ในปัจจุบันการทำธุรกิจแบบ E-Commerce นับเป็นการทำการตลาดที่เป็นที่นิยมและได้ผลลัพธ์ดีมากที่สุด นอกจากทาง Social media แล้วยังมีการทำการตลาดผ่าน Website ซึ่งจะทำให้ธุรกิจของคุณดูน่าเชื่อถือมากขึ้น รวมทั้งยังสามารถทำกิจกรรมการตลาดอื่นๆ บนเว็บไซต์เพื่อนำมาเป็นฐานข้อมูลและนำไปปรับปรุงแผนการตลาดต่อไป
วันนี้เราจะมาเรียนรู้ 9 วิธีง่ายๆ ที่จะช่วยเพิ่ม Traffic ให้ผู้คนที่สนใจในธุรกิจของคุณ คลิ๊กเข้าสู่เว็บไซต์เพื่อมาดูสินค้าหรือรับข้อมูลข่าวสาร เพราะยิ่งมีคนเข้าเว็บไซต์มากขึ้นก็จะยิ่งทำให้โอกาสในการขายสินค้าของคุณมากขึ้นตามไปด้วย
Website Traffic คืออะไร?
Website Traffic คือข้อมูลจำนวนครั้งที่มีบุคคลหรืออุปกรณ์เข้ามาดูเว็บไซต์ในช่วงเวลาที่กำหนด ปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ ได้แก่
- ปริมาณการเข้าชมเชิงปริมาณ เป็นการวัดจำนวนครั้งทั้งหมดที่ผู้เข้าชมเข้ามาดูเว็บไซต์ในช่วงเวลาที่กำหนด เช่น จำนวนผู้ใช้ (Users) จำนวนการเข้าชม (Sessions หรือ Visits) จำนวนหน้าเว็บที่เปิด (Pageviews)
- ปริมาณการเข้าชมเชิงคุณภาพ เป็นการวัดคุณภาพของการเยี่ยมชมเว็บไซต์ เช่น ระยะเวลาเฉลี่ยที่ผู้เข้าชมอยู่ในแต่ละครั้ง (Avg. Session Duration หรือ Avg. Visit Duration) อัตราที่ผู้เข้าชมเข้ามาดูเว็บไซต์เพียงหน้าเดียวแล้วออกไป (Bounce Rate)
เจ้าของเว็บไซต์สามารถตรวจสอบปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์ของตนเองได้โดยการติดตั้งโค้ดของ Google Analytics ไว้ในเว็บไซต์ ซึ่งสามารถทำได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย นอกจากนี้สามารถใช้เครื่องมือ SimilarWeb ในการตรวจสอบปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์อื่นหรือเว็บไซต์คู่แข่งได้เช่นกัน
ความสำคัญของ Website Traffic
จากหัวข้อที่แล้วหลายคนคงทราบความหมายของ Website Traffic กันไปแล้ว ถัดไปเราจะพูดถึงความสำคัญของ Website Traffic บ้าง โดยมีดังนี้
1. สร้างการรับรู้
Website ที่มียอด Traffic สูง ย่อมมีโอกาสที่จะเป็นเว็บไซต์ที่มีคนรู้จักอย่างแพร่หลายและเป็นที่จดจำได้ง่าย ส่งผลให้เว็บไซต์เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจที่ต้องการขยายฐานลูกค้าหรือสร้างแบรนด์
2. เพิ่มความน่าเชื่อถือ
เว็บไซต์ที่มียอด Traffic สูง แสดงว่าเว็บไซต์มีเนื้อหาที่มีคุณภาพและมีประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจที่ต้องการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่องค์กร
3. เพิ่มโอกาสในการขาย
หากเว็บไซต์ของคุณเป็นเว็บไซต์สำหรับขายสินค้าหรือบริการ การที่มียอด Traffic เยอะ จะทำให้ลูกค้าเข้ามาเป็นจำนวนมากและขายได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจที่ต้องการเพิ่มยอดขาย
4. นำข้อมูลไปใช้งานต่อได้
เจ้าของเว็บไซต์สามารถนำข้อมูลพฤติกรรมของผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์จาก Google Analytics ไปปรับปรุงเว็บไซต์ รวมถึงนำไปวางแผนและวัดผลทางการตลาดได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจที่ต้องการปรับปรุงเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพและบรรลุวัตถุประสงค์ทางการตลาด
5. ส่งผลดีต่อ SEO
