เทรนด์ออกแบบเว็บไซต์ 2023

6 เทรนด์ออกแบบเว็บไซต์ 2023 ปรับปรุงเว็บไซต์ให้ทันสมัยต้องอ่าน

Digimusketeers, 3 November 2022

เทคโนโลยีนั้นมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ สิ่งใหม่ ๆ ที่ดีกว่ามักจะเข้ามาแทนที่สิ่งเดิม เจ้าเทคโนโลยีที่มีการปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลานี่แหละที่มีส่วนในการตัดสินใจซื้อ การสื่อสาร หรือวิธีการทำงานของแบรนด์ด้วย การออกแบบเว็บไซต์ก็ถือเป็นอีกเทคโนโลยีเช่นกัน ซึ่งในแง่มุมของธุรกิจก็มักจะต้องปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีด้วย ตั้งแต่การออกแบบผลิตภัณฑ์ การผลิต การทำการตลาด รวมไปถึงการออกแบบเว็บไซต์ด้วย

รู้ไหมว่าดีไซน์และการตอบสนองของเว็บไซต์นั้นส่งผลต่อคนที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ในส่วนของ Conversion โดยตรงด้วยนะ ซึ่งมีถึง 42% ของผู้เยี่ยมชมตัดสินใจออกจากเว็บไซต์เพราะเว็บไซต์มีฟังก์ชันการทำงานที่แย่ ในขณะที่ 73.1% ของนักออกแบบเชื่อว่าการออกแบบเว็บไซต์ที่ไม่ตอบโจทย์กับผู้บริโภคนั้นเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้พวกเขาตัดสินใจออกจากเว็บไซต์ ดังนั้นการออกแบบเว็บไซต์จึงมีความสำคัญมากในมุมมองของการทำธุรกิจ หากคุณสามารถเปลี่ยนให้คนที่เข้ามาดูเว็บไซต์แบรนด์นั้นกลายมาเป็นลูกค้าได้

ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ประกอบการในธุรกิจอุตสาหกรรมไหนในยุคนี้ก็ต้องมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองเพื่อเข้าถึงลูกค้าให้คลอบคลุมและทำให้แบรนด์ดูน่าเชื่อถือ ซึ่งการสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ให้ดูดีในสายตาลูกค้าและการออกแบบเว็บไซต์ก็เป็นส่วนหนึ่งในนั้น ก่อนจะไปดูเทรนด์ออกแบบเว็บไซต์ปี 2023 ขอให้นักออกแบบแวะไปดู UX/UI ที่ไม่ควรเอามาใช้กัน

 

UX/UI

UX/UI ที่นักออกแบบไม่ควรใช้

มาเช็กกันหน่อยว่าเว็บไซต์แบรนด์ของคุณมีการออกแบบ UX/UI เหล่านี้อยู่หรือเปล่า ถ้ามีขอให้เปลี่ยนด่วนเลยนะ 

1. Pop-up เยอะเกินไป : การมี Pop-up ก็เป็นสีสันในเว็บไซต์ได้ แต่ถ้ามีเยอะเกินไปจะทำให้ผู้ใช้รู้สึกรำคาน แถมยังส่งผลต่อการจับอันดับใน Google ด้วย

2. ไม่เรียงลำดับการอ่าน : สร้างความสับสนให้ผู้ใช้งานได้ดีนัก โดยเฉพาะในตอนที่แบรนด์อยากให้ผู้ใช้งาน Take Action กับเว็บไซต์ 

3. วิดีโออัตโนมัติ : ถือเป็นข้อผิดพลาดสำหรับนักออกแบบมาก ๆ ทั้งทำให้เว็บไซต์ทำงานหนักและสร้างความรำคาญให้ผู้ใช้งาน

4. สี Contrast สุดแย่ : ข้อนี้สำคัญมาก ต้องเป็นคู่สีที่ใช้แล้วไม่กลืนกัน ใช้แล้วกระตุ้นให้คนอยากอ่านหรือแยกความต่างออกจากเลย์เอาต์อื่นได้

5. เน้นสวยไม่เน้นใช้งาน : ออกแบบเว็บไซต์ต้องไม่เน้นแค่สวยงามอย่างเดียว ต้องเน้นเป็นมิตรต่อการใช้งานด้วยนะ 

6. ฟีเจอร์แน่นไม่ไหว : การมีฟีเจอร์มากมายมันดีก็จริง หากลูกค้าใช้งานผ่านคอมพิวเตอร์ แต่หากนักออกแบบใส่ฟีเจอร์แน่นเกินไปมันอาจจะไปสร้างปัญหาให้กับผู้ใช้งานบนสมาร์ทโฟน เพราะประสิทธิภาพการทำงานลดลง

  

