ความแตกต่างระหว่าง Slogan และ Tagline

Slogan กับ Tagline ต่างกันอย่างไร? แบบไหนสำคัญกว่าในการสร้างแบรนด์

Digimusketeers, 6 March 2025

สำหรับสายการตลาดต้องรู้จักกับส่วนประกอบของการทำ SEO ที่เรียกว่า Slogan และ Tagline ที่ถึงแม้ว่าจะเป็นสิ่งเล็ก ๆ  แต่ก็มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าส่วนอื่น ๆ โดยทั้ง 2 อย่างนี้แม้จะมีความคล้ายคลึงกัน แต่มีหน้าที่และรูปแบบที่แตกต่างกัน สำหรับคนที่สงสัยว่าระหว่าง Slogan และ Tagline แบบไหนจะสำคัญมากกว่าในการสร้างแบรนด์ ในบทความนี้มีคำตอบ

Slogan คืออะไร

Slogan (สโลแกน) คือ ประโยคสั้น ๆ ที่ช่วยดึงเอาลักษณะเด่นของแบรนด์ออกมาได้อย่างครบ จบ ในประโยค ๆ เดียว เป็นสิ่งสำคัญในการทำ Marketing ที่ทุกแบรนด์ต้องให้ความสำคัญไม่น้อยไปกว่าส่วนอื่น ๆ ที่สำคัญคือ Slogan จะต้องสั้น กระชับ และง่ายต่อการจดจำ Slogan ที่ประสบความสำเร็จจะช่วยให้แบรนด์เป็นที่รับรู้และสร้างภาพจำได้ดีไม่แพ้การทำโฆษณาแพง ๆ เลยทีเดียว

ตัวอย่าง Slogan ติดหูสุดฮิต เวลาผ่านไปนานแค่ไหนก็ยังอยู่ในความทรงจำ เช่น 

  • ซ่า ในทุกโมเม้นท์
  • บิด ชิมครีม จุ่มนม
  • มิตรคู่เรือน เพื่อนคู่ตัว
  • ใช้ดม ใช้ทา ในหลอดเดียวกัน

Tagline คืออะไร

Tagline (แท็กไลน์) คือ คำหรือวลีสั้น ๆ ที่ใช้อธิบายตัวตน อัตลักษณ์และเป้าหมายระยะยาวของแบรนด์ (ฺBrand Identity) เป็นสิ่งที่จะคงอยู่ยาวนานมากกว่าสโลแกน เป็นเหมือนลายเซ็นที่ทำให้เราแตกต่างจากคู่แข่ง มักนำมาใช้คู่กับโลโก้ หรือใช้ในสื่อประเภทต่าง ๆ เป็นเหมือนตราสัญลักษณ์ของแบรนด์สินค้าและบริการ เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญมาก ๆ สำหรับการทำ Marketing

ตัวอย่าง Tagline สุดฮิต เห็นเมื่อไหร่ก็ทำให้นึกถึงภาพแบรนด์สินค้า เช่น

  • Nike: Just do it.
  • McDonald’s: I’m Lovin’ It
  • 7-11: หิวเมื่อไหร่ก็แวะมา
  • เบอร์ดี้ ที่หนึ่งในใจคุณ

Slogan แตกต่างจาก Tagline อย่างไร

Slogan แตกต่างจาก Tagline อย่างไร

แม้ว่าทั้ง 2 ส่วนนี้จะเป็นองค์ประกอบของการทำการตลาดโฆษณาที่มีความคล้ายคลึงกันมาก แต่ก็มีความแตกต่างกันที่ัชัดเจน โดย Slogan จะเป็นการคิดประโยคสั้นๆ กระชับ โดยมีจุดมุ่งเน้นไปที่การขายสินค้าหรือบริการให้เข้ากับเทรนด์หรือกระแสในช่วงนั้น ๆ แต่ Tagline เป็นการสร้างอัตลักษณ์และสะท้อนตัวตนของแบรนด์ออกมาผ่านประโยคหรือคำสั้น ๆ จะไม่เปลี่ยนไปตามเทรนด์เหมือนอย่าง Slogan

