคีย์เวิร์ดหลัก ซึ่งการที่เรามีแค่คีย์เวิร์ดหลัก อย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ การเพิ่มคีย์เวิร์ดรอง เข้ามาเสริม จะช่วยทำให้การทำ SEO สมบูรณ์แบบมากขึ้น เช่น โทรศัพท์มือถือราคาถูก, โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ เป็นต้น โดยเครื่องมือที่จะช่วยวิเคราะห์คีย์เวิร์ดก็จะมี Google Keyword Planner, SEMrush, Ahrefs เป็นต้น
2. ปรับปรุงเนื้อหา SEO
การสร้างคอนเทนต์ โดยเฉพาะ บทความ เนื้อหาต้องมีความเป็นเอกลักษณ์ น่าสนใจ และตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งาน ไม่เพียงเท่านี้ การใส่คีย์เวิร์ดในส่วนต่าง ๆ ของเนื้อหา เช่น หัวข้อ ย่อหน้าแรก และเนื้อหาหลัก ก็มีส่วนสำคัญ นอกจากบทความแล้ว ยังสามารถสร้างเนื้อหาอื่น ๆ เช่น อินโฟกราฟิก วิดีโอ
3. ปรับโครงสร้างเว็บไซต์เพื่อเอื้อต่อการทำ SEO
เริ่มตั้งแต่การใช้ URL ที่สั้น กระชับ และสื่อความหมายของธุรกิจคุณได้ ไม่เพียงเท่านี้ เว็บไซต์ต้องแสดงผลได้ดีบนทุกอุปกรณ์ (User Friendly) ความเร็วในการโหลดเว็บไซต์ต้องเร็ว และการสร้าง Sitemap เพื่อให้ Googlebot เข้าใจโครงสร้างเว็บไซต์ได้ง่ายขึ้น
4. Backlinks ที่มีคุณภาพ
Backlinks ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการจัดอันดับ แต่ Google ให้ความสำคัญกับคุณภาพของ Backlinks มากขึ้น ดังนั้น การสร้าง Backlinks จากเว็บไซต์ที่มีคุณภาพและเกี่ยวข้องกับเนื้อหาของคุณ จึงเป็นสิ่งที่ควรทำ
5. ติดตามและวิเคราะห์ผล
ตรวจสอบผลลัพธ์ของการทำ SEO และปรับปรุงแก้ไขอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ Google Analytics ในการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้งาน และ Google Search Console ในการตรวจสอบปัญหาของเว็บไซต์และติดตามอันดับคีย์เวิร์ด
รวมความเชื่อผิดๆ ในการทำ SEO
ถ้าไม่อยากให้เว็บไซต์ธุรกิจของคุณ “พัง” แนะนำให้เลิกเชื่ออะไรผิด ๆ เกี่ยวกับการทำ SEO ซึ่งอาจนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาดและส่งผลเสียต่ออันดับของเว็บไซต์ของคุณ มาดูกันว่ามีความเชื่อผิด ๆ อะไรบ้างที่คุณควรหลีกเลี่ยง
1. ยิ่งใส่คีย์เวิร์ดเยอะเท่าไหร่ยิ่งดี
การยัดเยียดคีย์เวิร์ดซ้ำๆ กันมากเกินไป (Keyword Stuffing) เป็นสิ่งที่ Google ไม่ค่อยปลื้มสักเท่าไหร่ เนื่องจากจะทำให้เนื้อหาอ่านยากและไม่เป็นธรรมชาติ Google จะมองว่าเป็นการทำสแปมและอาจทำให้เว็บไซต์ของคุณโดนลงโทษได้ แนะนำให้ใช้คีย์เวิร์ดอย่างเป็นธรรมชาติ โดยใส่ในส่วนที่เหมาะสม เช่น หัวข้อ ย่อหน้าแรก และเนื้อหาหลัก
2. ซื้อ Backlink เยอะ ๆ จะทำให้ติดอันดับเร็ว
การซื้อ Backlink ที่ไม่เกี่ยวข้องอาจทำให้เว็บไซต์ของคุณถูกแบน Google ให้ความสำคัญกับคุณภาพของ Backlink มากกว่าปริมาณ แนะนำให้สร้าง Backlink ที่มีคุณภาพจากเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของคุณ เช่น การเขียนบทความให้เว็บไซต์อื่น
3. SEO ทำครั้งเดียวแล้วจบ
ต้องบอกว่า Google มีการอัปเดตอัลกอริทึมอยู่ตลอดเวลา หากคุณหยุดทำ SEO เว็บไซต์ของคุณอาจค่อยๆ ตกอันดับได้ ซึ่งการทำ SEO เป็นกระบวนการที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง และควรติดตามผลลัพธ์การทำ SEO อย่างสม่ำเสมอ