Traffic เป็นปัจจัยส่วนหนึ่งที่มีผลต่อการทำ SEO (Search Engine Optimization) เพื่อให้เว็บไซต์ติดอันดับแรกๆ เวลาค้นหาบน Google หรือที่เรียกว่า Organic Search ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจที่ต้องการเพิ่ม Traffic จากผลการค้นหาบน Google
แนะนำ 9 วิธีโปรโมตเว็บไซต์ เพิ่มยอด Traffic แบบมั่นคง
การโปรโมตเว็บไซต์ให้ติดอันดับการค้นหาที่สูงขึ้น (Search Engine Optimization: SEO) มีความสำคัญต่อธุรกิจและเว็บไซต์เป็นอย่างมาก เพราะจะช่วยให้เว็บไซต์เป็นที่รู้จักและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น
โดยวิธีโปรโมตเว็บไซต์สามารถทำได้หลายวิธี ทั้งแบบเสียเงินและไม่เสียเงิน ทำได้ทันทีและต้องใช้เวลาในการไต่อันดับ นักการตลาดและเจ้าของธุรกิจจำเป็นต้องประยุกต์เทคนิคแต่ละอย่างมาปรับใช้ในแผนการตลาดของตนเองให้เหมาะสม
เพื่อให้การโปรโมตเว็บไซต์เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้และได้ผลอย่างยั่งยืน สำหรับวิธีโปรโมตเว็บไซต์สามารถทำได้ ดังต่อไปนี้
1. สร้าง Content ให้มีความน่าสนใจ
มีการอัปเดตสม่ำเสมอถูกต้องตามหลักการเขียน SEO ไม่ว่าจะผ่าน Keywords , Topic หรือ Detail ใน Content นั้นๆ จะช่วยเป็นแรงดึงดูดบุคคลที่สนใจในธุรกิจของคุณเข้ามาสู่เว็บไซต์มากขึ้น
เริ่มต้นจากการตั้ง Keywords ให้ติดอันดับต้นๆ ของการค้นหาและครอบคลุมเกี่ยวกับธุรกิจของคุณมีการทำการเปรียบเทียบจาก Keywords อื่นๆ ที่ใกล้เคียงกับธุรกิจของคุณ แล้วนำมาปรับเปลี่ยนให้น่าสนใจมากขึ้น
Content ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ คุณย่อมสามารถปรับให้เป็น Content ที่มีสาระ ชวนติดตาม หรือให้ความรู้พื้นฐานเพื่อดึงความสนใจกลุ่มลูกค้าให้เข้ามาในเว็บไซต์หลังมีการค้นหา Keywords ในอินเทอร์เน็ต การตั้ง Topic ให้สะดุดตา น่าติดตามหรือการแทรกรูปภาพเพื่อให้ดูน่าสนใจยิ่งขึ้นย่อมส่งผลดี
และในการทำ Content นั่น คลิปวีดีโอสั้นๆ มักจะเป็น Content ที่สร้างแรงจูงใจให้มีผู้เข้าชมเว็บไซต์เสมอ จึงควรมีการปรับเปลี่ยนอัปเดตเว็บไซต์ของคุณให้มี Content หลากหลายแบบ
2. ใช้ประโยชน์จาก Social Media
ในการกระจายข้อมูลของธุรกิจของคุณ กระจายข้อมูลของเว็บไซต์ไปตาม Social Media ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อโฆษณาหรือการแชร์ขึ้นไปยัง Social Media อื่นๆ ของธุรกิจคุณ นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้เครื่องมือการทำโฆษณาบน Social Media ที่สามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่อาจจะกลายเป็นลูกค้าของคุณได้ในอนาคต
การสร้างกระแสใน Twitter ก็เป็นทางเลือกอีกทางหนึ่งที่สามารถดึง Traffic ลูกค้าให้เข้ามาหาข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของคุณเพิ่มเติมในเว็บไซต์ได้ ในการใช้สื่อ Social Media อาจจะมีข้อกำหนดเกี่ยวกับการทำโฆษณาคุณจึงจำเป็นต้องศึกษาอย่างละเอียดเพื่อให้การทำโฆษณาบน Social Media เพื่อมีผลมายังเว็บไซต์ของธุรกิจให้มากที่สุด
3. การซื้อโฆษณาผ่าน Display ตามเว็บที่น่าสนใจ
เพื่อสร้างเครือข่ายเว็บไซต์ของธุรกิจคุณให้เป็นที่รู้จักด้วยการทำ Banner ให้น่าสนใจ มีการใส่ข้อความ เพื่อดึงดูดผู้คนให้คลิ๊กเข้าสู่เว็บไซต์ โดยที่ในการทำ Advertising ผ่านเว็บไซต์อื่นๆ จะต้องมีค่าใช้จ่ายดังนั้นคุณควรเลือกเว็บไซต์ที่เชื่อมโยงและใกล้เคียงกับธุรกิจของคุณให้มากที่สุดเพื่อจะได้เข้าใกล้กลุ่มเป้าหมายมากขึ้น
