กลยุทธ์การตลาดออนไลน์มีหลากหลายรูปแบบ เช่น การทำ SEO, คอนเทนต์, ยิงแอด หรือแม้แต่ Social Media Marketing Strategy ก็ล้วนเป็นเครื่องมือสำคัญในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้ทั้งสิ้น
ดังนั้นธุรกิจจึงจำเป็นต้องศึกษาและวางกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับธุรกิจของตนเอง เพื่อสร้าง Social Media Marketing Strategy ที่ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์ม
บทความนี้จะเป็นประโยชน์แก่ธุรกิจที่ยังไม่เคยทำ Social Media Marketing Strategy เพื่อนำข้อมูลเหล่านี้ไปปรับใช้ได้ต่อไป
Social Media Marketing Strategy คืออะไร?
Social Media Marketing Strategy หมายถึง กลยุทธ์ในการสร้างคอนเทนต์ลงบน Social Media เพื่อประชาสัมพันธ์แบรนด์ โดยทั่วไปจะประกอบไปด้วย 3 ส่วนใหญ่ ๆ ได้แก่ Content Outline, Content Plan และ KPI ซึ่งสามารถอธิบายได้คร่าว ๆ ดังนี้
Social Media Marketing Strategy คือแผนการดำเนินงานบนโซเชียลมีเดียที่ครอบคลุมตั้งแต่การกำหนดเป้าหมาย กลยุทธ์ เนื้อหา ไปจนถึงการวัดผล เพื่อสร้างการรับรู้และมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมาย
โดยเนื้อหาหลักของ Social Media Marketing Strategy ประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่
Content Outline
เป็นการกำหนดรูปแบบและประเภทของคอนเทนต์ที่จะโพสต์ลงบนโซเชียลมีเดีย ซึ่งควรพิจารณาจากเป้าหมายและกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจ เช่น ธุรกิจที่ต้องการเพิ่มยอดขาย อาจเน้นคอนเทนต์ประเภทรีวิวสินค้าหรือโปรโมชั่น ในขณะที่ธุรกิจที่ต้องการสร้างการรับรู้แบรนด์ อาจเน้นคอนเทนต์ประเภทสาระความรู้หรือความบันเทิง
Content Plan
เป็นการกำหนดแผนในการโพสต์คอนเทนต์ลงบนโซเชียลมีเดีย ซึ่งควรระบุรายละเอียดต่างๆ เช่น ประเภทของคอนเทนต์ ช่วงเวลาในการโพสต์ ช่องทางในการโพสต์ เป็นต้น
KPI
เป็นการกำหนดตัวชี้วัดความสำเร็จของ Social Media Marketing Strategy ซึ่งอาจใช้เกณฑ์ต่างๆ เช่น จำนวนการเข้าถึง (Reach) จำนวนไลก์ คอมเมนต์ แชร์ (Engagement) หรือยอดขาย เป็นต้น
Social Media Marketing Strategy สำคัญต่อธุรกิจอย่างไร?
หากธุรกิจของคุณมีการวาง Social Media Marketing Strategy ที่ดี และสามารถลงมือทำได้จริง จะส่งผลให้ธุรกิจของคุณได้รับประโยชน์มากมาย ดังนี้
1. กำหนดเป้าหมาย และวิธีการทำแคมเปญต่างๆ ได้อย่างชัดเจน
การวาง Social Media Marketing Strategy จะช่วยให้นักการตลาดกำหนดเป้าหมาย และวิธีการทำแคมเปญต่างๆ ได้อย่างชัดเจน โดยเริ่มจากการกำหนดเป้าหมายทางการตลาด เช่น การเพิ่มยอดขาย การสร้างการรับรู้แบรนด์ หรือการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า จากนั้นจึงกำหนดกลุ่มเป้าหมาย และวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้งานโซเชียลมีเดียของกลุ่มเป้าหมาย เพื่อวางแผนคอนเทนต์และกิจกรรมต่างๆ ที่เหมาะสม
2. สามารถติดตามผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การวางแผน Social Media Marketing Strategy ล่วงหน้าจะช่วยให้นักการตลาดสามารถติดตามผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการกำหนด KPI ที่เหมาะสม เพื่อติดตามผลลัพธ์ของแคมเปญ และนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงกลยุทธ์ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
KPI ที่นิยมใช้วัดผล Social Media Marketing ได้แก่
- จำนวนการเข้าถึง (Reach)
- จำนวนการมีส่วนร่วม (Engagement)
- จำนวนการคลิก (Click-through rate)
- อัตรา Conversion (Conversion rate)
- ยอดขาย (Sales)
3. สามารถนำข้อผิดพลาดในอดีต มาปรับปรุงแผนเพื่อผลลัพธ์ที่ดีกว่าเดิม
