สังเกตกันไหมว่าในช่วงหลังมานี้เรามีคนรอบตัวที่เลี้ยงสัตว์กันมากขึ้นเรื่อยๆ และที่สำคัญคือไม่ได้แค่เลี้ยงให้ข้าวให้น้ำเฉย ๆ แต่มีความทุ่มเท ใส่ใจในทุกรายละเอียดเหมือนเลี้ยงลูกจริง ๆ เป็นเทรนด์ที่ทำให้แบรนด์ต่าง ๆ ต้องตระหนักถึงสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับ Pet Parent และมีความเป็น Pet Friendly กันมากขึ้น เพื่อเอาใจกลุ่มทาสหมาทาสแมวที่กำลังเติบโตสูงขึ้น !
Pet Parent คืออะไร
สำหรับ Pet Parent ก็มีความหมายง่าย ๆ ที่ตรงตัวก็คือการเป็นผู้ปกครองของสัตว์เลี้ยง ซึ่งเป็นมากกว่าเจ้าของที่ให้ข้าวให้น้ำให้ที่นอน แต่ Pet Parent จะใส่ใจรอบด้าน ให้ความรักความเอาใจใส่ทั้งเรื่องจิตใจและสุขภาพของสัตว์เลี้ยง ไม่ต่างอะไรกับการเลี้ยงเด็กหรือเลี้ยงลูกของตัวเองจริง ๆ
เปิดสถิติ ! เทรนด์การเลี้ยงสัตว์แบบ Pet Parent ทำตลาดอาหารสัตว์โตเพิ่ม
แน่นอนว่าเมื่อตลาดการเลี้ยงสัตว์ขยายตัวใหญ่ขึ้น มีกลุ่มคนที่เข้ามาเป็น Pet Parent เพิ่มมากขึ้นรวมถึงเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยม การเปลี่ยนแปลงตรงนี้ก็ได้สร้างแรงกระเพื่อมโดยตรงไปยังกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นอาหารสัตว์ สินค้าเพื่อสัตว์เลี้ยง หรือบริการพิเศษสำหรับสัตว์เลี้ยง
โดยข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทยในปี 2567 ได้เผยให้เห็นว่าตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงทั้งในไทยมีการเติบโตและโดดเด่นมากกว่าปีก่อน ๆ ที่ผ่านมาถึง 15.8% โดยมีมูลค่าการตลาดทั้งสิ้นอยู่ที่ 41,700 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่าความนิยมในการเลี้ยงสัตว์นั้นเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและชัดเจน เทรนด์การเป็น Pet Parent ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี
นอกจากการเติบโตของธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงในไทยแล้ว การส่งออกเองก็มีการขยายตัวสูงถึง 19.5% เพราะเทรนด์การเลี้ยงสัตว์เหมือนคนในครอบครัวนั้นไม่ได้เป็นเทรนด์แค่ในไทย แต่เป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ทำให้ในปี 2567 มูลค่าการส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงสูงถึง 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และนักวิเคราะห์ยังมองว่าแนวโน้มการเติบโตของอาหารสัตว์จะยิ่งขยายตัวเพิ่มขึ้นในปีถัด ๆ ไปด้วย
โพลเผย! คนไทยเลี้ยงสัตว์เหมือนลูก เปย์หนัก 1-2 หมื่นบาทต่อปี
โดย The1Insight ได้ทำการสำรวจ Pet Parent เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการดูแลสัตว์เลี้ยง รวมถึงความนิยมในการเป็นทาสหมา และทาสแมวที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นไม่หยุด ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยงได้รับความนิยมสูงตั้งแต่ช่วงหลังการระบาดของ Covid-19 เป็นต้นมา
ผลสำรวจพบว่า คนในแต่ละ Generation มีความนิยมเลี้ยงสัตว์ที่แตกต่างกัน ดังนี้
- คน Gen Z นิยมเลี้ยงสุนัขมากที่สุด