สรุปความแตกต่างระหว่าง Slogan และ Tagline 

  • สโลแกน (Slogan) มักจะเน้นไปที่การโปรโมทสินค้าหรือบริการเพื่อสร้างความน่าสนใจให้กับแบรนด์ โดยอาจจะอ้างอิงจากคำเด็ด ๆ ในโซเชียลมาปรับแปลงให้เป็นของแบรนด์ และเปลี่ยนไปตามแคมเปญหรือระยะเวลาการโปรโมทได้ โดยไม่ถือว่า Slogan เป็นคำแทนภาพลักษณ์แบรนด์โดยตรงแต่อย่างใด 
  • แท็กไลน์ (Tagline) เป็นการใช้ประโยคหรือคำที่สั้นมาสร้างอัตลักษณ์สะท้อนตัวตนของแบรนด์ บอกเล่าคุณค่าและทัศนคติของแบรนด์ มักจะใช้ในระยะยาวเพื่อสร้างภาพจำให้กับแบรนด์ต่อเนื่องในอนาคต เช่น “Just Do It” ของ Nike

Slogan และ Tagline แบบไหนที่ดีต่อ Marketing การสร้างแบรนด์

สำหรับคนที่กำลังหา Slogan และ Tagline ให้กับแบรนด์ของตัวเองเพื่อนำไปต่อยอดใช้ในกลยุทธ์ทางการตลาด สามารถเอาไอเดียเหล่านี้ไปปรับใช้เพื่อให้ได้ประโยคหรือคำที่สะท้อนถึงอัตลักษณ์และช่วยกระตุ้นให้เกิด Reaction จากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้มากขึ้นด้วย 

 

เขียน Slogan และ Tagline ยังไงให้โดนใจ เหมาะใช้ในกลยุทธ์ทางการตลาด

  • เขียนประโยคสั้น กระชับ เข้าใจง่าย สามารถฟังและจำได้ง่าย เข้าใจทันที 
  • พยายามให้การออกเสียงและการเขียนไม่ซ้ำกับสินค้าอื่นในท้องตลาด และมีความโดดเด่นต่างจากแบรนด์สินค้าประเภทเดียวกัน ไม่ใช้คำคล้ายเพราะอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด 
  • ใช้คำที่ช่วยสื่อถึงคุณค่าของแบรนด์ได้ชัดเจน เช่น เน้นคุณภาพ เน้นประสิทธิภาพ เน้นประสบการณ์ของผู้ใช้
  • ต้องเป็นประโยคที่สร้างความรู้สึกที่ดีต่อแบรนด์ เช่น ความสุขจากการได้ใช้ผลิตภัณฑ์ ความตื่นเต้นสนุกสนานที่จะได้รับ หรือความมั่นใจจากการเข้ารับบริการ
  • สื่อสารตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย 
  • เป็นประโยคหรือคำที่ไม่ตามกระแสชั่วครั้งชั่วคราว สามารถนำไปใช้ได้ในระยะยาวและยังคงมีความหมายไม่เปลี่ยนแปลง

เขียน Slogan และ Tagline ยังไงให้โดน

สรุป

สำหรับการสร้าง Slogan และ Tagline ให้กับสินค้าและบริการเรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่ยังมีความจำเป็นมากไม่น้อยไปกว่าส่วนอื่น ๆ เพราะนอกจากการคิด Slogan จะเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดในการช่วยสร้างการจดจำแล้ว การออกแบบ Tagline ที่เหมาะสมยังเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงอัตลักษณ์ของแบรนด์ได้อย่างชัดเจนและแข็งแกร่ง เป็นหนึ่งในสิ่งที่ฝ่าย Marketing ของแบรนด์จะต้องทำการบ้านหนักไม่แพ้ส่วนอื่น ๆ เลยทีเดียว

FAQ

สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงในการสร้าง Slogan และ Tagline 

สำหรับการทำการตลาดสร้างแบรนด์ด้วย Slogan และ Tagline นั้นมีข้อควรระวังก็คือการทำในสิ่งที่ตรงข้ามกันกับวิธีการเขียนที่ดี จะทำให้แบรนด์ไม่เกิด Impact และยังสร้างความสับสนได้อีกด้วย โดยสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงหากต้องการทำ Slogan และ Tagline ที่ดี ได้แก่