การวางแผน Social Media Marketing Strategy ล่วงหน้ามีประโยชน์หลายประการ รวมถึงการ สามารถติดตามผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ, สามารถนำข้อผิดพลาดในอดีต มาปรับปรุงแผนเพื่อผลลัพธ์ที่ดีกว่าเดิม และ สามารถวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อวางแผนคอนเทนต์และกิจกรรมต่างๆ ให้ตรงกับความสนใจและพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย
โดยการกำหนด KPI หรือตัวชี้วัดความสำเร็จของการทำ Social Media Marketing Strategy จะช่วยให้นักการตลาดสามารถติดตามผลลัพธ์ของแคมเปญได้อย่างชัดเจน โดย KPI ที่เหมาะสมควรสอดคล้องกับเป้าหมายของการทำ Social Media Marketing Strategy เช่น
- เป้าหมายการเพิ่มยอดขาย : ยอดขาย ยอดสั่งซื้อ ยอดการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- เป้าหมายการสร้างการรับรู้แบรนด์ : จำนวนผู้ติดตาม จำนวนการเข้าถึง ยอดไลก์ คอมเมนต์ แชร์
- เป้าหมายการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า : จำนวนผู้มีส่วนร่วม คะแนนความพึงพอใจของลูกค้า
แชร์ 9 ขั้นตอนวาง Social Media Marketing Strategy เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ปรับเข้าได้กับธุรกิจ
1. ตั้งเป้าหมายในการทำ Social Media Marketing Strategy
อันดับแรกคุณควรรู้ก่อนว่าคุณมีเป้าหมายในการใช้ Social Media อย่างไรบ้าง? เช่น เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ, เพิ่มยอดขายและยอดลงทะเบียน, เพิ่มการรับรู้แบรนด์ เป็นต้น โดยถ้าวางแผน Social Media Marketing Strategy ควรต้องมีความสอดคล้องกับจุดประสงค์ที่ตั้งไว้ เพราะถ้าคุณไม่ได้ทำตามแผนที่วางไว้อาจทำให้คุณไม่ได้ผลลัพธ์ทางธุรกิจตามที่ต้องการ
2. วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายโดยละเอียด
การทำ Social Media Marketing Strategy ที่มีประสิทธิภาพนั้น จำเป็นต้องมีการวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายอย่างละเอียด เพื่อที่จะได้เข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของกลุ่มเป้าหมายอย่างแท้จริง ซึ่งจะช่วยให้นักการตลาดสามารถวางแผนคอนเทนต์และกิจกรรมต่างๆ ให้ตรงกับความสนใจและความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น
3. ศึกษาและวิเคราะห์คู่แข่ง
การทำ Social Media Marketing Strategy ที่มีประสิทธิภาพนั้น จำเป็นต้องมีการศึกษาและวิเคราะห์คู่แข่งทางการตลาดอย่างละเอียด เพื่อที่จะได้เข้าใจจุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรค (SWOT) ของคู่แข่งในการทำ Social Media ได้อย่างถ่องแท้ ซึ่งจะช่วยให้นักการตลาดสามารถวางแผนคอนเทนต์และกิจกรรมต่างๆ ให้แตกต่างจากคู่แข่งได้มากขึ้น และทำให้ผู้ติดตามเกิดความสนใจและจดจำแบรนด์ได้มากขึ้น
4. เลือกแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียให้เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ
ในปัจจุบัน มีช่องทาง Social Media มากมายหลากหลายแพลตฟอร์มให้เลือกใช้ ซึ่งแต่ละแพลตฟอร์มก็มีกลุ่มเป้าหมายและฟีเจอร์พิเศษที่แตกต่างกันไป ดังนั้น การเลือกช่องทาง Social Media ที่เหมาะสมจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการทำ Social Media Marketing Strategy ที่มีประสิทธิภาพ
5. วางแผนและทำ Content Strategy
Content Strategy เป็นส่วนประกอบสำคัญในการทำการตลาดดิจิทัลและกลยุทธ์โซเชียลมีเดีย เพราะเป็นสื่อที่แบรนด์สามารถใช้ส่งต่อข้อความที่ต้องการไปยังกลุ่มเป้าหมายได้อย่างง่ายดาย รวดเร็ว และชัดเจน