- คน Gen Y นิยมเลี้ยงแมวมากที่สุด (กว่า 50% ได้มาจากการรับอุปการะ)
- คน Gen X นิยมเลี้ยงนกและปลา สัตว์ Exotic
- คน Gen Baby Boomer ไม่นิยมเลี้ยงสัตว์
แต่ถ้าถามว่าระหว่างทาสหมาและทาสแมวใครเปย์หนักกว่ากัน ผลสำรวจพบว่าทาสแมวใช้จ่ายกับผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับแมวมากที่สุด คิดเป็น 63% ส่วนทาสหมา รองลงมาอยู่ที่ 31% ดังนั้นแล้วสำหรับธุรกิจและบริการที่ต้องการหาโฟกัสว่าควรจะเน้นไปที่กลุ่มเป้าหมายใดเป็นหลัก สำหรับคำตอบก็คงจะหนีไม่พ้นกลุ่ม Gen Z, Gen Y และ Gen X ที่เป็นกลุ่มวัยที่สนใจในการเลี้ยงสัตว์มากกว่ากลุ่ม Baby Boomer นั่นเอง
เทรนด์ที่พักอาศัยที่เปลี่ยนไปตามเทรนด์ Pet friendly
นอกจากเรื่องของอาหารแล้ว อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ Pet Parent มักมองหาและให้ความสนใจก็คือเรื่องของสถานที่ หรือที่พักอาศัยที่มีความเป็น Pet Friendly มีพื้นที่เหมาะสมสำหรับการเลี้ยงสัตว์ หรืออนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้ ซึ่งส่วนใหญ่ที่พักประเภทนี้จะมีราคาสูงกว่าที่พักทั่วไปแต่สามารถตอบโจทย์กับความต้องการของ Pet Parent ได้ จึงทำให้ธุรกิจอสังหามีแนวโน้มที่จะสร้างที่พักอาศัยที่มีความเป็น Pet Friendly สูงขึ้นด้วยเพื่อรองรับกลุ่มเป้าหมายทาสหมาทาสแมวที่เพิ่มสูงขึ้นในอนาคต
สรุป
จะเห็นได้ว่าเทรนด์การเลี้ยงสัตว์ในยุคปัจจุบันนั้นเป็นมากกว่าแค่เจ้านายกับสัตว์เลี้ยง แต่สัตว์เลี้ยงถูกวางไว้ในตำแหน่งคนในครอบครัว มีการดูแลเอาใจใส่เหมือนกับการเลี้ยงลูกตัวเอง ทำให้แบรนด์และธุรกิจที่อยากเข้ามามีส่วนร่วมในเทรนด์ Pet Parent นี้ต้องมีการปรับกลยุทธ์การตลาดเข้าสู่การเป็น Pet Friendly เพื่อตอบโจทย์เทรนด์การเลี้ยงสัตว์ที่มีแนวโน้มเติบโตมากกว่าเดิมในอนาคตด้วย
FAQ เกี่ยวกับเทรนด์ Pet parent
วิธีสร้างแบรนด์ให้เป็นส่วนหนึ่งของเทรนด์ Pet Friendly
สำหรับแบรนด์หรือธุรกิจที่อยากจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเทรนด์การเลี้ยงสัตว์ หรือต้องการเจาะกลุ่มเป้าหมายที่เป็น Pet Parent สามารถนำแผนกลยุทธ์เหล่านี้ไปปรับใช้ในการทำการตลาดของแบรนด์ได้ แต่อย่าลืมเน้นย้ำความจริงใจ เป็นธรรมชาติระหว่างแบรนด์และสัตว์ด้วย
- สร้างสรรค์คอนเทนต์ที่น่าสนใจ เช่น การสร้างคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยง วิธีการดูแลสัตว์เลี้ยง สูตรอาหาร หรือเคล็ดลับการฝึกสัตว์
- ออกแบบผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ต่อคนรักสัตว์
- ออกแบบร้านหรือสถานที่ให้บริการมีความเป็น Pet friendly มากขึ้น
- สร้างความร่วมมือระหว่างแบรนด์กับสัตว์เลี้ยง เช่น การคอลแลปกับ Pet Influencer เป็นต้น
บริการรูปแบบไหนที่ได้รับความนิยมจาก Pet Parent
สำหรับรูปแบบของธุรกิจบริการที่ได้รับความนิยม 3 อันดับแรกจากกลุ่มคนเลี้ยงสัตว์ที่เป็น Pet Parent ตามผลสำรวจของโพลจาก The 1 Insight ได้แก่
- บริการอาบน้ำ ตัดขน สปาสัตว์เลี้ยง
- บริการรับฝากเลี้ยง