6 เทรนด์ออกแบบเว็บไซต์

6 เทรนด์ออกแบบเว็บไซต์ 2023

Accessibility การเข้าถึงที่ครอบคลุม

ผลสำรวจจากเว็บไซต์ digital.com บอกว่าจำนวนครึ่งหนึ่งของลูกค้าเลือกทิ้งตะกร้าสินค้าหากหน้าเว็บไซต์นั้นโหลดช้าเกินไป หรือมีการโหลดช้ากว่า 6 วินาทีนั่นเอง นอกจากความไวแล้ว ความปลอดภัยของข้อมูล และดีไซน์ที่เป็นมิตรยังส่งผลต่อฟงก์ชันการทำงานโดยรวมที่จะช่วยดึงความสนใจของผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ให้อยู่นานได้ สิ่งเหล่านี้ถือเป็นพื้นฐานสำคัญของการออกแบบเว็บไซต์อยู่แล้ว

แต่ยังมีอีกปัจจัยที่เราคิดว่าจะช่วยเพิ่มการเข้าถึงเว็บไซต์ได้ดีมาก ๆ ในปี 2023 ก็คือการออกแบบเว็บไซต์ให้สามารถเข้าถึงคนได้หลากหลายขึ้น ในที่นี้คือรวมถึงกลุ่มคนที่มีความทุพพลภาพต่าง ๆ ทุกวันนี้มีธุรกิจงอกขึ้นมาเรื่อย ๆ พวกเขาต่างก็พยายามสรรหาสิ่งที่จะมาพัฒนาเว็บไซต์ตัวเองให้ดีขึ้น เช่น การเลือก Contrast ที่สำหรับคนตาบอดสี, เพิ่มการถอดเสียงและคำอธิบายแบบภาพ, การเพิ่มข้อความเสียงและคำอธิบายลงไปในวิดีโอ, การออกแบบสำหรับผู้ที่มีความพิการทางสายตา รวมถึงการแบ่งเนื้อหาออกเป็นส่วนเล็ก ๆ เพื่อช่วยให้ผู้ที่มีความบกพร่องทางสติปัญญาสามารถใช้งานได้เป็นต้น

Parallax Scrolling

การเลื่อนแบบพารัลแล็กซ์ เป็นลูกเล่นที่น่าสนใจมากสำหรับเว็บไซต์ ซึ่งได้มีการนำมาใช้ประมาณ 3-4 ปีที่ผ่านมา แต่ในปี 2023 คาดว่าจะมีการเอามาใช้มากขึ้นจนถึงขึ้นเป็นที่นิยมในหมู่นักออกแบบเว็บไซต์เลยทีเดียว หลักการของ Parallax คือเมื่อคุณเคลื่อนไหวเมาส์ขึ้นลง เนื้อหาของเว็บไซต์จะเปลี่ยนไปตามเคลื่อนไหวนั้น ไม่ว่าจะเป็นการ Scroll, คลิกหรือลากก็ตามขึ้นอยู่กับการออกแบบเว็บไซต์นั้น ๆ แบบที่ผู้ใช้งานไม่ต้องเข้าไปคลิกตามหน้าเพจต่าง ๆ ถ้ายังนึกภาพไม่ออกเข้าไปดูในลิงก์นี้ได้เลย https://boy-coy.com/#contact , https://www.fk-agency.com 

เทรนด์ปรับปรุงเว็บไซต์

การใช้ลูกเล่นแบบ Parallax Scrolling จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณบอกเล่าเรื่องราวที่แบรนด์อยากจะสื่อสารออกไปให้ผู้ใช้งานได้สนุกสนานขึ้น สร้างประสบการณ์การใช้งานที่ไม่เหมือนเว็บไซต์ทั่วไป เพิ่มความมีมิติให้เว็บไซต์และยังดึงดูดให้พวกเขาอยู่บนเว็บไซต์นานขึ้นด้วย แต่สิ่งที่ต้องคำนึงในการใช้ลูกเล่นนี้คือใช้เท่าที่จำเป็นและอย่าป้อนข้อมูลที่อัดแน่นเกินไปในการเลื่อนหรือคลิกครั้งเดียวให้กับผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์

Dark Mode

Dark Mode ดูจะเป็นเรื่องที่บางคนเคยเห็นกันมาบ้างแล้วและมีเว็บไซต์ไม่มากนักที่เลือกใช้ฟีเจอร์นี้ ในปัจจุบันเริ่มมีการนำฟีเจอร์นี้มาใช้บนเว็บไซต์มากกันอย่างแพร่หลายในวงการออกแบบเว็บไซต์ และจะเป็นเทรนด์ที่นิยมมาก ๆ ในปี 2023 สาเหตุก็มาจากเทรนด์รักษาสุขภาพที่ผู้บริโภคหันมาใส่ใจกันมากขึ้น 

ซึ่ง Dark Mode นี้สามารถช่วยลดอาการปวดตาได้และทำให้อ่านข้อความได้นานขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยยืดหยุ่นอายุการใช้งานแบตเตอรี่บนอุปกรณ์ที่ใช้จอแสดงผล OLED และ AMOLED และในส่วนของดีไซน์การใช้ Dark Mode ยังทำให้เว็บไซต์ดูหรูหรา ทันสมัย ดูมีระดับมากขึ้นอีกด้วย แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูว่าการใช้ฟีเจอร์นี้นั้นส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์คุณหรือไม่ด้วยนะ