  • ใช้ประโยคหรือคำซ้ำซากจำเจ เช่น การเลือกใช้คำที่พบเห็นได้บ่อยมาเรียงกัน ทำให้ไม่เป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นมากพอ ไม่เข้าไปอยู่ในความจำผู้คน ไม่มีประสิทธิภาพมากพอ
  • ใช้ประโยคหรือคำที่ยากเกินไป เช่น การใช้คำที่อ่านออกเสียงยาก หรือมีความหมายซับซ้อน ทำให้ผู้บริโภคไม่เข้าใจ
  • ใช้ประโยคที่ยาวเกินไป ทำให้ยากต่อการจดจำและอาจเกิดความสับสนในตัวสินค้าและบริการได้ง่าย
  • ใช้ Slogan หรือ Tagline ที่ขัดแย้งกับภาพลักษณ์แบรนด์ เป็นเรื่องที่ Marketing ต้องให้ความสำคัญมาก เช่น ภาพลักษณ์แบรนด์มีความเป็น Hi-end เน้นกลุ่มลูกค้า Luxury การใช้คำหรือประโยคจะต้องให้ความรู้สึกเรียบง่ายแต่ทรงพลัง ไม่ใช้คำตลาดหรือประโยคที่เห็นทั่วไปในสินค้าอื่น ๆ เป็นต้น เพื่อไม่ให้เกิดการขัดแย้งกันเองในภาพลักษณ์ของแบรนด์

Tagline มีผลต่อการตัดสินใจซื้อหรือไม่

นอกจาก Tagline จะเป็นตัวช่วยในการสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ในระยะยาวทาง Marketing แล้ว การทำ Tagline ที่ดีและมีประสิทธิภาพก็ยังมีผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการของกลุ่มลูกค้าได้เช่นกัน เพราะ Tagline ก็เป็นเหมือนคำโฆษณาอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้กลุ่มเป้าหมายเกิดความรู้สึก Connect กับแบรนด์ได้ดีมากยิ่งขึ้น รวมถึง Tagline ที่คม ชัด มีความคลาสสิก สะท้อนไลฟ์สไตล์ชัด ยังมีแนวโน้มได้รับความนิยมจากกลุ่มคนรุ่นใหม่มากกว่าด้วย เป็นเหมือนการลงทุนในระยะยาวที่คุ้มค่าสำหรับแบรนด์

นานแค่ไหนถึงควรเปลี่ยน Slogan  

สำหรับ Slogan แม้จะเปลี่ยนได้บ่อยกว่า Tagline แต่ก็ไม่ได้มีระยะเวลาตายตัวว่าแบรนด์จะต้องเปลี่ยนสโลแกนในทุก ๆ กี่เดือนหรือกี่ปี เพราะการเปลี่ยนสโลแกนนั้นก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และเป้าหมายของแบรนด์เป็นหลัก หากพิจารณาแล้วว่าตอนนี้ Slogan ของแบรนด์ไม่ตรงตามแผน Marketing  หรือมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางการตลาดใหม่และ Slogan มีความตกยุค ไม่ทันสมัย สื่อสารคุณค่าของแบรนด์ไม่ตรงจุด ก็สามารถพิจารณาเปลี่ยน Slogan ได้

 

หากคุณคือเจ้าของแบรนด์ที่สนใจทำเนื้อหาเกี่ยวกับ คอนเทนต์มาร์เก็ตติ้ง ที่ Digimusketeers เรามีบริการ Content Marketing เพิ่มมูลค่าธุรกิจและเพิ่มยอดขายให้กับแบรนด์ของคุณ เราให้บริการผลิตเนื้อหาในรูปแบบต่าง ๆ เช่น บทความ SEO, บทความทั่วไป Evergreen Content, Topical Content เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์ ให้ตรงกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย โดยทีมงานที่เชี่ยวชาญด้านการทำคอนเทนต์โดยเฉพาะ และมีประสบการณ์จากหลากหลายธุรกิจ เราพร้อมช่วยวางแผนให้แบรนด์ของคุณเติบโตอย่างมั่นคง

ให้เราช่วยสร้างสรรค์เนื้อหาคอนเทนต์เพื่อโปรโมตแบรนด์ธุรกิจ ติดต่อ 02-047-0088 หรือ Add Line เพื่อปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

คุณกำลังต้องการเพิ่มยอดขายออนไลน์ให้ธุรกิจของคุณอยู่หรือไม่

ปรึกษาฟรี!

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้ของเรา

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับ
Manage Consent Preferences บันทึก