4. ทุกคนสามารถทำ SEO ได้เอง
การทำ SEO ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีต้องอาศัยความรู้และประสบการณ์ หากคุณไม่มีความรู้ในด้านนี้ การจ้างบริษัทรับทำ SEO อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
FAQ เกี่ยวกับการทำ SEO
SEO คืออะไร ทำไมต้องทำ SEO
SEO ย่อมาจาก Search Engine Optimization หรือการปรับปรุงเว็บไซต์ให้ติดอันดับบนเครื่องมือค้นหาอย่าง Google นั่นเอง เป้าหมายหลักของ SEO คือการทำให้เว็บไซต์ของคุณปรากฏในอันดับต้น ๆ ของผลการค้นหา เมื่อผู้คนค้นหาคำที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการของคุณ ทำให้มีโอกาสที่ลูกค้าจะเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์และเกิดการขายมากขึ้นการทำ SEO ช่วยสร้างการมองเห็น เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ และลดต้นทุนด้านการตลาดออนไลน์ในระยะยาว เมื่อเทียบกับการโฆษณาแบบจ่ายเงิน เช่น Google Ads
ประเภทของ SEO มีอะไรบ้าง
- On-Page SEO : คือการปรับปรุงองค์ประกอบต่าง ๆ ภายในเว็บไซต์ของคุณเอง ไม่ว่าจะเป็น การเขียนเนื้อหาที่เป็นประโยชน์และน่าสนใจ การเลือกใช้คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง
- Off-Page SEO : คือการทำกิจกรรมนอกเว็บไซต์เพื่อสร้างความเชื่อถือและความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ของคุณ
- Technical SEO : คือการปรับปรุงโครงสร้างทางเทคนิคของเว็บไซต์ให้เป็นมิตรต่อ Search Engine
ความแตกต่างระหว่าง SEO และ SEM
SEO คือการทำให้เว็บไซต์ของคุณปรากฏในอันดับต้นๆ ของผลการค้นหา เมื่อผู้คนค้นหาคำที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการของคุณ ทำให้มีโอกาสที่ลูกค้าจะเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์และเกิดการขายมากขึ้น ต่างจาก SEM (Search Engine Marketing) หรือการทำการตลาดผ่านเครื่องมือค้นหา โดยส่วนใหญ่จะหมายถึงการทำ Google Ads ซึ่งเป็นการซื้อโฆษณาเพื่อให้เว็บไซต์ของคุณปรากฏในอันดับต้นๆ ของผลการค้นหา
ระหว่างบทความ SEO แบบยาว VS แบบสั้น รูปแบบไหนติดหน้าแรก Google ได้ดีกว่า?
ทั้งบทความยาวและสั้นมีโอกาสติดหน้าแรก Google ได้ทั้งคู่ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น คีย์เวิร์ดที่เลือก เนื้อหา และการแข่งขัน
สรุปเกี่ยวกับการทำ SEO
SEO เป็นเครื่องมือที่สำคัญมากสำหรับธุรกิจยุคใหม่ การทำ SEO ช่วยให้ธุรกิจของคุณเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น เพิ่มยอดขาย และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ อย่างไรก็ตาม การทำ SEO ต้องอาศัยความรู้และประสบการณ์ หากคุณต้องการให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับบน Google อย่างยั่งยืน ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO ที่ Digimusketeers เรามีบริการ รับทำ SEO โดยผู้เชี่ยวชาญ ที่ช่วยเพิ่มจำนวนการเข้าชมเว็บไซต์แบรนด์แบบออร์แกนิค ใช้กลยุทธ์สายขาวที่มั่นใจได้ว่าถูกต้องตามหลัก SEO Google ให้เราช่วยเพิ่มอันดับเว็บไซต์ของคุณให้แซงคู่แข่ง ติดต่อ 02-047-0088 หรือ แอดไลน์เพื่อปรึกษาเราฟรี
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