Art Deco

อาร์ตเดโคเป็นดีไซน์ที่เคยได้รับความนิยมมากในช่วงปี 1920 – 1930 เป็นดีไซน์ที่มีรูปทรงเรขาคณิต มีลายเส้นที่แข็งแรงและดูโฉบเฉี่ยว นิยมใช้กันในวงการออกแบบสถาปัตยกรรม แฟชั่น เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านหรือเครื่องประดับ ซึ่งในปี 2023 ดีไซน์นี้จะเป็นที่นิยมอย่างมากในวงการออกแบบเว็บไซต์ เพราะ Art Deco จะทำให้เว็บไซต์ดูมีความพิเศษเฉพาะตัวและยังสื่อถึงความประณีต ดูเป็นแบรนด์ที่น่าเชื่อถือได้ เหมาะสำหรับแบรนด์ที่อยู่ในอุตสาหกรรมสินค้าฟุ่มเฟือยและสินค้าไฮเอนด์ที่ลูกค้ามีกำลังซื้อสูง ชอบความหรูหรา 

นอกจากนี้ดีไซน์นี้ยังช่วยให้การออกแบบเว็บไซต์เรียงลำดับการเล่าเรื่องเนื้อหาได้ดีขึ้น การแบ่งเนื้อหาออกเป็นส่วนและใช้การลำดับภาพที่ชัดเจน บวกกับรูปทรงเรขาคณิตจะช่วยลดความเครียดและสร้างพื้นที่ว่างที่สมดุลให้กับเว็บไซต์ได้ดี

Bold Typography

หมดยุคของการที่อยู่แต่ในกรอบเดิม ๆ แล้ว คุณสามารถออกแบบมันได้อย่างอิสระมากขึ้น ตราบใดที่องค์ประกอบรวมทุกอย่างบนเว็บไซต์ยังดูเหมาะสมและสอดคล้องกับแบรนด์ ทั้งดีไซน์ เนื้อหา ภาพ รวมถึงฟอนท์ ซึ่งตัวพิมพ์หนาจะเป็นหนึ่งในเทรนด์ยอดนิยมของวงการออกแบบเว็บไซต์ในปี 2023 

สาเหตุก็มาจากความนิยมในความเรียบง่ายหรือดีไซน์มินิมอลนั้นยังคงเป็นที่นิยมมาเรื่อย ๆ ‘น้อยแต่มาก เรียบแต่เก๋’ เคยได้ยินกันไหม แต่ในขณะที่คุณลดความเยอะลงก็ต้องเน้นความสำคัญของแต่ละองค์ประกอบมากขึ้นด้วย เหล่านักออกแบบจึงพยายามสรรหาสิ่งที่จะทำให้เว็บไซต์นั้นดูน้อยแต่โดดเด่นอย่างเช่นการใช้ตัวพิมพ์หนานั่นเอง แต่ใช้เท่าที่จำเป็นนะ เช่น คำที่อยากเน้นหรือปุ่มที่กระตุ้นการตัดสินใจ ถ้าหากใช้ไปหมดทุกส่วนก็อาจส่งผลให้เว็บไซต์นั้นดูไม่เป็นมืออาชีพ

Glass Textures

Glass Textues จะกลายเป็นเทรนด์การออกแบบเว็บไซต์ที่มาแรงมาก ๆ ในปี 2023 ดีไซน์นี้จะทำให้เว็บไซต์ดูล้ำสมัยและสะอาดตา ดูยูนิค และในขณะเดียวกันก็ยังช่วยเพิ่มการมีมิติให้กับเว็บไซต์อีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น ดีไซน์ที่มาจากการหักเหของแสง การสะท้อน การวางที่ดูซับซ้อน ช่วยเพิ่มความน่าสนใจได้ดี ส่วนข้อที่ต้องระวังก็คือเรื่องการใช้งานต้องเป็นมิตรด้วยนะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการอ่านข้อมูล การสแกน การเลือกฟอนท์หรือองค์ประกอบอื่น ๆ ที่จะมาอยู่ร่วมด้วย

 

หวังว่านักออกแบบเว็บไซต์ทั้งหลายจะได้ไอเดียไปปรับใช้ในการปรับปรุงเว็บไซต์ให้ทันสมัยและตามเทรนด์กันมากขึ้นในปี 2023 นะ

อ้างอิง : https://www.thelogocreative.co.uk/6-web-design-trends-for-2023/

 

คุณกำลังต้องการเพิ่มยอดขายออนไลน์ให้ธุรกิจของคุณอยู่หรือไม่

ปรึกษาฟรี!

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้ของเรา

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับ
Manage Consent Preferences บันทึก