การ Content Strategy ที่ดีจำเป็นต้องอาศัยการวิจัยตลาดอย่างแม่นยำ เพื่อเข้าใจเส้นทางการเดินทางของลูกค้า (Customer Journey) และนำมาแปลงเป็นเนื้อหาที่เหมาะกับแต่ละช่วงของกระบวนการซื้อ (Marketing Funnel) ไม่ว่าจะเป็นช่วงสร้างการรับรู้ (Awareness) การพิจารณา (Consideration) และการตัดสินใจ (Decision)
เราสามารถวางแผน Content Strategy อย่างเป็นระบบด้วยการทำ Content Metrix โดยนำข้อมูลจากการวิจัยตลาด ข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมาย และความรู้เรื่อง Customer Journey มาพิจารณาเลือกรูปแบบเนื้อหาที่เหมาะสมกับแบรนด์ ดังนี้
- Entertain คอนเทนต์เพื่อมอบความบันเทิง
- Inspire คอนเทนต์แนวสร้างแรงบันดาลใจหรือทำให้รู้สึกอยากซื้อ
- Educate คอนเทนต์ให้ความรู้
- Convince แนวเชิญชวน ทำให้รู้สึกอยากลอง
6. กำหนดช่วงเวลาในการโพสต์ Content
นอกจากเนื้อหาที่ดีและตรงกลุ่มเป้าหมายแล้ว การเลือกช่วงเวลาในการโพสต์เนื้อหาในแต่ละช่องทางโซเชียลมีเดียเองก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะช่วงเวลาที่ผู้คนใช้งานโซเชียลมีเดียในแต่ละแพลตฟอร์มนั้นแตกต่างกันไป ส่งผลให้ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการโพสต์เนื้อหาในแต่ละแพลตฟอร์มก็แตกต่างกันไปด้วยเช่นกัน
7. สร้าง Content ให้ตรงความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย
ขั้นตอนการสร้างเนื้อหาเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการทำการตลาดคอนเทนต์ เพราะเป็นขั้นตอนที่แบรนด์จะส่งต่อข้อความที่ต้องการไปยังกลุ่มเป้าหมาย
การสร้างเนื้อหาที่มีประสิทธิภาพควรพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้
- Live Video: วิดีโอสดที่แบรนด์สามารถสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้โดยตรง
- วิดีโอแนว How-to: วิดีโอที่ให้ความรู้หรือสอนวิธีทำสิ่งต่างๆ
- วิดีโอแนวแสดง Case Study: วิดีโอที่นำเสนอตัวอย่างความสำเร็จของแบรนด์
8. ปรับปรุงเนื้อหาคอนเทนต์ให้มีความสดใหม่อยู่เสมอ
การทำคอนเทนต์จะไม่หยุดอยู่แค่การสร้างคอนเทนต์ใหม่เท่านั้น แต่ควรที่จะนำคอนเทนต์เดิมมาปรับปรุงให้ดูสดใหม่มากขึ้นอย่างสม่ำเสมอ โดยสามารถทำได้ดังนี้
- อัปเดตข้อมูลให้ทันสมัย
- ปรับรูปแบบให้น่าสนใจยิ่งขึ้น
- เพิ่ม Call to action
9. ติดตามและวิเคราะห์ผล
เมื่อทำการตลาดด้วยคอนเทนต์และวางแผน Social Media Marketing Strategy ไปแล้ว สิ่งสำคัญคือต้อง ติดตามและวิเคราะห์ผลลัพธ์ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อดูว่าแผนที่เราวางเอาไว้นั้นมีประสิทธิภาพมากแค่ไหน และควรที่จะทำการปรับปรุงอะไรได้บ้าง
การติดตามผลลัพธ์ สามารถทำได้โดยการกำหนด ตัวชี้วัด (KPIs) ในการวัดผล เช่น ยอดผู้ติดตาม ยอดไลค์ ยอดแชร์ ยอดคอมเมนต์ ยอดวิว ยอดคลิกลิงก์ เป็นต้น จากนั้นใช้เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูล เช่น Google Analytics, Facebook Insights, Instagram Insights เป็นต้น เพื่อวัดผลและวิเคราะห์ข้อมูล
9 ขั้นตอนที่กล่าวมาข้างต้นจะช่วยให้คุณวางแผนการทำ Social Media Marketing Strategy ให้กับธุรกิจของคุณเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสิ่งสำคัญที่สุดคือคุณต้องรู้ก่อนว่าคุณต้องการใช้ Social Media ไปเพื่ออะไร
อย่าเพียงทำเพราะทุกคนทำหรือทำเพียงแค่ “เพื่อให้มี Social Media” หรือเพื่อให้มี Impression เยอะๆ เมื่อคุณวางแผนได้ชัดเจนแล้ว คุณก็จะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจที่ตั้งไว้ได้ต่อไป
ขอบคุณเนื้อหาจาก:
https://creativetalkconference.com/7-checklist-optimizing-social-media-strategy/
https://www.primal.co.th/th/social/5-processes-to-plan-social-media-strategy/
https://thedigitaltips.com/blog/marketing/social-media-strategy/