- บริการสระว่ายน้ำ หรือสถานที่ออกกำลังกายสำหรับสัตว์เลี้ยง
ซึ่งทั้ง 3 อันดับ ก็ถือเป็นกลุ่มธุรกิจสุขภาพสัตว์เลี้ยงที่ตอบโจทย์ความต้องการ Pet Parentt ในยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี เพราะมีกลุ่มคนเลี้ยงสัตว์กว่า 65% ที่ชื่นชอบและต้องการใช้บริการ “Pet Wellness Centre” ที่มีบริการอย่างครบครันสำหรับสัตว์เลี้ยง รวมถึงยังมีอีก 40% ที่ต้องการ “คลินิกเฉพาะทาง” สำหรับสัตว์เลี้ยงของพวกเขาด้วย ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการทางสุขภาพของสัตว์เลี้ยง เป็นอีกหนึ่งรูปแบบธุรกิจที่มีความน่าสนใจที่จะได้รับความนิยมจากเทรนด์ในปัจจุบันสูงด้วย
วิธีนำเทรนด์ “Adopt, Don’t Shop” มาประยุกต์ใช้กับธุรกิจ
สำหรับการเลี้ยงสัตว์ในปัจจุบัน พบว่ากลุ่มคนที่เลี้ยงสัตว์ประเภท Exotic จะเลือกซื้อสัตว์จากฟาร์ม แต่กลุ่มคนที่เลี้ยงสัตว์ประเภทแมวและสุนัขจะใช้วิธีการรับอุปการะ ตามการรณรงค์ที่เรียกว่า Adopt, Don’t Shop ที่อยากให้ผู้คนที่ต้องการเลี้ยงสัตว์ หันมารับเลี้ยงสัตว์จากศูนย์พักพิงหรือองค์กรช่วยเหลือสัตว์มากกว่าการเลือกซื้อจากฟาร์มที่ก่อให้เกิดปัญหาทางพันธุกรรมของสัตว์ หรือเกิดการทำร้ายสัตว์ (Animal Abuse) ในรูปแบบต่าง ๆ เพิ่มขึ้น
สำหรับแบรนด์ที่อยากมีส่วนร่วมกับเทรนด์ Adopt, Don’t Shop เอาใจทาสหมาทาสแมว เรามีวิธีการมาฝากกันง่าย ๆ เพื่อช่วยปรับภาพลักษณ์ให้แบรนด์มีความเป็น Pet Friendly ตระหนักรู้ถึงปัญหาที่แท้จริง และได้ใจกลุ่มคนที่เป็น Pet Lover ดังนี้
- ร่วมมือกับองค์กรช่วยเหลือสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นการจัดกิจกรรมร่วมกัน การเป็นผู้สนับสนุนกิจกรรมหาเจ้าของให้สัตว์เลี้ยงไร้บ้าน หรืองานระดมทุนต่าง ๆ
- บริจาคสินค้าหรือให้บริการเกี่ยวกับสัตว์ เช่น โครงการบริจาคอาหารสัตว์ในศูนย์พักพิงสัตว์ไร้บ้าน หรือบริการตรวจสุขภาพสัตว์ในศูนย์พักพิง เป็นต้น
- สร้างการตระหนักรู้ เพราะมีอีกหลายคนที่ยังไม่เข้าใจเกี่ยวกับแคมเปญนี้ และเลือกซื้อสัตว์จากความน่ารัก ซื้อตามเทรนด์ การทำคอนเทนต์หรือร่วมมือกับ Influencer เพื่อให้ความรู้สามารถสร้างภาพลักษณ์ด้านบวกให้กับแบรนด์ได้
- สนับสนุนกิจกรรมเพื่อสัตว์ในรูปแบบต่าง ๆ ที่เหมาะสม
หากคุณคือเจ้าของแบรนด์ที่สนใจทำเนื้อหาเกี่ยวกับ คอนเทนต์มาร์เก็ตติ้ง ที่ Digimusketeers เรามีบริการ Content Marketing เพิ่มมูลค่าธุรกิจและเพิ่มยอดขายให้กับแบรนด์ของคุณ Digimusketeers เราให้บริการผลิตเนื้อหาในรูปแบบต่าง ๆ เช่น บทความ SEO, บทความทั่วไป Evergreen Content, Topical Content เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์ ให้ตรงกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย โดยทีมงานที่เชี่ยวชาญด้านการทำคอนเทนต์โดยเฉพาะ และมีประสบการณ์จากหลากหลายธุรกิจ เราพร้อมช่วยวางแผนให้แบรนด์ของคุณเติบโตอย่างมั่นคง
สร้างสรรค์เนื้อหาคอนเทนต์เพื่อโปรโมตแบรนด์ธุรกิจ
แอดไลน์เพื่อปรึกษาเราฟรี
เลือกอ่านบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับ Content Marketing