4. การทำ E-Newsletter
ส่ง E-mail ถึงผู้ที่เข้ามาทำ Conversion ในหน้าเว็บไซต์ เพื่อจัดทำข้อมูลข่าวสาร Content, Promotion หรือกิจกรรมอื่นๆ เพื่อให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้ทำการคลิ๊กเพื่อเข้ามายังเว็บไซต์อีกครั้งเพื่อรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่คุณต้องการที่จะสื่อถึง ซึ่งการกลับเข้ามาชมเว็บไซต์อีกครั้งคือการทำ E-mail letter ที่ได้ผล
5. ใช้การตลาดแบบ Influencer Outreach
การติดต่อร่วมงานกับบุคคลที่มีชื่อเสียงเพื่อแนะนำเว็บไซต์หรือธุรกิจของคุณก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการรีวิวจากบุคคลที่เป็นที่นิยม นำคลิปหรือบทสัมภาษณ์ลงในเว็บไซต์หรือการที่คุณอ้างอิงความคิดเห็นเกี่ยวกับธุรกิจของคุณจากบุคคลที่มีชื่อเสียงเหล่านั้นก็เป็นการดึงกลุ่มลูกค้าให้เข้ามาสนใจธุรกิจของคุณมากขึ้น
แต่การทำการตลาดในรูปแบบนี้ จำเป็นต้องมีการทำข้อตกลงอย่างชัดเจนกับบุคคลที่คุณต้องการให้มาเป็น Influencer เสียก่อน
6. จัดทำ Blog ในเว็บไซต์ เพื่อให้เกิดการตอบโต้ระหว่างคุณและกลุ่มเป้าหมาย
แต่การทำ Blog ต้องทราบถึงความเสี่ยงที่จะมี Post ที่ไม่ส่งผลดีกับเว็บไซต์หรือธุรกิจของคุณ ดังนั้นตัวคุณเองสมควรที่จะต้องเข้ามามีส่วนร่วมใน Blog เพื่อแก้ไขกรณีที่ลูกค้ามีข้อสงสัยเกี่ยวกับธุรกิจของคุณ ซึ่งการเขียน Blog จำเป็นต้องมีการเขียนที่ถูกหลัก SEO เพื่อที่ Blog ของคุณจะได้ติดอันดับใน Google ต่อไป
7. ใช้เครื่องมือ Google Analytics เพื่อตรวจสอบผู้เข้าชมเว็บไซต์ของคุณ
ว่ามาจากที่ไหน อย่างไร เพื่อต่อยอดข้อมูลเหล่านี้ในการหาKeywords หรือสร้าง Content ที่จะดึงดูดกลุ่มเป้าหมายให้เข้ามามี Conversion ในเว็บไซต์ของคุณรวมถึงการนำข้อมูลตรงนั้นมาปรับปรุงเว็บไซต์ของคุณต่อไป
8. การตรวจสอบการเข้าใช้งานเว็บไซต์อย่างสม่ำเสมอ
เช่น ความเร็วของเว็บไซต์ การแสดงผลของเว็บไซต์ที่สามารถรองรับได้ทุกอุปกรณ์อย่างไม่ติดขัด รวมไปถึงการทดสอบทำ A/B testing ประสิทธิภาพของ CTR การทำสถิติส่วนของเว็บไซต์ธุรกิจของคุณเพื่อทำสถิติสิ่งที่คนสนใจมากที่สุด
การตรวจสอบเหล่านี้จะช่วยให้การเข้ามาค้นหาข้อมูลในเว็บไซต์ของคุณสะดวกมากขึ้นและยังทำให้คุณสามารถตรวจสอบการทำงานของเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
9. ใช้ Platform อื่นๆ มาเป็นตัวเชื่อมข้อมูลเว็บไซต์
ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นนอกจาก Social Media เช่น Platform ที่ผู้คนเข้ามาค้นหางาน เป็นต้น ถ้าเว็บไซต์ของคุณมีการ Link มาที่นี่ โอกาสในการคลิกเข้าชมเว็บไซต์ของธุรกิจคุณก็จะมากขึ้น
เหมือนเป็นการแพร่ข้อมูลธุรกิจของคุณออกไปในที่สาธารณะที่มีกลุ่มคนที่มีความสนใจหลากหลายมากขึ้นและหลังจากทำโฆษณากับ Platform ใดๆ ต้องอย่าลืมที่จะทำสถิติเก็บไว้ด้วย
สรุป
จำนวนของ Website traffic สามารถแสดงความน่าเชื่อถือของธุรกิจของคุณ โดยการวางแผนดึงดูดกลุ่มเป้าหมายด้วยการทำตามเทคนิคต่างๆ เหล่านี้จะส่งผลต่อผลลัพธ์ทางธุรกิจของคุณไปในทางไหนอยู่ที่ความสามารถในการสร้างสิ่งที่น่าสนใจพร้อมทั้งการใช้เครื่องมือต่างๆ ในการทำการตลาดอย่างเหมาะสมได้นั่นเอง
ขอบคุณเนื้อหาจาก: